บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action TRADING (Maintain)

TP upside (downside) +10.9%

Close Jul 1, 2022 Price (THB) 338.00

Target (THB) 375.00

Previous Target (THB) 430.00

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 2Q65 ที่ 2.3 พันล้านบาท (+3.5% QoQ, +62.5% YoY) ทรงตัว QoQ แม้ยอดขายลดลง แต่ชดเชยด้วย GPM ที่ฟื้นตัว และค่าเงินบาท/USD ที่อ่อนค่า
  • แนวโน้ม 2H65 คำสั่งซื้อจากลูกค้ายังแข็งแกร่ง แต่จะสามารถสร้างยอดขายได้ดีอย่างที่ DELTA คาดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการจัดการปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบเป็นสำคัญ

Our view

  • ความเสี่ยงมหภาคที่เริ่มก่อตัว ทำให้เราเพิ่มความระมัดระวัง และปรับลด P/E-Multiple จากเดิมที่ให้ไว้ระดับ +1.0SD ลงเป็น +0.5SD เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เพิ่มขึ้น
  • เราคงคำแนะนำ “TRADING” แต่ผลจากการปรับ P/E Multiple ลง ทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ลดลงเป็น 375.00 บาทต่อหุ้น (อิง PER 52x,+0.5SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี)

DELTA ELECTRONICS ปรับลด PE-BAND สะท้อนความเสี่ยงการเกิด Recession

คาดกําไรปกติ 2Q65 ทรงตัว QoQ แต่เติบโตเด่น YoY

คาดกำไรปกติ 2Q65 ที่ 2.3 พันล้านบาท (+3.5% QoQ, +62.5% YoY) กำไรทรงตัว QoQ แม้คาดยอดขาย ลดลงจากปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ แต่ชดเชยด้วย GPM ที่ฟื้นตัว และค่าเงินบาท/USD ที่อ่อนค่า เติบโตเด่น YoY เป็นผลบวกจากฐานต่ำใน 2Q64 และยอดขายที่ยังแข็งแกร่ง สรุปสาระสำคัญดังนี้

1) คาดรายได้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ 705 ล้านเหรียญ (5.0% QoQ, +7.4% YoY) ยอดขายเติบโตดี YoY หนุนจากสินค้ากลุ่ม Data Center เป็นหลัก ขณะที่เปรียบเทียบ QoQ เราคาดยอดขาย -5.0% เนื่องจาก DELTA ได้รับแรงกดดันจาก 1) วันหยุดยาวในช่วงสงกรานต์ที่ทำให้วันผลิตลดลง 2) ผลกระทบจากการ Lockdown ในจีน ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ (สั่งซื้อวัตถุดิบจากจีนราว 45% ของวัตถุดิบทั้งหมด)

2) คาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 21.5% (+54bps QoQ, -20bps YoY) GPM ที่ดีขึ้น QoQ ได้แรงหนุนจากค่าเงิน บาท/USD ที่อ่อนค่าลง +3.4% QoQ และสัดส่วนการขายสินค้ากลุ่ม Data Center ซึ่งเป็นธุรกิจที่มี GPM สูง

3) คาด SG&A ที่ 3.0 พันล้านบาท (+1.5% QoQ, -4.6% YoY), คาด SG&A to sales 12.4% ใกล้เคียง 1Q65 หากกำไรออกมาตามคาด กำไร 1H65 คิดเป็น 51% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2565 ที่ของเรา 8.9 พันล้านบาท (+47% YoY) DELTA จะรายงานผลประกอบการในวันที่ 26 ก.ค. 2565

DELTA ยังคง Guidance 2H65 เด่นกว่า 1H65 … เราคงประมาณการปี 2565

แนวโน้ม 2H65 DELTA ให้ Guidance ว่าคำสั่งซื้อจากลูกค้ายังแข็งแกร่ง แต่จะสามารถสร้างยอดขายได้ดีอย่างที่คาดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการจัดการปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบเป็นสำคัญ โดยปัญหาดังกล่าว DELTA คาดจะคลี่คลายลงในช่วง 3Q65 และถึงแม้ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบจะเข้ามากดดันในช่วง 2Q-3Q65 แต่ DELTA คาดจะสามารถเร่งยอดขายใน 4Q65 เพื่อเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ทำให้ทั้งปี 2565 DELTA ยังคงเป้ารายได้โต 10-20% YoY โดยแบ่งเป็น 1H:45% และ 2H:55% และ Guidance GPM ที่ 23% แม้มีแรงกดดันจากด้านต้นทุน ทำให้เป้าหมายการเติบโตของ DELTA มีความท้าทาย แต่ประมาณการของเราคาดรายได้สกุลเงิน USD +10% YoY เป็นแค่ขอบล่างที่บริษัทให้ไว้ และ GPM ที่ 22% อีกทั้งแนวโน้มค่าเงินบาท/USD ที่ยังอ่อนค่าน่าจะชดเชยแรงกดดันด้านต้นทุนได้บางส่วน ทำให้เราคงประมาณการปี 2565 ปรับลด P/E Multiple ลงเพื่อสะท้อนความเสี่ยงจากปัจจัยยมหภาค

แม้แนวโน้มระยะสั้นคำสั่งซื้อยังแข็งแกร่ง แต่เราเริ่มเล็งเห็นปัจจัยเสี่ยงมหภาคที่ตามมาด้วยภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามมาในช่วง 1-2 ปีจากนี้ โดยปกติเศรษฐกิจถดถอยจะกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ และกระทบให้สินค้าไม่จำเป็นหรือสามารถชะลอการซื้อได้มียอดขายที่ลดลง เป็นความเสี่ยงสำคัญต่อ DELTA ที่ต้องติดตาม

ในแง่ของ PE-BAND ภายใต้ความเสี่ยงมหภาค มีความเป็นไปได้ที่ DELTA จะถูกปรับลดการซื้อ ขาย จากปัจจุบันที่ระดับ +0.5SD ลงเป็นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว หากภาวะเศรษฐกิจถดถอยเกิดขึ้นอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี กรณีของ DELTA เราปรับลด PE Multiple จากเดิมที่ให้ไว้ระดับ +1.0SD ลงเป็น +0.5SD เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เพิ่มขึ้น แต่ที่เรายังให้ส่วนเพิ่มอยู่ เนื่องจากเรายังชอบธุรกิจหลักของ DELTA ที่เกาะไปกับการเติบโตมหาศาลของ 5G และ EV Car ดังนั้นหุ้นสมควรถูกซื้อขายมากกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว

ปรับลดราคาเหมาะสมเป็น 375.00 บาทต่อหุ้น แนะนํา “TRADING”

เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ที่ 8.9 พันล้านบาท (+47% YoY) และคงคำแนะนำ “TRADING” แต่ผล จากการปรับ P/E Multiple ลง ทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ลดลงเป็น 375.00 บาทต่อหุ้น (อิง PER 52X,+0.5SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี)

ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) ค่าเงินบาท/USD 2) ราคา Commodity ที่ขึ้นต่อเนื่อง 3) เกิดการระบาดที่รุนแรง ของ COVID-19 กระทบสายการผลิต และ 4) การเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

- Advertisement -