บล.ทรีนีตี้

ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป – TISCO

คาดกำไร 2Q65 อ่อนตัวเล็กน้อย QoQ

  • คาดกำไร 2Q65 ที่ 1,751 ล้านบาท อ่อนตัว 2%QoQ แต่ยังโต 5%YoY รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอาจลดลง จากกำไรจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะตลาดฯ
  • ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้อาจเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ
  • การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อาจกระทบ NIM ในปี 66 แต่การปรับลดเงินนำส่ง FIDF คาดกระทบไม่มาก
  • ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 104 บาท อิง PBV 1.86 เท่า คงคำแนะนำ “ซื้อ”

คาดกำไร 2Q65 อ่อนตัวเล็กน้อย QoQ

เราคาดกําไร 2Q65 ที่ 1,751 ล้านบาท อ่อนตัวเล็กน้อย 2%QoQ แต่ยังเติบโต 5%YoY โดยมีประเด็นสำคัญคือ

1. คาดรายได้ดอกเบี้ยสุทธิทรงตัว QoQ จากสินเชื่อที่ยังเติบโตต่ำ เนื่องจากธนาคารยังคงการปล่อยสินเชื่อในเชิงระมัดระวัง

2. คาดรายได้ค่าธรรมเนียมปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากฐานต่ำราว 3%QoQ แต่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอื่นๆ อาจลดลง 72%QoQ โดยเฉพาะกำไรจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะตลาดฯ ที่อ่อนตัวลง และอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้น

3. คาดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้อยู่ที่ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%QoQ โดยในส่วนของคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้น ทำให้การตั้งสำรองปกติยังอยู่ในระดับต่ำ แต่อาจเห็นการเพิ่มสำรองส่วนเกินอีกเล็กน้อยเพื่อรับความผันผวนทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากระดับสำรองส่วนเกินในปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูง

ปี 65 คาดปัจจัยหนุนยังมาจากสำรองหนี้ที่ลดลง

เรายังคงคาดกำไรปี 65 ที่ 7.1 พันล้านบาท เติบโต 5%YoY แม้สถานการณ์เศรษฐกิจอาจทำให้สินเชื่อเติบโตได้ไม่มาก แต่กลยุทธ์ที่จะเน้นไปทางสินเชื่อ High Yield มากขึ้นจะช่วยชดเชยได้ ขณะที่ในปี 66 คาดกำไรอยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท เติบโต 5%YoY โดยการฟื้นตัวของกำไรยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งกดดัน NIM สำหรับประเด็นการปรับขึ้นเงินนำส่ง FIDF กลับมาที่ 0.46% คาดไม่กระทบต่อ NIM มากนัก เนื่องจากธนาคารอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในส่วนที่ให้ความช่วยเหลือกับลูกหนี้บางส่วนมาชดเชย (เดิม ธปท. ปรับลดเงินนำส่ง FIDF เมื่อปี 63 เพื่อให้ธนาคารนำส่วนต่างไปช่วยเหลือลูกหนี้) และประเด็นการยกเลิกการจำกัดอัตราการจ่ายปันผลคาดไม่กระทบเช่นกัน เนื่องจากเดิม TISCO ได้จำกัดการจ่ายปันผลจากธุรกิจธนาคาร แต่เพิ่มการจ่ายปันผลจากบริษัทลูกอื่นๆ เพิ่มเติม ทำให้อัตราการจ่ายปันผลรวมยังอยู่ในระดับสูง หากสามารถจ่ายปัน ผลจากธุรกิจธนาคารเพิ่มขึ้นได้ ก็อาจลดการจ่ายปันผลจากบริษัทลูกอื่นๆ มาอยู่ในระดับปกติ

ปรับราคาเป้าหมายลงเล็กน้อย

เราปรับราคาเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 104 บาท อิง PBV 1.86 เท่า แม้จะไม่ได้ปรับประมาณการกำไร แต่ได้ปรับสมมติฐาน Rf เพิ่มขึ้นจากเดิม 20% เป็น 2.8% เพื่อสะท้อนอัตราดอกเบี้ยในตลาด โดยปัจจุบันยังมี Upside จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง: แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อ NIM

 

- Advertisement -