บล.พาย:

ADVANC: บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส

แรงกระตุ้นต่อการเติบโตของธุรกิจบรอดแบนด์

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 259 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) อิง 26.4xPE’22E ประเด็นการเข้าซื้อกิจการ TTTBB และหน่วย JASIF ในการประชุมนักวิเคราะห์ให้ภาพเชิงบวกต่อธุรกิจบรอดแบนด์ของบริษัท  เชื่อว่าราคาหุ้นที่ลดลง 12% YTD ได้เปิดโอกาสในการเข้าสะสมหุ้นดีที่มีเงินปันผลสูงขึ้น

คาดว่าดีลจะเป็นผลดีอย่างมากต่อบริษัท

  • เชื่อว่าธุรกรรมทั้งหมดจะสร้าง upside 8.5% ต่อประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) สำหรับปี 2023 ผ่าน adjusted EPS ที่ 11.54 บาท/หุ้น คาดว่าดีล TTTBB จะผ่านการอนุมัติ และเอื้อให้บริษัทได้ประโยชน์ร่วมทาง เครือข่าย และการประหยัดต้นทุนในช่วงการขยายกิจการบรอดแบนด์ แต่ดีลกับ JASIF อาจมีการปรับรายละเอียดเพื่อให้น่าดึงดูดกว่านี้ เพราะเชื่อว่าข้อเสนอปัจจุบันยังไม่น่าดึงดูดต่อผู้ถือหุ้นมากพอ

กำไร 2Q22 จะช่วยพยุงให้กำไรทั้งปี 2022 เป็นไปตามคาด

  • ประเมินกำไรสุทธิ 2Q22 ที่ 6.5 พันล้านบาท (-7% YoY, +4% QoQ) แม้มีการแข่งขันสูงแต่ต้นทุนที่ต่ำตามฤดูกาลจะช่วยหนุนให้กำไรโต QoQ
  • เชื่อว่ารายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) ใน 2Q22 จะลดลงเหลือ 207 บาท (-4% QoQ) จากสงครามราคาที่ดำเนินต่อเนื่อง เพราะกลุ่มผู้ประกอบการต่างจ้องคว้าจำนวนสมาชิกให้ได้มากที่สุดก่อนดีล TRUE-DTAC จะเกิดขึ้น คาดสมาชิกบริการมือถือที่ 45.1 ล้านราย (+ 5.0 แสนราย QoQ) ต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่น เพราะคาดว่า TRUE จะมีลูกค้ากลุ่มเติมเงินเพิ่มขึ้นมากที่สุด เนื่องจากนักท่องเที่ยวเข้าถึงบริการได้ง่ายผ่านร้าน 7-11 และอื่นๆ รวมถึงลูกค้ากลุ่มรายเดือน เพราะมีราคาที่ต่ำสุด (TRUE ที่ 299 บาท เทียบ DTAC และ ADVANC ที่ 349 บาท)

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 259 บาท

คงคำแนะนำ “ซื้อ” คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC: 8.7%, TG: 2%) เลือก ADVANC เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มโทรคมนาคม คำแนะนำซื้อ สะท้อนศักยภาพในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง ภาพรวมการเติบโตที่มั่นคง และ ความสามารถในการลงทุนเพื่อรักษาทิศทางการเติบโตในอนาคตที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

พรีวิวกำไร 2Q22

  • คาดกำไรสุทธิ 2Q22 ที่ 6.5 พันล้านบาท (-7% YoY, +4% QoQ) การเติบโตในเชิง QoQ มาจากค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ที่ลดลงตามฤดูกาล และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่สูงขึ้น ส่วนที่ลดลง YoY เป็นผลจากรายได้ที่ลดลง ต้นทุนที่สูงขึ้นจากการให้บริการสตรีมมิ่ง และภาษีจ่ายที่สูงขึ้น (อัตราภาษี 1Q21 ที่ 17.7% ส่วนใน 1Q22 อยู่ที่ 19.5%)
  • ประเมินรายได้ 2Q22 ที่ 4.2 หมื่นล้านบาท (ทรงตัว YoY, -6% QoQ) การทรงตัว YoY และลดลง QoQ เป็นผลจาก ARPU ที่ลดลงต่อเนื่อง
  • คาด GPM ที่ 33.7% (-0.9ppts YoY, +1.5ppts QoQ) ลดลง YoY จากต้นทุนบริการ Disney Plus ที่สูงขึ้น แต่โตขึ้น QoQ เพราะอัตรากำไรของยอดขายมือถือที่สูงขึ้นในไตรมาส 2 ซึ่งเคยเป็นเช่นนี้มาแล้วในปี 2020 และ 2021

ดีลต้องได้รับการอนุมัติจากภายนอกก่อน ส่วน ADVANC ไม่มีเงื่อนไขการโหวตจากผู้ถือหุ้นของตน

  • บริษัทมีแผนเข้าซื้อหุ้น 99.87% ใน TTTBB ด้วยจำนวนเงิน 1.95 หมื่นล้านบาท และ 19.00% ใน JASIF คิดเป็น 1.29 หมื่นล้านบาท โดยมีแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่มาจากการกู้ยืม
  • ดีล JASIF จะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหน่วย JASIF เสียก่อน ส่วนดีล TTTBB ต้องได้รับการอนุมัติจาก กสทช. ก่อน ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าดีลจะแล้วเสร็จภายใน 1H22

คาด กสทช. จะอนุมัติดีล TTTBB

เชื่อว่า กสทช. จะอนุมัติการเข้าซื้อ TTTBB ของ ADVANC ทั้งนี้ ผู้บริหารของบริษัทชี้แจง 2 ข้อแตกต่างสำคัญระหว่างธุรกิจบรอดแบนด์และบริการเครือข่ายมือถือดังนี้:

1) อุตสาหกรรมบรอดแบนด์มีอัตราการเข้าถึง 53% สะท้อนถึงโอกาสในการเติบโตอีกมาก ต่างกับตลาดบริการเครือข่ายมือถือที่อิ่มตัวแล้ว ด้วยอัตราการเข้าถึงบริการที่ 130%+

2) ดีลการควบบริษัทในตลาดมือถือจะนำไปสู่สภาวะตลาดผู้เล่น 2 ราย ด้วยการที่ผู้เล่นแต่ละรายมีส่วนแบ่งลูกค้าราว 50% แต่ในตลาดบรอดแบนด์ นั้นมีผู้เล่นมากกว่า 10 ราย โดย AIS และ 3BB ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 35%

 

ดีล JASIF ยังไม่น่าดึงดูดต่อผู้ถือหน่วย แต่คาดว่าจะบรรลุข้อตกลงกันได้ในท้ายที่สุด

เชื่อว่าผู้ถือหน่วย JASIF จะยังไม่พอใจกับข้อเสนอเบื้องต้นของบริษัทใน 2 ประเด็นด้วยกันดังนี้

  • ข้อเรียกร้องในการเจรจาข้อตกลงการประกันรายได้ของ JASIF กับ 3BB ใหม่ คิดเป็นสัดส่วนราว 20% ต่อรายได้รวมและกำไรของ JASIF
  • การขยายอายุสัญญาปัจจุบันกับ 3BB ออกไปอีก 5 ปี จาก 2032 เป็น 2037 ที่อาจกระทบมูลค่าของ JASIF อย่างมีนัยสำคัญ
  • เพื่อเป็นการตอบแทนทางบริษัทได้ให้คำมั่นในการลดความเสี่ยงของ JASIF ลง (เพราะปัจจุบัน 3BB เป็นธุรกิจที่ขาดทุน) ด้วยการลดดอกเบี้ยจ่าย เพราะ 3BB จะถูกซื้อโดย ADVANC ที่มีกระแสเงินสดมั่นคงและงบดุลที่แข็งแกร่ง

Source: Pi Research, company data and presentation

 

ดีล TTTBB และ JASIF จะเป็นคุณต่อกำไรปี 2023-24

  • เชื่อว่า EPS ปี 2023 และ 2024 จะมี upside 8.5% และ 9.9% ตามลำดับ
  • ARPU ในธุรกิจบรอดแบนด์จะเพิ่มขึ้นอย่างมากของบริษัทจากลูกค้าของ TTTBB ที่เพิ่มเข้ามาจำนวนมาก (อย่างน้อย 2.4 ล้านรายที่ยังชำระค่าบริการอยู่) และ ARPU เฉลี่ยที่ 597 บาท โดย TTTBB จะมีสัดส่วนโดยตรงอย่างน้อย 60% ต่อประมาณการรายได้ธุรกิจบรอดแบนด์ปี 2023
  • หากดีล JASIF ประสบความสำเร็จ เชื่อว่าจะสร้าง upside ให้บริษัทได้ แต่อาจต่ำกว่าดีล TTTBB เพราะต้องจ่ายค่าเช่าให้กับ JASIF บวกกับมีค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่ายที่สูงกว่า เนื่องจาก ADVANC อาจต้องขยายโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น แต่เชื่อว่าประโยชน์ร่วมและการประหยัดต้นทุนในระยะยาวจะคุ้มค่าต่อเงินที่ลงทุนไป

Source: Pi Estimate

Revenue breakdown

รายได้ของบริษัท มาจาก 3 ธุรกิจหลัก

(1) บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือคิดเป็น 65% ของรายได้ปี 2021 บริษัทมีผู้ใช้บริการทั้งหมด 44.1 ล้านรายทั่วประเทศ โดยมีผู้ใช้บริการที่ชำระล่วงหน้า (ระบบเติมเงิน) คิดเป็นสัดส่วน 74% ของผู้ใช้บริการทั้งหมด และส่วนที่เหลือเป็นผู้ใช้บริการแบบชำระภายหลัง (แบบระบบราย เดือน) นอกจากนี้ยังยอดขายของ SIM และอุปกรณ์มือถือ ซึ่งโดยปกติจะรวมอยู่กับบริการหรือเสนอให้กับลูกค้าแยกต่างหากมีสัดส่วน 20% ของรายได้ทั้งหมด

(2) บริการอินเตอร์เน็ตความเร็ว (FBB) สูงคิดเป็น 5% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งบริษัทให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบริการส่งสัญญาณอื่นๆ บนเครือข่ายใยแก้วนำแสงของบริษัท ในปัจจุบันบริษัทมีผู้ใช้บริการ 1.8 ล้านราย

(3) ธุรกิจดิจิตอลเซอร์วิสเป็นส่วนที่เหลืออีกราว 11% ซึ่งแบ่งเป็นธุรกิจแพลตฟอร์มวิดีโอ บริการคลาวด์สำหรับธุรกิจ  บริการอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) ดาต้าเซ็นเตอร์ และบริการเช่าอุปกรณ์อื่นๆ

- Advertisement -