บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Pruksa Holding (PSH TB) ดาวน์ไซด์ยังคงมีอยู่

คงแนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมายใหม่ 10.5 บาท

PSH ในฐานะผู้พัฒนาชั้นนำสำหรับกลุ่มรายได้ระดับกลางถึงต่ำ ยังคงประสบปัญหาการดำเนินงานที่ซบเซาในครึ่งปีแรก ด้วยแนวโน้มมหภาคที่ซบเซา จึงเป็นเรื่องยากที่บริษัทจะเพิ่มยอดขายล่วงหน้า และการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ทว่า Backlog เกือบ 1.9 หมื่น ลบ. น่าจะช่วยเพิ่มกำไรในครึ่งปีหลังได้ แต่หลังจากนั้นประมาณการรายได้ของเราเริ่มมีดาวน์ไซด์ เนื่องจากมีการเปิดโครงการใหม่ไม่กี่แห่งตั้งแต่เกิดโรคระบาด และ backlog ก็ต่ำเพียง 1 พันล้านบาท ซึ่งจะบันทึกเป็นรายได้ในปี 2566-67 ขณะที่ธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพอยู่ในขั้นเริ่มต้นและมีแนวโน้มที่จะขาดทุนในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า คงแนะนำ “ขาย” ด้วยราคาเป้าหมาย ใหม่ 10.5 บาท (9.5 บาท สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลัก อิง PE 7.5 เท่า (-1SD) บวก 1 บาทสำหรับธุรกิจโรงพยาบาล)

ยอดขายล่วงหน้าและโครงการใหม่น่าผิดหวังสำหรับครึ่งปีแรก

ยอดขายล่วงหน้า 2065 ฟื้นตัว QoQ แตะระดับ 6.3 พันลบ. ส่งผลตัวเลขครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น เป็น 1.16 หมื่น ลบ. (-18% YoY) หรือ 38% ของเป้าหมายทั้งปี โดยโครงการเปิดใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 3.6 พันลบ. คิดเป็นเพียง 22% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 1.63 หมื่น ลบ.

ส่องผลประกอบการ 2Q65/1H65

แม้ว่ายอดพรีเซลล์จะฟื้นตัว แต่เราคาดว่ารายได้จากที่อยู่อาศัยในไตรมาส 2/65 จะอยู่ที่ 5.5 พัน ลบ.ลดลงทั้ง YoY และ QoQ แต่รายได้จากโรงพยาบาลน่าจะทรงตัว QoQ ที่ 250 ลบ. อัตรากำไรขั้นต้น/สุทธิคาดอยู่ที่ +30%/9% เท่ากับ 1Q65 แต่ฟื้นตัวจาก 2064 ที่ 29%/5.5% เราประมาณการกำไร 2Q65 ที่ 513 ล้านบาท ลดลง 7% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 20% YoY จากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว ดังนั้นกำไร 6 เดือนแรก อาจอยู่ที่ประมาณ 1.0-1.1 พันลบ. (+3% YoY) หรือ 39% ของประมาณการทั้งปีของเรา บริษัทฯ จะประกาศผลประกอบการ 2Q65 ในวันที่ 15 สค. 65

ลดราคาเป้าหมายเหลือ 10.5 บาท

เราปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 10.5 บาท (จาก 12.6 บาท) ประเมิน P/E ปี 65 ลดลงเหลือ 7.5 เท่า (จาก 10 เท่า) -1SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย โดยได้ราคา 9.5 บาทสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลัก และอีก 1 บาทสำหรับการลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล (ส่วนลด 50% จากมูลค่าการลงทุน 5.7 พัน ลบ.)

- Advertisement -