Retail Market Monitor

เมื่อความกังวลเปลี่ยนจากเงินเฟ้อมาเป็นการเติบโต

ยังคาดหุ้นที่มีโมเมนตัมกำไรเป็นบวกจะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดโดยรวม ภาพรวมนักลงทุนประเมินตลาดจะต้องเผชิญเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค (technical recession) หลัง FED Atlanta ออกมาปรับลดคาดการณ์ GDP ไตรมาส 2/65 เป็น -2.1% (จาก -1%) หรือติดลบ 2 ไตรมาสต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มโยกเงินลงทุนเข้าในสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ พันธบัตร อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยมีแรงกดดัน และทำให้เราประเมินนักลงทุนจำต้องพักเงินบางส่วนในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรยังเป็นบวก ซึ่งได้แก่ ท่องเที่ยว อาหาร ธนาคาร เป็นต้น ขณะที่หุ้นในกลุ่มบริโภคอาจได้รับแรงกดดันจากการรายงานผลประกอบการระยะสั้น แต่มีแนวโน้มจะฟื้นดีในครึ่งปีหลัง ทำให้น่าสนใจทยอยสะสมเมื่ออ่อนตัว กลุ่มนี้ได้แก่ ค้าปลีก การเงิน เป็นต้น

ADVANC เข้าซื้อ TTTBB และ JASIF 19% จาก JAS เช้านี้ ADVANC รายงานเข้าซื้อทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) สัดส่วน 99.87% มูลค่า 19,500 ล้านบาท และหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) สัดส่วน 19% มูลค่า 12,920 ล้านบาท (1,520 ล้านหน่วย ที่หน่วยละ 8.50 บาท) รวมทั้ง 2 ธุรกรรม มูลค่า 32,420 ล้านบาท //เรามองการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขัน และปิดจุดอ่อนของ ADVANC ในตลาดอินเตอร์เนต ความเร็วสูงจากผู้เล่นหมายเลข 4 ขึ้นสู่อันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 40-45% หลังธุรกรรมแล้วเสร็จ ขณะเดียวกันการเข้าซื้อ JASIF นอกจากจะทำให้ JAS สิ้นสุดความเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว ยังทำให้มีความเป็นไปได้ที่ในอนาคต ADVANC อาจจะขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯ หรือใช้กองทุนในการ funding โครงการลงทุนต่างๆ ในอนาคต และอาจทำให้นักลงทุนกลับมาคาดการณ์เกี่ยวกับปันผลพิเศษอีกครั้ง เรามองดีลนี้เป็นบวกต่อแรงเก็งกำไรในหุ้น JAS และ ADVANC

ยังเน้นเลือกหุ้นรายตัวในกลุ่มที่แนวโน้มกำไรเป็นบวก โดยเน้นที่

1) กลุ่มที่โมเมนตัมกำไรเป็นขาขึ้น อาทิ ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า อาหาร และ

2) กลุ่มที่เป็นเป้าหมาย Window dressing ได้แก่ การเงิน โรงไฟฟ้า ค้าปลีก สื่อสาร ซึ่งหุ้นที่เราชอบ ได้แก่ SPA, VRANDA, MBK, CPN, CRC, CPF, TU, KSL, MTC, TIDLOR, SAWAD, BAM, SCGP, BGRIM, GPSC, MAKRO, CPALL, ADVANC, เป็นต้น

ประเด็นเก็งกำไรอื่น

1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE

2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA

3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR

4) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS, BIS, ASIAN

5) หุ้นประกัน TIPH, BLA, TVI, THREL (แค่เก็งกำไรรับไทยประกันเข้า IPO)

6) หุ้นพลังงาน-ปิโตรที่ไม่กระทบจากการขอความร่วมมือ IVL, OR

7) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA

ภาพรวมกลยุทธ์: แรงทำกำไรระยะสั้นอาจกด SET ลงทดสอบ 1,545-1,557 จุด เน้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่โมเมนตัมกำไรเป็นบวก (ท่องเที่ยว อาหาร) ทยอยสะสมเมื่อ่อนตัวในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นในช่วงครึ่งหลัง (กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก การเงิน) และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน (DR และ ETF อิงหุ้นจีน)

หุ้นแนะนำ: ADVANC, MAJOR*, CBG*, MAKRO*

แนวรับ: 1,557-1,565 / แนวต้าน : 1,590 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

  • ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐต่ำสุดรอบ 2 ปี – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 527 ในเดือนมิ.ย.
  • เงินเฟ้อยูโรโซนพุ่งทำนิวไฮใหม่ คาด ECB ขึ้นดอกเบี้ยเดือนก.ค.นี้ – เพิ่มขึ้นจากระดับ 8.1% เป็น 8.6% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 8.4% โดยได้รับแรงกดดันหลักจากราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ราคาอาหารและบริการยังคงมีส่วนสำคัญเช่นกัน
  • “สี จิ้นผิง” ร่วมพิธีรับตำแหน่ง “จอห์น ลี” ผู้นำคนใหม่ของฮ่องกง – โดยนายลี เป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวที่ลงชิงตำแหน่งผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี
  • เซี่ยงไฮ้เปิดบริการกรุ๊ปทัวร์ข้ามมณฑลครั้งแรกในรอบ 3 เดือน – เซี่ยงไฮ้เริ่ม กลับมาเปิดให้บริการกรุ๊ปทัวร์ท่องเที่ยวอีกครั้ง (1 ก.ค.) หลังจากระงับไป 3 เดือน เป็นสัญญาณการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ตลาดท่องเที่ยวทั่วประเทศเริ่มกระเตื้องขึ้น
  • รมว.คลัง เตรียมนัดหารือ ธปท.ขยายมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ อีก 1 ปี – ได้แก่
    1.  มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง เหลือ 0.01%
    2. มาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ที่กำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) เป็น 100%
    3. เร่งผลักดันโครงการบ้านล้านหลัง โดยต้องการให้เอกชนเข้ามาร่วมโครงการมากขึ้นในช่วงที่ภาวะดอกเบี้ยกำลังจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ครม.ได้ขยายสินเชื่อจาก 1.2 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาท มาตรการนี้จะดูแลผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง
  • ตลท.ให้ K, K-W1 ใช้เกณฑ์ Cash Balance – ตั้งแต่ 4 – 22 ก.ค.65

ประเด็นติดตาม:

  • 6 ก.ค. – อาจเห็นการยกเลิกคำสั่งปธน.เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
  • 8 ก.ค. US Nonfamm Payrolls, US Participation Rate, US Unemployment Rate
  • 13 ก.ค. – US CPI / 13-20 ก.ค. – รายงานงบกลุ่มแบงก์

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

ประเด็นลงทุนสําหรับหุ้นแนะนำ

  • เก็งกำไร ADVANC* (220) : การเข้าซื้อ TTTBB และ JASIF ทำให้ประเด็นปันผลพิเศษ มีโอกาสสูงขึ้น ตัดขาดทุน 195 บาท
  • เก็งกำไร MAJOR* (25) : ผลการดำเนินงานฟื้นตัวตามการเปิดเมือง และหน้าภาพยนตร์ที่แข็งแกร่ง ตัดขาดทุน 21 บาท
  • เก็งกำไร CBG* (120): เก็งกำไร Laggard play ในกลุ่มเครื่องดื่มและบริโภค ตัดขาดทุน 105 บาท
  • เก็งกำไร MAKRO* (38): ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการเปิดเมืองและเปิดประเทศ ตัดขาดทุน 33.50 บาท

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

Market News & Factors

ตลาดหุ้นสหรัฐ – ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นอย่างมากในวันศุกร์ (1 ก.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนได้เข้าซื้อหุ้นในวันแรกของช่วงครึ่งปีหลังก่อนวันหยุดยาวในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยตลาดจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นยุโรป – ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวในวันศุกร์ (1 ก.ค.) โดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มปลอดภัยได้บดบังแรงขายหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และกลุ่มที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่นักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีในเดือนก.ค.นี้ โดยข้อมูลที่เปิดเผยในวันศุกร์บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของยูโรโซนเพิ่มขึ้นเกินคาดและแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในเดือนมิ.ย. ซึ่งสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB เนื่องจากอาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับสูงสุด (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น – ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยร่วงลงมากกว่า 2% ในช่วงสั้นๆ เนื่องจากธนาคาร กลางญี่ปุ่น (BOI) เปิดเผยผลสำรวจทั้งกัง (Tankan) บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดใหญ่ลดลงต่ำกว่าคาด ตลอดจนนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ (อินโฟเควสท์)

ตลาดน้ำมัน – สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (1 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวในตลาดโลกนั้น ยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.67 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 108.43 ดอลลาร์/บาร์เรล (อินโฟเควสท์)

ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐ ต่ำสุดรอบ 2 ปี – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.7 ในเดือนมิ.ย. (อินโฟเควสท์)

เงินเฟ้อยูโรโซนพุ่งทำนิวไฮใหม่ คาด ECB ขึ้นดอกเบี้ย เดือนก.ค.นี้ – เพิ่มขึ้นจากระดับ 8.1% เป็น 8.6% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 8.4% โดยได้รับแรงกดดันหลักจากราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ราคาอาหารและบริการยังคงมีส่วนสำคัญเช่นกัน (อินโฟเควสท์)

“สี จิ้นผิง” ร่วมพิธีรับตำแหน่ง “จอห์น ลี” ผู้นำคนใหม่ ของฮ่องกง – โดยนายลีเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวที่ลงชิงตำแหน่งผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี (อินโฟเควสท์)

เซี่ยงไฮ้เปิดบริการกรุ๊ปทัวร์ข้ามมณฑลครั้งแรก ในรอบ 3 เดือน – เซี่ยงไฮ้เริ่มกลับมาเปิดให้บริการกรุ๊ปทัวร์ท่องเที่ยวอีกครั้ง (1 ก.ค.) หลังจากระงับไป 3 เดือน เป็นสัญญาณการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ตลาดท่องเที่ยวทั่วประเทศเริ่มกระเตื้องขึ้น (อินโฟเควสท์)

รมว.คลัง เตรียมนัดหารือธปท.ขยายมาตรการ กระตุ้นอสังหาฯอีก 1 ปี – ซึ่งจะสิ้นสุดลง 31 ธ.ค. 65 นี้ ได้แก่ 1. มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% 2. มาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ที่กำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) เป็น 100% 3. เร่งผลักดันโครงการบ้านล้านหลัง โดยต้องการให้เอกชนเข้ามาร่วมโครงการมากขึ้นในช่วงที่ภาวะดอกเบี้ยกำลังจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ครม.ได้ขยายสินเชื่อจาก 1.2 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาท มารการนี้จะดูแลผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง (อินโฟเควสท์)

ตลท.ให้ K, K-W1 ใช้เกณฑ์ Cash Balance – ตั้งแต่ 4 -22 ก.ค.65 (อินโฟเควสท์)

Report & Corporate News

DELTA Downgraded HOLD TP: 315.00 บาท – เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q22 จะดีขึ้น 64% yoy แต่ยังคงทรงตัว qoq โดยการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง yoy จะมาจากรายได้ที่แข็งแกร่งจากผลิตภัณฑ์พัดลมและ EEV และอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินบาท ในขณะที่กำไรยังคงทรงตัว qoq เนื่องจากการเติบโตของรายได้ที่ชะลอตัวและกำลังการผลิตที่จำกัด เนื่องจากวันหยุดนักขัตฤกษ์จำนวนมากในเดือน เม.ย. 22 เราระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มของ DELTA เนื่องจากความไม่แน่นอนหลายประการ ปรับลดคำแนะนําจาก ซื้อ เป็น ถือ ด้วยราคาเป้าหมาย ลดลงอยู่ที่ 315.00 บาท

TU Maintained HOLD TP: 16.00 บาท – ผลประกอบการใน 2Q22 ของ TU อ่อนแอกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้นเราจึงได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2022-23 ลง 11% และ 5% ตามลำดับ และเราคาดการณ์ว่าตลาดจะปรับลดกำไรลงเช่นกัน เราคาดว่ากำไรปี 2022 จะลดลง 22.7% แต่กำไรปี 2023 จะเพิ่มขึ้น 17.8% ต่อปี ราคาหุ้นน่าจะยัง underperform ในระยะสั้น คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย: 16.00 บาท

IVL – บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) แจ้งว่า บริษัทฯ ได้เข้าซื้อโรงงานปั่นเส้นด้ายขนสัตว์ในประเทศอิตาลี และโปแลนด์ของบริษัท ผู้ผลิตเส้นด้ายและผ้าชั้นนำสัญชาติอิตาลี จากบริษัท Tollegno 1900 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  โดยการซื้อกิจการครั้งนี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ IVL ที่มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และจะเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนสำหรับธุรกิจเส้นด้ายขนสัตว์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ Fibers ของ IVL นอกจากนี้ ยังจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินธุรกิจในยุโรป และช่วยขยายการนำเสนอผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกด้วยบริษัทย่อยที่ดูแลการค้าในอเมริกาและเอเชีย (อินโฟเควสท์)

ADVANC – บมจ.แอดวาน อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ AIS ได้บรรลุข้อตกลงในการซื้อหุ้นในบริษัท Startup จำนวน 3 แห่งจาก บมจ.อินทัช โฮลดิ้ง (INTUCH) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ AIS ด้วยเงินลงทุนราว 239 ล้านบาท ได้แก่ 1.บริษัท ช็อคโก้ ดาร์ค เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (Choco) ประกอบธุรกิจพัฒนาและให้บริการระบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM Platform) สำหรับลูกค้าองค์กรและร้านค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก สัดส่วนการลงทุน 20.71% 2.บริษัท ดาต้าฟาร์ม จำกัด (Datafarm) เป็นผู้ให้บริการงานทดสอบและประเมินความปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สัดส่วนการลงทุน 25.00% 3.บริษัท สวิฟท์ ไดนามิคส์ จํากัด (Swift Dynamics) เป็นผู้พัฒนาและให้บริการไอโอทีโซลูชันแบบครบวงจร เพื่อใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ด้านอาคาร (Smart Building) โรงงาน (Smart Factory) และการผลิต (Smart Manufacturing) เป็นต้น สัดส่วนการลงทุน 16.67% (อินโฟเควสท์)

- Advertisement -