บล.พาย: 

OSP: บมจ.โอสถสภา “คาดกําไร 2Q22 ต่ำสุด ตั้งแต่จดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์”

คงคำแนะนำ “ถือ” มูลค่าพื้นฐาน 32 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q22 ที่ 576 ล้านบาท ต่ำสุดตั้งแต่จดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ สืบเนื่องจากแรงกดดันของปริมาณขายเครื่องดื่มชูกำลังในไทยที่ลดลง และอัตรากำไรที่หดตัวลง คาดถึงผลกระทบเล็กน้อยจากมาตรการที่มุ่งลดแรงกดดันต่อเงินจ๊าด ส่วนสมมติฐานกรณีเลวร้ายที่สุดคาดถึง downside risk 10% จากประเด็นนี้

คาดกําไร 2Q22 ลดลง YoY และ QoQ

  • คาดกำไรสุทธิ 2Q22 ที่ 576 ล้านบาท (-30%YoY, -23%QoQ) เพราะแรงกดดันจากยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในไทยที่ลดลง 10%YoY เนื่องจากส่วนแบ่งตลาดลดลงหลังจากการดำเนินกลยุทธ์การออกผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยม (ขวดละ 12 บาท) คาดอัตรากำไรจะลดลงจากราคาพลังงานและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นในช่วงที่ปริมาณขายลดลง

ภาพรวมกำไรที่อึมครึมใน 3Q22

  • คาดกำไรจะยังทรงตัว QoQ และ YoY ที่จุดต่ำสุด สืบเนื่องจากช่วง low season (ฤดูฝน) และค่าใช้จ่ายการตลาดที่สูงขึ้นจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

ผลกระทบที่ไม่รุนแรงจากนโยบายของธนาคารกลางเมียนมา

  • ธนาคารกลางเมียนมาออกคำสั่งให้กลุ่มบริษัทที่มีสัดส่วนการถือครองหุ้นของต่างชาติถึง 35% แลกเงินตราต่างประเทศเป็นเงินจ๊าด แต่ทางรัฐบาลเมียนมาได้ทำข้อตกลงกับไทยและจีนเพื่ออนุญาตให้มีการใช้เงินบาทและหยวนสำหรับการค้าข้ามพรมแดนได้
  • คาดถึงผลกระทบที่ไม่รุนแรงจากมาตรการที่มุ่งลดแรงกดดันต่อเงินจ๊าด ส่วนสมมติฐานกรณีเลวร้ายที่สุดคาดถึง downside risk 10% จากประเด็นนี้

คงคำแนะนำ “ถือ” เพราะภาพรวมกำไรที่ไม่สู้ดี

ด้วย upside ที่จำกัดต่อมูลค่าพื้นฐานและความเสี่ยงที่จะสูญเสียส่วนแบ่งตลาด เนื่องจากผู้บริหารยังคงกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยม จึงยังคงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยมูลค่าพื้นฐานที่ลดลง 12% เป็น 32 บาท อิง 30xPE’23E หรือที่ค่าเฉลี่ย 3 ปี ทั้งนี้ได้ทำการปรับลดประมาณการกำไรปี 2022-23 ลงเพื่อสะท้อนปริมาณขายที่ลดลง

พรีวิวผลประกอบการ

  • คาดยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังจะลดลง 10% YoY ใน 2Q22
  • คาดยอดขายเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริงก์โตหลักสิบใน 2Q22
  • คาดยอดขายระหว่างประเทศโตเป็น 1.4 พันล้านบาท (+9%YoY)

Revenue breakdown

  • บริษัทเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคไปยังตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศในกลุ่ม CLM (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) รวมถึงประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง
  • ธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ซึ่งคิดเป็น 85% ของรายได้รวม โดยผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของบริษัทนั้นสามารถแบ่งออกเป็น เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มเกลือแร่ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
  • ธุรกิจผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลคิดเป็น 8% ของรายได้รวมของบริษัท โดยบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้หญิง และผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย
  • ผลิตภัณฑ์ส่วนอื่นๆ มีสัดส่วนรายได้ 7% ของรายได้รวม โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ลูกอม การรับจ้างผลิต (OEM) และบรรจุภัณฑ์แก้ว
- Advertisement -