สรุปภาวะตลาด

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ แต่มีแรงขายกดดันดัชนีช่วงเปิดตลาดบ่าย จากประเด็น TRUE-DTAC ที่คณะอนุกรรมการคัดค้านการควบรวม ต่อมาช่วง 18.09 น. บริษัทได้ชี้แจงต่อตลาดฯ ว่าเป็นข่าวเท็จ โดยหุ้นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้น ได้แก่ กลุ่มธนาคารและกลุ่มค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,552.73 จุด +6.42 จุด +0.42% มูลค่าการซื้อขาย 57,726 ลบ. ต่างชาติ +139.93 ลบ. TFEX +7,290 สัญญา ตราสารหนี้ -358.64 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ นางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐแสดงความเชื่อมั่นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะสามารถรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อได้ และขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นวงกว้าง

+ รัสเซียและยูเครนลงนามในข้อตกลงส่งออกธัญพืชในภูมิภาคทะเลดำอีกครั้ง คาดจะช่วยคลี่คลายวิกฤตราคา อาหารที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน

+ ธปท. รายงานผลการศึกษาของฝ่ายเสถียรภาพระบบการเงิน พบว่าหากเศรษฐกิจและเงินเฟ้อขยายตัวเป็นไป ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมิน ทั้งภาคธุรกิจและครัวเรือนยังสามารถชำระหนี้ที่เพียงพอรองรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แม้กรณีที่ดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นไปที่ 2.75% ต่อปี

+ ผลโหวดการอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายรัฐบาลยังได้รับเสียงข้างมาก

+/- ศบค.รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) เพิ่มอีก 1,740 ราย เสียชีวิต 32 คน หาย ป่วยกลับบ้านเพิ่ม 2,425 ราย

ปัจจัยลบ –

– ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 137.61 จุด หรือ -0.43% แต่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 2% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทสแนป ขณะที่การปรับตัวลงของหุ้นโซเชียลมีเดียและหุ้นเทคโนโลยีการโฆษณา (AdTech) บดบังปัจจัยบวกจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นอเมริกันเอ็กซ์เพรส ซึ่งคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่สดใส

– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.65 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 94.70 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.1% หลังถูกกดดันจากแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันเบนซินที่ลดลงในช่วงฤดูร้อนของสหรัฐ ซึ่งชาวอเมริกันมักขับขี่รถยนต์เพื่อท่องเที่ยว โดยราคาน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล

– สหรัฐเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้น ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.5 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 26 เดือน จากระดับ 52.3 ในเดือนมิ.ย.

– WHO ประกาศโรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 16,000 ราย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 รายจาก 75 ประเทศ

– REIC แจง 2Q65 ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ดิ่งต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 จากโควิด-19 ทำเศรษฐกิจซบเซา ด้านราคาห้องชุดใหม่ทรุดต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 7 เหตุกำลังซื้อลูกค้าชาวจีนหายหลังปิดประเทศยาว

– นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ระบุว่า เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญความเสี่ยงในหลายด้าน ถือเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤตที่แต่ละประเทศต้องเตรียมรับมือ ได้แก่ วิกฤตความขัดแย้งระหว่างประเทศ วิกฤตราคาพลังงานและอาหารโลก ความปั่นป่วนของตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลก

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงกดดันจากการที่ WHO ประกาศ โรค ฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ขณะที่ในประเทศ สธ.เตรียมยกระดับ “ฝีดาษลิง” เป็นโรคติดต่อร้ายแรง คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,540-1,555 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • กนง.มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีหลัง + หุ้นแบงก์ได้ประโยชน์จากธปท.เลิกเพดานจ่ายปันผล และทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น เราชอบแบงก์ใหญ่ KBANK BBL KTB TISCO
  • หุ้นเด่น IAA Consensus : BBL BEM CPN KBANK
  • ค่า Ft ขึ้น ขณะที่ต้นทุนพลังงานปรับตัวลง : GPSC BGRIM GULF
  • กังวลโควิด-19 ระลอกใหม่ + สธ. เตรียมยกระดับ ฝีดาษลิงเป็นโรคติดต่อร้ายแรง : BH BDMS CHG BCH PRINC WPH PR9

หุ้นรายงานพิเศษ

TLI (SET/ Financials /Insurance)

ราคา IPO = 16.00 บาท ราคาเหมาะสม Consensus อยู่ในช่วง 19.10 – 21.30 บาท

  • บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) – TLI เป็นบริษัทประกันชีวิตแบรนด์ของไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีรากฐานมายาวนานกว่า 80 ปี โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจรครอบคลุมทั้งประเภทบุคคลและกลุ่มมีความหลากหลาย ทั้งด้านการคุ้มครองชีวิต การออม การลงทุน และการวางแผนมรดก โดย ณ วันที่ 31 มี.ค. 65 บริษัทมีตัวแทนประกันมากกว่า 64,000 รายครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด ถือเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตที่มีตัวแทนประกันจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย โดย ณ ช่วง 3M65 มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 16.0% ของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกที่ขายผ่านตัวแทน ประกัน คิดเป็นอันดับที่สามในประเทศไทย
  • เบี้ยประกันภัยรับรวมปี 62-64 เท่ากับ 92,039.37 ลบ. 91,269.12 ลบ. และ 90,451.49 ลบ. หดตัว CAGR เฉลี่ย 0.9% ต่อปี เนื่องจากเบี้ยประกันภัยรับปีแรกที่ลดลงจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิดข้อจำกัดในการพบปะและการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ขณะที่รายได้รวมปี 62-64 เท่ากับ 108,388.70 ลบ. 107,642.26 ลบ. และ 109,246.02 ลบ. ตามลำดับ เติบโต CAGR เฉลี่ย 0.4% ต่อปี จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการลงทุนสุทธิและส่วนประกอบอื่นของรายได้รวม ส่งผลให้ช่วงปี 62-64 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 6,777.35 ลบ. 7,692.32 ลบ. และ 8,393.52 ลบ. ตามลำดับ เติบโต CAGR เฉลี่ย 11.3% ต่อปี ทั้งนี้ช่วง 1Q65 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม รายได้รวมและกำไรสุทธิ เท่ากับ 19,450.81 ลบ. -0.5%YoY 25,954.55 ลบ. +3%YoY และ 3,793.28 ลบ. +15%YoY ตามลำดับ
  • จำนวน IPO 2,155 ล้านหุ้น ราคา IPO 16.00 บาท (คิดเป็น Trailing P/EV = 1.19x) ราคาเหมาะสม Consensus อยู่ในช่วง 19.10 – 21.30 บาท วัตถุประสงค์ของการใช้เงิน 1) การลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) และการทำการตลาด 2) เสริมสร้างความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่ายผ่านทางพันธมิตร และ 3) เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินทุน และสำหรับเงินทุนหมุนเวียนและวัตถุประสงค์อื่นๆ

หุ้นมีข่าว

(+) TRUE-DTAC (Bloomberg consensus 5.50, 55.75 บาท) กสทช.อยู่ระหว่างการพิจารณาให้ความเห็นควบรวม TRUE-DTAC สรุป 3 ส.ค.นี้ ด้านบิ๊ก TRUE-DTAC แถลงมั่นใจเดินหน้าได้ตามข้อกฎหมาย จี้เร่งดำเนินการตามกรอบเวลาหลังเลื่อนมาแล้ว ซี้ดีลนี้ไม่ผูกขาด ค่าบริการไม่พุ่ง พร้อมตั้งกองทุนเวนเจอร์ 7.3 พันล้านบาท หนุนสตาร์ทอัพเต็มพิกัด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BAM (Bloomberg consensus 25.00 บาท) จ่อปิดดีลแบงก์ใหญ่สิงหาคมนี้ ลุยบริหารหนี้ร่วมกัน พร้อมตั้งงบกว่า 5,000 ล้านบาท มีแผนเข้าซื้อหนี้ 6,000-10,000 ล้านบาท “บัณฑิต อนันตมงคล” ส่งซิกรายได้ปีนี้อาจจะมีเซอร์ไพรส์จากเดิม คาดว่ารายได้จะเติบโต 17,000 ล้านบาท จากการขายทรัพย์ได้เพิ่มขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MAJOR (Bloomberg consensus 24.84 บาท) แจ้งขายหุ้นไทยทิคเก็ตเมเจอร์ (TTM) ในสัดส่วน 20% ในราคาหุ้นละ 614.70 บาท หรือคิดเป็นมูลค่า 122.94 ล้านบาท บันทึกกำไรพิเศษไตรมาส 3/2565 นี้ ผลงานครึ่งปีหลังสดใส หนังไทย-นอกทำเงินจ่อเข้าฉายเพียบ นำโดย Thor รวมถึงบุพเพสันนิวาส 2 คาดกระแสตอบรับดี ปัจจุบันเปิดให้บริการเต็ม 100% ยอดขายป๊อบคอร์นดี ปี 2566 ผลงานสดใส (ที่มา ทันหุ้น)

(+) D (Bloomberg consensus 8.15 บาท) เล็งล้างขาดทุนสะสม 20 ล้านบาทเกลี้ยงพอร์ต พร้อมเตรียมจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น ฟากบิ๊กบอส “พรศักดิ์ ตันตาปกุล” กางกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง เจาะฐานต่างชาติ ชี้ยอดใช้บริการสูง 3 เท่า คาด Dental Hub หนุนยอดเพิ่ม 25% พร้อมเก็บเกี่ยวผลลงทุน BIDH เต็มสูบ (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 25 ก.ค. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
  • 29 ก.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย 10 ส.ค. ประชุมกนง. ครั้งที่ 4/65

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 25 ก.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมิ.ย.จากเฟดชิคาโก
  • 26 ก.ค. สหรัฐ รายงานราคาบ้านเดือนพ.ค.จาก เอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ ยอดขายบ้านใหม่เดือน มิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จาก Conference Board
  • 26–27 ก.ค. การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
  • 27 ก.ค. จีนรายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย.

สหรัฐ รายงาน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย

  • 3 ส.ค. โอเปกพลัสประชุมกำหนดนโยบายการผลิต
- Advertisement -