Daily Focus: Selective Play

2022SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องและปิดบวกอีก 14.27 จุด ณ สิ้นวัน นำโดยหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT PTTEP และหุ้นกลุ่ม Reopening อย่าง AOT เป็นต้น จากแรงซื้อของทั้งสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติที่ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 667 ลบ.และ 2.6 พันลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติยัง Long Index Futures ต่อเนื่องอีก 1.6 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index อ่อนตัวลงหาระดับ 1,585-1,590 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่กลับมาเป็นลบอีกครั้ง หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลงแรง และเริ่มกลับมากังวลโอกาสเกิด Recession โดยล่าสุด Inflation Expectation 12 เดือน ข้างหน้าสูงถึง 8% ในเดือน มิ.ย. สูงสุดนับตั้งแต่ปี 1987 สะท้อนความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ และ FED ยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ภาพรวมยังสอดคล้องกับที่เราประเมินว่า 3Q22 จะเป็นช่วงที่ต้องติดตามว่าเงินเฟ้อจะมีสัญญาณผ่าน Peak ที่ชัดเจนหรือไม่ ส่วนปัจจัยในประเทศยังดูสดใสมากกว่าและน้ำหนักบวกยังอยู่ที่การ Reopening และเปิดประเทศ เศรษฐกิจอยู่ในช่วงเร่งตัวสวนทางภูมิภาคอื่นที่ชะลอ ยัง เน้นลงทุนในหุ้น Value และ Selective หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และมีแนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 ที่แข็งแกร่ง ถูกกระทบจำกัดจากต้นทุนที่ปรับขึ้น

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และแนวโน้มกำไร 2Q22 2H22 แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : BCP, CK, CPALL, MAJOR, SAWAD

หุ้นเด่นวันนี้ : MAKRO

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก Consensus 44.56 บาท
  • คาดกำไร 2Q22 จะฟื้นตัว Y-Y และลุ้นโต Q-Q สวนทางฤดูกาลปกติที่กำไรมักอ่อนลง จาก 1Q22 คาด SSSG 2Q22 ฟื้นตัวเป็น +5% Y-Y เช่นเดียวกัน Lotus ที่ทยอยฟื้นตัวตามการ Reopen การท่องเที่ยวฟื้นตัว และราคาสินค้าโดยเฉลี่ยปรับขึ้น
  • แนวโน้มกำไร 2H22 ดีขึ้นจาก 1H22 คาดค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้าง MAKRO-Lotus’s ที่ลดลง และเริ่มรับรู้ Synergy ด้าน Consensus คาดกำไรปกติปี 2022-2023 โตปีละ +43% Y-Y จากการรวม Lotus’s เต็มปี ราคาหุ้นเทรดบน 2023PER เพียง 24 เท่า แนวรับ 34 บาท แนวต้าน 36-36.50//37 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาค US$690 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$459 ล้าน และ US$210 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดไหลออกจากอินโดนีเซียสูงสุด แต่ไหลเข้าไทยค่อนข้างหนาแน่น US$75 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังผันผวนต่อเนื่อง จากความกังประเด็นเงินเฟ้อและโอกาสเกิด Recession

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) Finansia Exclusive Talk Special เราได้รับข้อมูลเชิงบวกจากทั้ง 3 บริษัทที่ เราสัมภาษณ์ ได้แก่ SC PR9 และ SAPPE ต่อแนวโน้มการเติบโตใน 2Q22-2H22 ที่โดดเด่น

  • SC (ราคาเป้าหมาย 4.60 บาท) ยอด Presales 1H22 ยังโดดเด่น และคาดทำได้ 60% ของเป้าทั้งปีที่ 2 หมื่นลบ. ประเด็นเงินเฟ้อกระทบจํากัดจากลูกค้าที่อยู่ในตลาดกลาง-บน สามารถบริหารจัดการต้นทุนและพัฒนา Product ให้ตอบโจทย์ลูกค้า รวมถึงปัญหาแรงงานคาดดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้สามารถเร่งสร้าง Stock ได้ แนวโน้มกำไรคาดเร่งตัว Q-Q และ Y-Y ในทุกไตรมาสที่เหลือของปี
  • PR9 (ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 16.50 บาท) ผู้บริหารมองรายได้ปีนี้โตไม่น้อยกว่า 20% Y-Y หนุนจากทั้งผู้ป่วยไทยที่เร่งตัว รวมถึงลูกค้าต่างชาติที่ฟื้นตัวกลับมาใกล้เคียงช่วงก่อน COVID-19 ส่วนเงินเฟ้อผู้บริหารมองบวกจากลูกค้าที่มองหาบริการที่คุ้มค่าด้านราคามากขึ้น ซึ่ง PR9 มีแต้มต่อ คาดกำไรปีนี้ +65% Y-Y
  • SAPPE (ราคาเป้าหมาย 38 บาท อยู่ระหว่างปรับขึ้น) การเติบโตยังดูดีทั้งในประเทศที่ฟื้น และโดยเฉพาะการส่งออกที่ยังเด่น ได้อานิสงส์จากบาทที่อ่อนค่าและช่วยชดเชยฝั่งต้นทุนที่ปรับขึ้น รวมถึงการเพิ่ม Utilization Rate และบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเริ่มเห็น Trend การปรับขึ้นของต้นทุนที่ผ่อน คลายลง เราอยู่ระหว่างปรับเพิ่มประมาณก่าไรปีนี้จากปัจจุบันที่คาด +25% Y-Y

(+) จีนลดวันกักตัวเหลือผู้เดินทางเข้าประเทศ เป็นบวกอ้อมๆ และคาดหวังว่าจะเห็นการผ่อนคลายให้คนจีนเดินทางออกนอกประเทศมากขึ้นในระยะถัดไป เป็นบวกต่อกลุ่ม Reopening Play ทั้งสนามบิน สายการบิน และโรงแรม และธุรกิจภาคบริการที่เกี่ยวเนื่อง โดยเป็นสัญญาณบวกมากขึ้นในแง่มาตรการเดินทางระหว่างประเทศที่ดูผ่อนคลายขึ้น เป็นบวกต่อ AOT AAV SHR ERW CENTEL EKH SPA CPALL AU M

(0) หุ้นเข้าออก SET50-SET100 งวด 2H22 สำหรับ SET50 หุ้นเข้า BLA JMT JMART หุ้นออก COM7 RATCH STGT ส่วน SET100 หุ้นเข้า FORTH ONEE PSL TIPH หุ้นออก BPP RS SIRI TVO

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 491.27 จุด หรือ 1.56% ปิดที่ 30,946.99 จุด จากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับลงเป็น 98.7 ในเดือน มิ.ย. ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 100.0 และ 103.2 ในเดือนพ.ค.

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก หลังจีนผ่อนคลายข้อจำกัดในการควบคุม COVID-19 และหุ้นกลุ่มพลังงานปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง กดดันจากตลาดดาวโจนส์ที่ลดลง

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าขึ้น อยู่ที่บริเวณ 35.06 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 2.19 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 111.76 ดอลลาร์/บาร์เรล จากภาวะอุปทานน้ำมันที่ตึงตัว หลังมีรายงานว่าซาอุดีอาระเบีย และ UAE กำลังผลิตน้ำมันใกล้เต็มศักยภาพและไม่มีแนวโน้มเพิ่มการผลิตนํ้ามัน

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,821.2 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,054.37 / -2.0

- Advertisement -