ติดตามผลประชุมอีซีบี

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน เช่น เน็ตฟลิกซ์ที่ผลประกอบการดีกว่าที่ตลาดคาด ในขณะที่หุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้น จากรายงานข่าววุฒิสภาสหรัฐฯ กำลังผลักดัน ทำมาตรการใช้จ่ายวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในสหรัฐฯให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด 0.15%, 1.58%, 0.59%

ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ นักลงทุนกังวลปริมาณการส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรปที่คาดว่าจะลดลง ทำให้ประเทศสมาชิกในอียูต้องลดการใช้ก๊าซลง 15% จนถึงเดือนมี.ค. เพื่อรับมือกับการขาดแคลนก๊าซในยุโรป ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.20%, -0.44%, -0.27%, -1.60%

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.96 ดอลลาร์ปิดที่ 102.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 0.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.92 ดอลลาร์/บาร์เรล จากรายงานสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาด บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอลงในสหรัฐฯ บดบังข่าวสต๊อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดเล็กน้อย

ตลาดหุ้นไทย วานนี้ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค มีแรงซื้อกลับ cover short ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ DELTA, KCE, HANA ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าบางส่วน และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังยอดขายจะเริ่มฟื้นตัว จากสัญญาณการเปิดเผยผลประกอบการของ SAMSUNG ในไตรมาส 2/65 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านชิปของเกาหลีใต้ที่รายงานยอดขายสูงกว่าคาด ตลาดหุ้นในภูมิภาควานนี้ส่วนใหญ่ฟื้นตัวดีตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่คลายความกดดันจากกระแสการคาดการณ์ว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า จากสัปดาห์ที่แล้วที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 1% ทั้งนี้เราแนะนำให้ติดตามการประชุมอีซีบีในวันนี้ ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกที่ระดับ 0.50% หรือไม่ หากปรับขึ้น 0.50% เชื่อว่าจะส่งผลให้ยูโรแข็งค่าขึ้น และจะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่งผลทางอ้อมต่อค่าเงินในภูมิภาคให้แข็งค่าขึ้นในเชิงเปรียบเทียบ ในส่วนของไทยเงินบาทยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า ทำให้การฟื้นตัวของ SET ยังเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เราคาดว่า SET จะฟื้นตัวดี หลังผ่านการประชุมเฟดในสัปดาห์ไปแล้ว

ค่าเงินบาท เช้านี้ยังคงอยู่ในทิศทางอ่อนค่าจากเมื่อวานนี้ ปัจจุบันกำลังทดสอบระดับ 36.80-36.90 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญในรอบ 16 ปี ในขณะที่ค่าเงินในภูมิภาค เช่น ดอลลาร์สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์เปโซ รูเปี๊ยะอินโดนีเซียที่มีทิศทางแข็งค่า ยกเว้นเงินบาทไทยและริงกิตมาเลเซียที่ยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า จากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยนโยบายระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่กว้างขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยปรับขึ้นช้าที่สุดในภูมิภาค กดดันให้มีแรงขายสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติในระยะนี้ เราแนะนำให้ติดตามผลประชุมอีซีบีในวันนี้ และผลประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าผันผวน เงินบาทยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่าอาจกดดันให้มีแรงขายจากต่างชาติ แต่จะได้แรงหนุนจากผลประกอบการกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่ทยอยประกาศในวันนี้ ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่คาด กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ได้แรงหนุนจากข่าวสหรัฐฯ เตรียมมาตรการมาตรการใช้จ่ายวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในสหรัฐฯ

SET Index ขึ้นๆ ลงๆ

SET Index ปิดที่ 1,539.32 จุด 5.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,500 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปริมาณการซื้อขายวันก่อนหน้า โดยนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 606 ล้านบาท และซื้อสุทธิ 111,131 ล้านบาท YTD

ระยะกลาง : SET Index อยู่ในช่วงปรับฐานเดือนนี้ไม่ปิดต่ำกว่าระดับ 1,487 จุด ยังคงแนวโน้มฟื้นตัวต่อไป สำหรับทิศทางในไตรมาส 3/2565 คาดว่ากรอบของ SET จะอยู่ระหว่าง 1,487-1,687 จุด แนะนําซื้อเมื่ออ่อนตัว เพื่อหวังผลขายทำกำไรเมื่อดัชนีฟื้นตัว สัปดาห์นี้คาดว่าจะแกว่งในกรอบระหว่าง 1,520-1,570 จุด แนะนํา ลงซื้อขึ้นขาย

ระยะสั้น : SET Index ปิดบวกไม่มาก เปิดตลาดปรับขึ้นไปเกือบจะเป็นจุดสูงสุดของวันก่อนที่จะะลดช่วงบวกลงมา  เรามองแนวโน้มยังเป็นการแกว่ง sideway ในกรอบระหว่าง 1,520-1,550 จุด สั้นๆ ไม่ข้ามแถวๆ 1,545-1,550 จุด แนะนํา ขายเพื่อหวังผลซื้อกลับเมื่ออ่อนตัวลงแถวๆ 1,525-1,515

Trading Stocks

- Advertisement -