KS Daily View 25.07.2022 > หุ้นโลก Rebound ช่วงสั้น จากสัญญาณคลี่คลายขึ้นทั้งสงครามรัสเซีย – ยูเครน-ยุโรป , เงินเฟ้อ Peak ฯลฯ SET วันนี้คาด  1545-1565 จุด หุ้นแนะนำ PSL

KS มีมุมมองต่อตลาดหุ้นโลกสัปดาห์นี้ในทิศทางเชิงบวก คาดแกว่งตัวขึ้น (Sideway Up)  ประเมินจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆที่เคยกดดันเริ่มคลี่คลายและได้ตอบรับไปในดัชนี (Price in)  ทั้งสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนคลี่คลาย, เงินเฟ้อสหรัฐคาดผ่าน Peak ไปแล้ว, สินทรัพย์เสี่ยง อาทิ ราคา Bitcoin ยังยืนเหนือ 2 หมื่นเหรียญได้ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และไม่ทำ New low

โดย Key event สัปดาห์นี้คือ  

1.) รอผลการประชุม Fed  ในการประชุมรอบวันที่ 27 ก.ค. ตลาดคาดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยฯ  75 bps โดยโอกาสความน่าจะเป็นสูงราว 80% และลดโอกาส Fed จะขึ้น 100 bps ลง, ความกังวล Technical Recession วันที่ 28 ก.ค. ติดตาม GDP 2Q65 ของสหรัฐได้รับรู้ไปแล้วและในช่วงหลังๆ ตลาดกลับมาให้น้ำหนักการรายงานผลประกอบการงวด 2Q22 ของบริษัทจดทะเบียนมากกว่าปัจจัยภายนอกต่างๆดังกล่าว อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นโลก KS คาดจะเริ่มเห็น Bottom ในไตรมาส 3  แต่จะยังไม่กลับเป็นขาขึ้นมองเป็นจังหวะสะสมหุ้นต่างประเทศ  คาดตลาดหุ้นโลกจะฟื้นในช่วงไตรมาส 4

2.) การเจรจาทางโทรศัพท์ระหว่าง ปธน. Biden กับ ปธน. Xi Jinping ภายในสิ้นเดือนนี้  ซึ่งอาจมีข้อตกลงในเรื่องการยกเว้นภาษีนำเข้าระหว่างกัน Sentiment บวกกับกลุ่ม Electronics, Petrochemical และเดินเรือ

3.) ทิศทางราคาข้าวสาลีที่อ่อนตัวลง -5.8% DoD เป็น U$7.59/bushel เมื่อคืนวันศุกร์ซึ่งเป็นระดับเป็นที่ต่ำกว่าก่อนสงครามรัสเซีย-ยูเครนแล้ว  หลังรัสเซียและยูเครนเตรียมลงนามข้อตกลงกลับมาเปิดท่าเรือส่งออกธัญพืชในภูมิภาคทะเลดำอีกครั้ง หวังช่วยคลี่คลายวิกฤตราคาอาหารที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากสงคราม  KS มองจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อบริษัทที่ใช้ข้าวสาลีเป็นวัตถุดิบ เช่น RBF, TFMAMA เป็นต้น

ในประเทศ :  ประเด็นสำคัญที่มีน้ำหนักในช่วง 3 วันทำการ คือ

1.) TLI เข้าซื้อขายวันนี้ ซึ่ง TLI มีโอกาสที่จะถูกเข้าคำนวณใน SET50/SET100 แบบ FAST TRACK ในวันที่ T+3 นับจากวันที่ซื้อขายวันแรก หากผ่านเงื่อนไข 1 ใน 2 ข้อ คือ

1) Market cap มากกว่า 1% ของ SET market cap. = 1.86 แสนลบ. ณ SET Index ที่ 1,552.73 จุด

หรือ 2) มูลค่าตลาดรวมอยู่ในช่วง 20 ลำดับแรกใน SET 50 ซึ่งปัจจุบันหุ้นลำดับที่ 20 (CRC) มี market cap. 2.16 แสนลบ. หากอิงจากราคา IPO ของ TLI ที่ 16 บาท และหุ้นจดทะเบียนชำระแล้ว 11,450 ล้านหุ้น จะคิดเป็น Market cap. 1.83 แสนลบ. ซึ่งหุ้น TLI ต้องปิดเหนือ 16.30 บาท จะเข้าเงื่อนไขข้อที่ 1 ที่มี Market cap. มากกว่า 1% ของ SET หากใช้ Market cap. ปัจจุบัน หลักทรัพย์ที่มีโอกาสถูกถอดออกจาก SET50 / SET100 คือหลักทรัพย์ที่มี Market cap. น้อยที่สุดออกจากการคำนวณ โดยหุ้น 2 ตัวสุดท้ายของ SET50 คือ IRPC และ BLA ส่วน 2 ตัวสุดท้ายของ SET100 คือ SYNEX และ TTA

2.) สัปดาห์นี้การรายงานกำไร 2Q22 วันที่  26 ก.ค. HMPRO (คาดกำไร 1,490 ลบ. -1% QoQ, +4% YoY), SCGP (1,871 ลบ. +13% QoQ, -17% YoY), และ DELTA (2,408 ลบ. -13% QoQ, +45% YoY)

3.) ติดตามการระบาดของโรคฝีดาษลิงในประเทศไทยและทั่วโลก หลัง WHO ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังพบระบาดแล้วในมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลกกว่า 16,000 ราย อย่างไรก็ตามผู้อำนายการของ WHO ไม่คิดว่าโรคฝีดาษลิงจะกระทบการเดินทางระหว่างประเทศ หรือการค้าระหว่างประเทศแต่อย่างใด เพราะยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้นอกแอฟริกา ซึ่งปัจจุบันก็มีวัคซีน และยารักษา รวมถึงผู้ป่วยอาจหายเองได้ใน 2-4 สัปดาห์ โดยโรคนี้จะระบาดผ่าน droplet ซึ่งติดยากกว่าโควิด-19 ที่เป็น airborne ทั้งนี้มองว่าอาจมีการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล หรือถุงมือยางจากกรณีดังกล่าว

4.) ติดตามผลสรุปการศึกษาของ กสทช. กรณีดีลควบรวม DTAC และ TRUE ในสัปดาห์หน้า รวมถึงการลงคะแนนของคณะกรรมการ กสทช. ทั้ง 5 ท่านว่าจะเห็นด้วยหรือค้านการควบรวมภายในวันที่ 10 ส.ค. เบื้องต้นคาดว่าราคาหุ้น ทั้งสอง DTAC และ TRUE  จะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่างราคาที่ดีลไม่เกิดกับราคา Tender คือ DTAC (33.57-47.76 บาท) และ TRUE (3.95-5.09 บาท)

มุมมองตลาดหุ้น  SET วันนี้คาด 1545-1565 จุด หุ้นแนะนำ PSL

Top pick : 

PSL (ราคาพื้นฐาน 25.5 บาท) 1.) เราประเมินว่าภาพของอุปสงค์ในช่วงที่เหลือของปี และปีหน้ายังมี upsides จากอุปสงค์สินค้าแห้งเทกองที่เพิ่มขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนผ่านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการที่ยูเครนจะมีการบูรณะประเทศครั้งใหญ่ในอนาคตหากสงครามยุติลง  2.) ยังมี Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการ คือเรือใหม่  ลำ(จากปัจจุบันที่มีเรือ 36 ลำ) ที่ PSL เพิ่งซื้อมาจะทยอยรับมอบ 1 ลำใน 3Q22  3.)แนะนำใช้กลยุทธ์ “Trading หรือ ลงซื้อขึ้นขาย” สำหรับ PSL ตามกรอบ PBV band ที่ 18/20.5/23/25.5 บาท หรือ +0.5 SD ถึง +2SD

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ      

วันจันทร์ ติดตามตัวเลขส่งออกและนำเข้าของไทยเดือน มิ.ย. คาด +10.5% YoY และ +19.8% YoY ตามลำดับ ตัวเลขดุลการค้าของไทยเดือน มิ.ย. คาด -1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบเดือนก่อนหน้าที่ -1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และตัวเลข Ifo Business Climate ของเยอรมันเดือน ก.ค. คาด 90.2 จุด (-2.3% MoM)

วันอังคาร ติดตามตัวเลข S&P Case Shiller Home Price ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาด +20.8% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ +21.2% YoY) ตัวเลข New Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. คาด -4.6% MoM เป็น 0.664mn และตัวเลข CB Consumer Confidence ของสหรัฐฯ คาด 97.3 จุด (-1.4% MoM)

วันพุธ ติดตามตัวเลข Gfk Consumer Confidence ของเยอรมันเดือน ส.ค. คาด -29 จุด (แย่ลงจากเดือนก่อนหน้าที่ -27.4 จุด) ตัวเลข Durable Goods Order ของสหรัฐฯเดือน มิ.ย. คาด -0.3% MoM ตัวเลข Pending Home Sales ของสหรัฐฯเดือน มิ.ย. คาด -1.5% MoM และปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ผลการประชุม Fed คาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 75bps. เป็น 2.5%

วันพฤหัสฯ ติดตาม อัตราเงินเฟ้อของเยอรมันเดือน ก.ค. คาด +0.6% MoM และ +7.3% YoY (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +7.6% YoY) ตัวเลข GDP 2Q22 ของสหรัฐฯ คาด +0.5% QoQ (เทียบ 1Q22 ที่ -1.6% QoQ) ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ คาด +253K (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่ +251K)

วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซน เดือน ก.ค. คาด +8.7% YoY (จากเดือนก่อนที่ +8.6% YoY) ตัวเลข GDP 2Q22 ของยูโรโซน คาด +0.1% QoQ และ +3.4% YoY ตัวเลข Personal Spending ของสหรัฐฯ เดือน มิ.ย.คาด +0.9% MoM ตัวเลข Personal Income ของสหรัฐฯ เดือน มิ.ย.คาด +0.5% MoM ตัวเลข PCE Price index ของสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. คาด +0.9% MoM และ +6.7% YoY ตัวเลข Michigan Consumer Sentiment Index ของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. คาด 51.1 จุด (+2.2% MoM) และตัวเลข Michigan 5Y inflation expectation เดือน ก.ค. คาด +2.8% (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +3.1%)

- Advertisement -