บล.ทรีนีตี้:

ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป – TU

คาดกําไร 2Q65 อ่อนตัวจาก One-time

  • คาดกำไร 2Q65 ที่ 1,338 ล้านบาท อ่อนตัว 23%QoQ และ 43%YoY
  • คาดรายได้ยังโตดี โดยความต้องการสินค้ายังดีขึ้น และยังได้ผลบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า แต่อัตรากำไรขั้นต้นอาจอ่อนตัวจากต้นทุนที่สูงขึ้นตามเงินเฟ้อ
  • ปัจจัยกดดันหลักมาจากการบันทึกค่าใช้จ่ายที่เป็น One-time เข้ามาในไตรมาสนี้
  • ธุรกิจ Red Lobster ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ ทำให้ยอดขายลดลง
  • ปรับประมาณการกำไรปี 65-66 ลง 4% และ 2% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนต้นทุน และค่าใช้จ่ายที่ถูกกดดันโดยเงินเฟ้อ และปรับประมาณการ Red Lobster ลงด้วย
  • ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 18 บาท คาดผลประกอบการ 2Q65 ที่อ่อนตัวลงยังเป็นปัจจัยกดดันในช่วงสั้น แนะนำ “ถือ”

คาดกำไร 2Q65 อ่อนตัวจาก One-time

เราคาดกำไร 2Q65 ที่ 1,338 ล้านบาท อ่อนตัว 23%QoQ และ 43%YoY โดยปัจจัยกดดันหลักในไตรมาสนี้มาจากรายการพิเศษ 2 รายการ คือ การบันทึกขาดทุนจากการปิดโรงงานอาหารกระป๋อง Rugen Fisch ในเยอรมันราว 250 ล้านบาท และการบันทึกขาดทุนจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนใน Preferred Shares ของ Red Lobster เข้ามาราว 600 ล้านบาท (เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น ส่งผลต่อมูลค่าของตราสารที่ถืออยู่) แต่อาจมีผลบวกจากกำไรจาก Fx เข้ามาช่วยชดเชยได้บ้าง ในด้านผลการดำเนินงานปกติ คาดยอดขายยังเติบโต  เนื่องจากความต้องการสินค้าทั้งในส่วนธุรกิจอาหารทะเลกระป๋องและธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งยังเพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวยังส่งผลบวกต่อการบันทึกรายได้ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ราว 17.3% จากต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่สูงขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังค่าใช้จ่ายในการขนส่งยังสูงต่อเนื่อง ด้านผลขาดทุนจากบริษัทร่วมอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ธุรกิจของ Avanti Feeds คาดดีขึ้นจาก ความต้องการอาหารกุ้งที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการเลี้ยงกุ้ง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจของ Red Lobster ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อและราคาพลังงานที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ ทำให้การบริโภคลดลง และทำให้ Red Lobster อาจจะขาดทุนเพิ่มขึ้นได้

ปรับลดประมาณการลง

เราปรับประมาณการกำไรปี 65-66 ลง 4% และ 2% มาอยู่ที่ 6,414 ล้านบาท (-20%YoY) และ 7,117 ล้านบาท (+11%YoY) ตามลำดับ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับลดประมาณการมารอบหนึ่งแล้ว เพื่อสะท้อนต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ยังถูกกดันจากเงินเฟ้อ ขณะที่มีการปรับประมาณการส่วนแบ่งกำไรจาก Red Lobster ลง

ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 18 บาท

จากการปรับประมาณการเราจึงให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 18 บาท อิง Justified PBV 1.5 เท่า (เดิม 1.7 เท่า โดยปรับเพิ่มประมาณการ Rf จากเดิม 2.0% เป็น 2.8% ด้วย) ด้วยผลประกอบการ 2Q65 ที่อาจอ่อนตัวลงทำให้คาดราคาหุ้นยังไม่ Perform ในช่วงสั้น แนะนำ “ถือ”

ความเสี่ยง: ผลกระทบจาก COVID-19 ต่อบางธุรกิจของบริษัท

 

- Advertisement -