บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +46.2%
Close Jun 24, 2022 Price (THB) 9.30
12M Target (THB) 13.60
Previous Target (THB) 15.50
What’s new?
- คงประมาณการปี 2565 ที่ 1,085 ล้านบาทแต่ ปรับประมาณการปี 2566 ลงเป็น 1,086 ล้านบาท จากผลกระทบของการขายโรงไฟฟ้า Hidaka ในเดือน มิ.ย. 65 (ไม่กระทบกำไรปี 2565 เพราะกำไรส่วนใหญ่ของ Hidaka มาจากการขายไฟในช่วงครึ่งปีแรก)
- คาดกำไรปกติ 2Q65 ราว 240-250 ล้านบาท ลดลง QoQ จากฐานที่สูงแต่เติบโต YoY จากการรับรู้รายได้จากกำลังผลิตใหม่
Our view
- การประกาศแผน PDP 8 ของเวียดนามจะหนุนการเติบโตของ SSP เนื่องจากคาดแผนดังกล่าวจะเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากลมอย่างมีนัยสำคัญ
- ปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 13.60 บาท/หุ้น มี Upside 46.2% แม้การขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่ม โรงไฟฟ้า แต่ SSP มีแผนลดผลกระทบผ่านการทบทวน Credit Rating และปรับโครงสร้างหนี้แล้ว จึงคาดได้รับผลกระทบจำกัด นอกจากนี้ราคาปัจจุบันซื้อขายอยู่บน PER65 เพียง 10.7x คงคำแนะนำ “ซื้อ”
SERMSANG POWER ราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมาเป็นจังหวะสะสม
ขายโรงไฟฟ้าปีนี้แต่ไปกระทบกำไรปีหน้า
แม้ในช่วงต้นเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา SSP มีการประกาศขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Hidaka ขนาด 15MWe ในประเทศญี่ปุ่นออกไปในราคา 2.8 พันล้านเยน (ราว 718 ล้านบาท) แต่เรายังคงประมาณการปี 2565 ที่ 1,085 ล้านบาท (+38% YoY) เนื่องจากกำไรส่วนใหญ่ของโรงไฟฟ้า Hidaka มาจากการขายไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีแรกเป็นหลัก อย่างไรก็ตามหากมองไปปี 2566 บริษัทฯ จะรับรู้ผลกระทบจากการขาย Asset ดังกล่าวแบบเต็มปี เราจึงปรับประมาณการปี 2566 ลงราว 3% เป็น 1,086 ล้านบาท สามารถทรงตัว YoY ได้เพราะมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรแบบเต็มปีจากโครงการโรงไฟฟ้าลมร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม (วินชัย) ขนาด 11MWe และการเติบโตของธุรกิจ Solar Rooftop ในอินโดนีเซียมาชดเชยผลกระทบ
กำไรปกติ 2Q65 มีแนวโน้มเติบโต YoY
เบื้องต้นคาดกำไรปกติที่ราว 240-250 ล้านบาท ลดลง QoQ จากฐานที่สูง (เป็น Historical High) ใน 1Q65 จากรายได้ที่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล และการปิดซ่อมโรงไฟฟ้าชีวมวล UTP ขนาด 8MWe เป็นระยะเวลา 12 วัน แต่จะยังสามารถเติบโตได้ YoY จากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่มีการเข้าลงทุนหรือ COD ในช่วง 2H64-1H65 เช่น โรงไฟฟ้าชีวมวล UTP (ลงทุนใน 3964), โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 1 ขนาด 20MWe (COD ใน 3064), โรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามขนาด 38MWe (COD ใน 4064), และโรงไฟฟ้าลมร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม (เข้าลงทุนใน 1Q65)
การประกาศแผน PDP 8 ของเวียดนามจะช่วยหนุนการขยาย Portfolio
ปัจจุบันแผน PDP 8 ของเวียดนามกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย (รออนุมัติจากนายกรัฐมนตรี) โดยคาดจะมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการภายใน 3Q65 ทั้งนี้แผนดังกล่าวจะเน้นไปที่การลดสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และเพิ่มสัดส่วนกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานลมทั้งรูปแบบ Onshore และ Offshore ทำให้ SSP ซึ่งมีความพร้อมทางด้านการเงิน รวมถึงมีโครงการลมในเวียดนามอยู่แล้ว มีทางเลือกในการลงทุนเพิ่มเติมมากขึ้น โดยในปัจจุบันบริษัทฯกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการลมในเวียดนามอีกไม่ต่ำกว่า 100MWe
ราคาหุ้นอยู่ในโซนถูก เป็นจังหวะสะสม
ในปัจจุบันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยและสหรัฐฯระยะ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับ 2.9-3.1% แล้วเราจึงปรับ WACC ของ SSP ขึ้นเป็น 4.2% เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด และเมื่อประกอบกับการปรับประมาณการปี 2566 ลงทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ลดลงเป็น 13.60 บาท/หุ้น แต่ราคาปัจจุบันยังมี Upside อยู่อีก 46.2% และแม้การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า แต่เรามองว่า SSP มีความเสี่ยงจากประเด็นดังกล่าวน้อยกว่ากลุ่มฯ เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ระหว่างการจัดทำ Credit Rating ใหม่หลังบริษัทฯมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้นมาก รวมถึงอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกจากทั้งสองประเด็นจะทำให้ SSP ได้รับผลกระทบจำกัดจากการขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ราคาปัจจุบันซื้อขายอยู่ บน PER65 เพียง 10.7x ซึ่งต่ำกว่ากลุ่มฯ มาก คงคำแนะนำ “ซื้อ”