บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Siam Cement (SCC) 2Q65 จะฟื้นตัว แต่ไม่เด่น

TP Revision

ปรับประมาณการและเป้าหมายลง แต่คงแนะนำ ซื้อ

2Q65 เราคาดจะมีกำไร 9,350 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน 6%QoQ แรงหนุนจากเงินปันผล แต่ลดลงจากปีก่อน 45%YoY โดยกำไรทั้งสามธุรกิจหลักยังอ่อนแอ ถูกกระทบจากปัจจัยแวดล้อมในด้านลบ สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ จีนชะลอตัว เงินเฟ้อทำให้กำลังซื้อลดลง เราปรับประมาณการลดลง ทำให้ราคาเป้าหมายด้วยวิธี Sum of the part ปี 2566 ลดลงเหลือ 450 บาท ลดลงจากเดิม 462.5 บาท แม้ประมาณการจะต่ำ ราคาหุ้นปัจจุบันมีราคาถูก ปี 2565 ซื้อขาย P/E 11.3 เท่า บริเวณ -1SD และ P/BV 1.2 เท่า บริเวณ -2SD และ มีปันผลตอบแทน 4.3% ระยะยาวเรายังมอง SCC จะมีการเติบโตจากการเก็บเกี่ยวเงินลงทุนในอดีต คงแนะนำ ซื้อ

คาดกำไร 2Q65 จะฟื้นตัวดีขึ้น QoQ แต่ไม่เด่นลดลง YoY

SCC จะประกาศผลประกอบการในวันที่ 27 ก.ค. นี้ เราคาดจะมีกำไรสุทธิ 9,350 ล้านบาท ฟื้นตัวเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน 6%QoQ เนื่องจากมีปันผลรับเข้ามาช่วยคาด 1,200 ล้านบาท (-14%YoY) กำไร 2Q65 ยังเป็นระดับที่ไม่เด่นลดลง 45%YoY เนื่องจากถูกกระทบจากความต้องการที่ชะลอตัว จากจีนมีการล็อกดาวน์ สงคราม รัสเซีย-ยูเครน ทำให้ต้นทุนพลังงานสูงขึ้น และภาวะเงินเฟ้อทำให้กำลังซื้อลดลง

ธุรกิจหลักเคมิคอลส์ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง บรรจุภัณฑ์ กำไรจะลดลงYoY

1.) ธุรกิจเคมิคอลส์ 2Q65 มีการปิดซ่อมบำรุง คาดจะทำให้ปริมาณขายลดลงเหลือ 450,000 ตัน (-9%QoQ,  -9%YoY) ส่วนสเปรด PE – Naphtha และ PP – Naphtha ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำ  เนื่องจากความต้องการในตลาดที่อ่อนแอ จีนมีการล็อกดาวน์ ประเมินกำไรจะลดลงเหลือ 3,158 ล้านบาท (-12%QoQ, -70%YoY)

2.) ธุรกิจปูนซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ความต้องการปูนซีเมนต์ใน 2Q65 คาดจะลดลงประมาณ 7%YoY แต่ราคาขายปูนซีเมนต์ที่ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าประมาณ 10-12%YoY ซึ่งสามารถชดเชยต้นทุนพลังงานที่ปรับขึ้นได้ประมาณ 2/3 เราประเมินกำไรจะลดลงเหลือ 2,113 ล้านบาท (-8%QoQ, -14%YoY)

3.) ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร คาดจะได้แรงหนุนจากราคาขายเยื่อกระดาษที่ปรับตัวสูงขึ้น คาดกำไร 1,880 ล้านบาท ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน 13%QoQ แต่ลดลงจากปีก่อน 17%YoY

ปรับประมาณการลดลง กำไรปี 2565 จะลง แต่ปี 2566 จะฟื้นตัว

ภายใต้ปัจจุบันที่ยังไม่แน่นอน สเปรดธุรกิจปิโตรเคมียังไม่ดีขึ้น เนื่องจากความต้องการในจีนที่อ่อนแอ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังยืดเยื้อ กระทบต้นทุนและห่วงโซ่อุปทาน ภาวะเงินเฟ้อทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง เราปรับลดกำไรปี 2565/66 ลง -11%/ 22% เหลือ 39,979 ล้านบาท / 45,896 ล้านบาท ตามลำดับ โดยกำไรปี 2565 จะลดลง 15%YoY แต่ปี 2566 คาดจะฟื้นตัว 14%YoY

- Advertisement -