น่าจะเริ่มฟื้นตัวได้บ้าง หลังค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนที่ผ่านมาฟื้นตัวขึ้นเด่น 2.4% และ Nasdaq +3.1% ขานรับผลประกอบการที่ออกมาแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ขณะด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1% นักลงทุนประเมินว่าอุปทานยังอยู่ในสภาวะตึงตัวหลังจากมีรายงานว่า Joe Biden เตรียมประกาศใช้มาตรการรับมือกับภาวะโลกร้อน ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะกระทบกับการผลิตน้ำมัน รวมถึงไปนักลงทุนประเมินว่า Joe Biden จะสามารถโน้มน้าวให้ OPEC เพิ่ม กำลังการผลิตได้ สอดคล้องกับตลาดหุ้นใน EU ที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นกันเฉลี่ย 1-2% ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนรายงานใบอนุญาตก่อสร้างบ้านในสหรัฐฯ ออกมาที่ 1.69 ล้าน ดีกว่านักลงทุนคาดที่ 1.64 ล้าน
Market Outlook
วันนี้ประเมิน SET INDEX ปรับตัวขึ้นวางกรอบ 1542 – 1553 รับแรงหนุนเชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯรวมถึงกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ที่มีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อหนุนจากทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว ขณะที่เช้านี้ (7.00 น. เวลาประเทศไทย) ตลาดหุ้น Nikkei ปรับตัวขึ้น 1.6% ส่วนการปรับฐานลงเมื่อวานมองว่าเป็นการปรับลง เพราะกังวลกับเรื่องที่ทางพม่าประกาศจะไม่ชำระหนี้สกุลต่างประเทศ รวมถึงห้ามนำเข้าสินค้าบางประเภท ทั้งนี้มองผลกระทบต่อประเทศไทยจำกัด การปรับลงเมื่อวานจึงดูไม่ได้น่ากังวลมากนัก ด้านบริษัทจดทะเบียนแม้จะมีบางบริษัทฯ ได้รับผลกระทบเพราะมีรายได้ในพม่า แต่สัดส่วนรายได้มิได้เยอะมากนัก และไม่น่ามีผลต่อรายได้รวมของบริษัทฯ ในประเทศไทย ขณะที่เช้านี้ค่าเงินบาทเทียบสกุลดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาแข็งค่าอยู่ที่ 36.56 บาท / ดอลลาร์สหรัฐ มองเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยที่อาจชะลอแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ หลังจากก่อนหน้าขายสุทธิออกมาติดต่อกัน 4 วันทำการ โดยคืนนี้มีตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ Bloomberg ประเมินที่ 5.37 ล้านหลังคาเรือน ในเชิงกลยุทธ์การ ลงทุนยังชอบกลุ่มที่ปรับลงมาแต่ผลกระทบจากพม่ามิได้เยอะ อาทิ (CBG) ขณะที่การ Trading ระยะสั้นกลุ่ม Bank มีโอกาสถูกซื้อกลับ (BBL KBANK SCB) หลังจากปรับฐานลงมาก่อนหน้า อื่นๆ ยังแนะกลุ่มที่อิงรายได้ในประเทศเป็นหลัก อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL) ขนส่ง (BTS BEM) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ร้านอาหาร (M)
Pi Stock Picks
KBANK (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 174.00 บาท)
คาดกำไรสุทธิที่ 1.17 หมื่นล้านบาทใน 2Q22 โต 31% YoY (+4% QoQ) ที่โตแข็งแกร่ง YoY มีสาเหตุมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่โตขึ้นและการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง
BEM (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท)
คาดกำไรสุทธิ 2Q22 ที่ 577 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 11 ไตรมาสหนุนจากการผ่านปรนมาตรการโควิด-19 ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯ ที่รวมถึงสถาบันการศึกษาด้วย
