บล.ไอร่า:

TMT ทีเอ็มที สตีล

1Q/65 กำไรสุทธิ 127 ล้านบาท -21% qoq และ -70%yoy คาดปี’65 กำไรสุทธิ 854 ล้านบาท ลดลงสู่ระดับปกติ แต่มีความน่าสนใจจากเงินปันผล ณ ระดับราคาปัจจุบัน คาด Div.Yield สูงกว่า 8%

“Buy” Target 12.00 tb.

  • กำไรสุทธิ 1Q/65 จำนวน 127 ล้านบาท ลดลง 21%qoq และ 70%yoy แม้รายได้ขายเติบโต 12%qoq และ 22%yoy อยู่ที่ 6,254 ล้านบาท จากปริมาณขายและราคาขายอยู่ที่ประมาณ 192,300 ตัน (+15%qoq, -7%yoy) และ 32,516 บาท/ตัน (-3%qoq, +31%yoy) แต่จากต้นทุนที่มีอยู่ในระดับสูง ส่งผลต่อ Gross Profit Margin ลดลงจาก 6.42% เมื่อ 4Q/64 และ 14.39% เมื่อ 1Q/64 มาอยู่ที่ 5.16% เป็นปัจจัยหลักทำให้กำไรสุทธิลดลง
  • แนะติดตามสถานการณ์ HRC ในประเทศ หลังกลุ่มผู้ผลิต HRC รายใหญ่มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา และมีการลดปริมาณผลิตลงมาบ้าง ซึ่งอาจทำให้เกิดการขาดแคลนบ้าง ขณะที่คาดความต้องการโดยรวมดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม คาดไม่ส่งผลกระทบต่อ TMT เนื่องจากเป็นคู่ค้าที่ดี คาดยังสามารถจัดหาสินค้าได้และยอดขายพร้อม คาดราคาเหล็กในตลาดมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง
  • คาดผลการดำเนินงานปี’65 กลับสู่ระดับปกติ โดยคาด (1) ปริมาณขาย 748,500 ตัน เพิ่มขึ้น 5%จาก ปี’64 Conservative เมื่อเทียบกับเป้าหมายของ TMT ที่ 800,000 ตัน และ (2) ราคาขายเฉลี่ยในระดับ ~32,000 บาท/ตัน เพิ่มขึ้น 6% ตามราคาเหล็กในตลาดโลกที่คาดทรงตัวในระดับสูง ภายใต้นโยบาย Green Energy ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น โดยคาด Gross Profit Margin ที่ 8% คาด GPM ดีขึ้นในไตรมาสที่เหลือของปี ภายใต้ความสามารถในการบริหารจัดการ Stock ที่มีประสิทธิภาพของ TMT ทำให้คาดรายได้ขาย อยู่ที่ 23,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% และคาดกำไรสุทธิ 854 ล้านบาท ลดลง 44%
  • แม้ผลการดำเนินงานของ TMT ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และเข้าสู่ระดับปกติในปี’65 แต่ TMT มีความน่าสนใจจากผลิตภัณฑ์ รองรับความต้องการทุกกลุ่มลูกค้า (Total Solutions) และการบริหารจัดการ Stock โดยเฉพาะช่วงราคาเหล็กผันผวน สามารถรักษากำไรที่ดีไว้ได้ ณ ระดับราคาปัจจุบัน คาด Div.Yield สูงกว่า 8% ในปี’65 ทำให้ยังแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี’65 ที่ 12.00 บาท อิง PE 12X

 

- Advertisement -