บล.ทรีนีตี้:
ธนาคารกรุงไทย – KTB คาดกําไร 2Q65 อ่อนตัว QoQ
- คาดกำไร 2Q65 ที่ 7,770 ล้านบาท อ่อนตัว 12%QoQ แต่โต 29%YoY รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอาจทรงตัว หลังสินเชื่อเติบชะลอตัวจากฐานสูง
- ปัจจัยกดดันหลักมาจากกำไรจากเงินลงทุนที่คาดว่าจะลดลงตามภาวะตลาด
- ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้อาจเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ยังคงประมาณการกำไรปี 65 ที่ 27,303 ล้านบาท (+26%YoY) แต่ต้องติดตามปัจจัยด้านเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง
- ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 15.60 บาท Upside ค่อนข้างจำกัด แนะนำเพียง “ถือ”
คาดกำไร 2Q65 อ่อนตัว QoQ ผลกระทบจากเงินลงทุน
เราคาดกำไร 2Q65 ที่ 7,770 ล้านบาท อ่อนตัว 12%QoQ แต่เติบโต 29%YoY โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิอาจทรงตัว หลังแนวโน้มสินเชื่อเริ่มชะลอตัวจากฐานสูง ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมอาจเติบโตได้เล็กน้อยราว 1%QoQ ซึ่งได้อานิสงส์จากการเปิดเมืองที่อาจทำให้จำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม กำไรจากการเงินลงทุนอาจอ่อนตัวลง หลังได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดทุน และดอกเบี้ยในตลาดที่สูงขึ้น ส่งผลให้คาดรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยโดยรวมลดลงราว 10%QoQ ขณะที่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้อาจเพิ่มขึ้นราว 10%QoQ แม้คาดว่าคุณภาพหนี้จะยังทรงตัวได้ แต่ ด้วยฐานสำรองหนี้ในไตรมาสก่อนที่ค่อนข้างต่ำ บวกกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง ทำให้เราคาดว่าธนาคารจะปรับเพิ่มสำรองส่วนเกินเพื่อรองรับความเสี่ยง
ยังคงประมาณการกำไรปี 65
เรายังคงประมาณการกำไรปี 65 ที่ 27,303 ล้านบาท (+26%YoY) เพื่อสะท้อนแนวโน้มค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ที่คาดว่าจะลดลงจากปี 64 ขณะที่ในด้านผลการดำเนินงานปกติคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ไม่สูงมาก หลังในปี 64 สินเชื่อภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามปัจจัยด้านเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังที่อาจส่งผลกระทบต่อคาดการณ์สินเชื่อและคุณภาพหนี้ของเราได้
Upside ยังไม่จูงใจ ปรับคำแนะนำเป็น “ถือ”
เราให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 15.60 บาท อิง PBV 0.58 เท่า โดยปรับลดสมมติฐาน Rf จากเดิมที่ 2.0% เป็น 2.8% แม้ว่าการที่ ธปท. ผ่อนคลายนโยบายการจ่ายปันผล จะทำให้คาดการณ์ Dividend Yield จากราคาปัจจุบันจะอยู่ที่ราว 4% แต่ด้วยราคาหุ้นที่ใกล้เคียงราคาเป้าหมายของเรา ทำให้ Upside รวมค่อนข้างจำกัด จึงปรับคำแนะนำเป็นเพียง “ถือ”
ความเสี่ยง: การชะลอตัวของเศรษฐกิจ / คุณภาพหนี้ที่แย่ลง