Our View? “กลับไม่ได้…แต่ก็ไปไม่ถึง”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,555 / 1,550 และแนวต้านที่บริเวณ 1,570 11,580 คาดตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวขึ้นได้ดี โดยเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน มิ.ย. ปรับตัวขึ้น 3.72 แสนตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาด แม้จะบ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง แต่ก็เป็นปัจจัยกระตุ้นความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% ในการประชุม FOMC ปลายเดือน ก.ค. นี้ ซึ่งส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.50% ขณะที่อัตราดอกเบี้ย ณ สิ้นปีคาดจะอยู่ที่ระดับ 3.75% ซึ่งคาดว่าทำให้ตลาดกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยได้ในระยะถัดไป สอดคล้องกับการเคลื่อนของไหวตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดย US Bond Yield แม้จะเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นบ้าง แต่ยังคงเกิดภาวะ Inverted yield curve ในพันธบัตรอายุ 2 – 10 ปี ต่อเนื่อง สะท้อนความกังวลตลาดยังคงกังวลการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย อีกทั้งสัปดาห์นี้แนะนำติดตามตัวเลข CPI สหรัฐ เดือน มิ.ย. คาดยังอยู่ในระดับสูงที่ 8.8% สูงขึ้นต่อเนื่อง และมากกว่าเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 8.6% คาดยังเป็นปัจจัยหลักจํากัด Upside การฟื้นตัวของตลาดได้อยู่

ในส่วนของตลาดในภูมิภาคยังต้องติดตามแนวโน้มการยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจีนของสหรัฐมูลค่ากว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อสกัดการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ โดยสัญญาณหลังการประชุม G20 ล่าสุด สหรัฐ-จีน ยังมีบรรยากาศไม่สู้ดีนัก จากการที่ รมว.การต่างประเทศของทั้ง 2 ประเทศยังคงตึงเครียด โดยสหรัฐได้หยิบยกประเด็นการสนับสนุนสงครามของรัสเซียในยูเครนทำให้ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน ซับซ้อน คาดอาจส่งผลให้การยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านําเข้าจีนล่าช้าออกไปได้ อย่างไรก็ดี เรายังคงแนะนำให้ติดตามแนวโน้มการออกมาตรการอัดฉีดงบลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของจีนวงเงินราว 7.47 หมื่นล้านดอลลาร์ คาดจะเป็นปัจจัยหนุนทิศทางตลาดในภูมิภาคพื้นตัวขึ้นได้ในระยะถัดไป

ทางด้านสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ส.ค. เมื่อคืนนี้วันศุกร์ที่ผ่านมายังคงอยู่ในภาพการรีบาวด์ขึ้น +2.06 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 104.79 ดอลลาร์/บาร์เรล (+2.01%) โดยได้รับแรงหนุนระยะสั้นจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐข้างต้นที่แข็งแกร่ง กระตุ้นความคาดหวังอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐยังสามารถขยายตัวได้ หนุนทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม มองราคาพลังงานยังมี Upside ที่จํากัดมากขึ้น ตามแรงกดดันของแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยในระยะถัดไป มองการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานอาจกดดันหุ้นในกลุ่มที่มีพลังงานเป็นต้นทุน อาทิ โรงไฟฟ้า (BGRIM, GULF และ GPSC) ได้บ้าง มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัว

สําหรับปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาช่วยหนุนการฟื้นตัวของทิศทางตลาดหุ้นไทยโดนเด่นมากนัก ขณะที่มองความไม่แน่นอนทางการเมืองคาดจะเป็น Noise รบกวนตลาดได้บ้าง อีกทั้งเราเริ่มมีความกังวลต่อประเด็นตลาดเริ่มกลับมากังวลต่อการเร่งตัวขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ โดยแนะนำติดตามการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 แม้เราคาดว่าการแพร่ระบาดดังกล่าวจะไม่เป็นการแพร่ระบาดระลอกใหญ่ จากการจำนวนประชากรไทยที่ฉีดวัคซีนมากขึ้นจนมีภูมิคุ้มกันหมู่พอสมควรแล้ว อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ายอดผู้ติดเชื้อที่มากขึ้น คาดจะหนุนแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล (BH, BDMS, BCH, CHG และ THG) ได้อีกครั้ง ขณะที่ สัปดาห์นี้คาดตลาดจะเริ่มให้ความสนใจกับการเปิดเผยผลประกอบการของ บจ. ในตลาดฯ มากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นใน กลุ่มธนาคาร คาดเป็นปัจจัยจํากัดการเคลื่อนไหวของตลาดเช่นกัน

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “CHG”

กลยุทธ์ เก็งกำไร แนวรับ 3.82 / 3.74 Target 4.00 / 4.20 Stop <3.64

- Advertisement -