บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +40.0%

Close Jul 7, 2022 Price (THB) 45.00

12M Target (THB) 63.00

Previous Target (THB) 57.00

What’s new?

  • คาดกำไรสุทธิ 2Q65 ที่ 1.45 หมื่นล้านบาท (+3% QoQ, +74% YoY) ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นไตรมาสที่ 2 หนุนจากดีล M&A Oxiteno, ไฮซีซั่น PET ในภูมิภาค, MTBE margin และกำไรสินค้าคงคลัง
  • กำไร 1H65 มีแนวโน้มดีกว่าที่เรา Bloomberg consensus คาดไว้ก่อนหน้า และปรับกำไรสุทธิปี 2565 2566 ขึ้น 12-38% เป็น 4.0 – 4.4 หมื่นล้านบาท โดยยังไม่รวม Upside จากเงินเคลมประกันภัย และกำไรการซื้อกิจการ

Our view

  • IVL เป็น Growth stock ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าขยายตัว 1 เท่าตัวทุก 5 ปี หรือ 15% CAGR
  • ได้รับผลกระทบจาก Recession น้อยกว่าคู่แข่ง เพราะ 70% ของผลิตภัณฑ์ใช้ใน End-product สินค้า จำเป็นที่ใช้ครั้งเดียว, กว่า 10 ปีที่ผ่านมา อุปสงค์ CPET ขยายตัวได้ต่อเนื่องแม้ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
  • บริษัทฯ Fixed อัตราดอกเบี้ยแล้วราว 70% ทำให้มี Exposure ดอกเบี้ยขาขึ้นจำกัด
  • ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนงบที่โดดเด่น เทียบกับปี 2561 หุ้นมีกำไร และ ROE สูงกว่า แต่ Valuation ยังต่ำกว่า

INDORAMA VENTURES อาจเห็นนิวไฮอีกไตรมาส

คาด 2Q65 ขยายตัว QoQ และ YoY ทำ All-time high เป็นไตรมาสที่ 2

แม้ 2Q65 จะมีปัจจัยถ่วงจากการแพร่ระบาดในประเทศจีน ทำให้อุปสงค์ Fiber ลดลง, การปรับตัวลงของ MEG margin และค่าเสื่อมราคา – ต้นทุนการเงินสูงขึ้นจากการรวมงบ Oxiteno ตั้งแต่ 1 เม.ย. อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่าผลประกอบการ 2Q65 จะออกมาแข็งแกร่ง คาดกำไรสุทธิที่ 1.45 หมื่นล้านบาท (+3% QoQ, +74% YoY) ทำระดับสูงสุดใหม่ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 หนุนจากปริมาณขายผลิตภัณฑ์กลุ่ม IOD สูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Surfactant จาก Oxiteno, การเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของอุปสงค์ PET ในภูมิภาค, การพุ่งขึ้นของ MTBE Margin สอดคล้องราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ และกำไรสินค้าคงคลัง 4.1 พันล้านบาท (ใกล้เคียง 1Q65) โดยรวมเราคาดปริมาณผลิต 3.8 ล้านตัน (ทรงตัว QoQ แต่ +5% YoY) และอัตรากำไร Core EBITDA/ต้น จะทำได้ US$178/ตัน (+5% QoQ, +34% YoY)

ปรับกำไรปี 2565 – 2566 ขึ้น 38% และ 12% ตามลำดับ

แนวโน้ม 3Q65 แม้จะผ่านช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจไปแล้ว แต่คาดผลประกอบการยังอยู่ในเกณฑ์ดี หนุนจากอุปสงค์ Fiber ในภูมิภาคฟื้นตัว หลังการแพร่ระบาดในจีนเริ่มมีสัญญาณคลายตัว และเข้าสู่ US Driving season เต็มไตรมาส ทำให้ MTBE margin สูงขึ้น หาก 2Q65 เป็นไปตามคาด กำไร 1H65 จะทำได้ดีกว่าที่เรา และ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ก่อนหน้ามาก (ทั้งปี 3.2 หมื่นล้านบาท) เราปรับกำไรสุทธิปี 2565 – 2566 ขึ้น 38% เป็น 4.4 หมื่นล้านบาท (เติบโต +67% YoY และเป็น All-time high) และ 12% เป็น 4.0 หมื่นล้านบาท (-9% YoY) ตามลำดับ โดยหลักมาจากการปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรของธุรกิจ CPET จากสัญญาราคาขายในภูมิภาคตะวันตกสูงกว่าคาด และรวมกำไรสินค้าคงคลังบางส่วนเข้ามาไว้ในคาดการณ์ ทั้งนี้ ประมาณการของเรายังไม่รวม Upside จากเงินเคลมประกันภัย และกำไรการซื้อกิจการ

Growth stock ที่เติบโตต่อเนื่อง…รับผลกระทบจาก Recession จำกัด

IVL เป็น Growth stock ที่มีการเติบโตระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารตั้งเป้าขยาย EBITDA เท่าตัวทุก 5 ปี หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 15% ต่อปี บริษัทฯ มีการเติบโตแบบ M&A ที่โดดเด่น และคาดว่าจะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจ PET, Packaging, Surfactant และ Downstream ต่างๆ นอกจากนี้ IVL ยังมี ความเสียงถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยน้อยกว่าคู่แข่ง เพราะสัดส่วนผลิตภัณฑ์ราว 75% จะใช้ใน การผลิต End-product กลุ่มสินค้าจำเป็นที่ใช้ครั้งเดียว (CPET 60% Surfactant 15%) อ้างอิงข้อมูลจากผู้บริหาร ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ CPET มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอแม้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ แตกต่างจากปิโตรเคมีกลุ่ม PE PP ที่การเติบโตของอุปสงค์สัมพันธ์กับเศรษฐกิจสูง เพราะ End-product ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มสินค้าคงทน (Durable goods) ที่ผ่านมา IVL มีกู้ยืมเพื่อรองรับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารได้บริหารจัดการทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นด้วยการ Fixed อัตราดอกเบี้ยเป็นสัดส่วนราว 70% ของภาระเงินกู้ยืมทั้งหมด ทำให้บริษัทฯ มี Exposure จากการประกาศขึ้นดอกเบี้ยจำกัด

Valuation ยังไม่สะท้อนกำไรปีนี้นิวไฮ และ ROE สูงสุดรอบ 10 ปี

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสมใหม่เป็น 63.00 บาท อ้างอิงค่าเฉลี่ย PBV ที่ 2.0 เท่า (คงเดิม) มองว่าราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่สะท้อนความแข็งแกร่งของผลประกอบการปี 2565 โดยเมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นทำระดับสูงสุดปี 2561 ราว 63 บาท/หุ้น ซึ่งปีดังกล่าวมีกำไร 2.6 หมื่นล้านบาท, ROE 20% และซื้อขายบน PBV เฉลี่ย 2.2 เท่า ขณะที่ปัจจุบันหุ้นซื้อขายบน PBV เพียง 1.4 เท่า ผลประกอบการปีนี้จะทำ All-time high ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท และมี ROE สูง 25% (บริษัทฯ จะรายงานงบวันที่ 10 ส.ค.)

- Advertisement -