บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Healthcare Sector คาดว่ากําไรใน 2Q65F ของโรงพยาบาลใหญ่จะเพิ่มขึ้น YoY

Event

ประมาณการ 2Q65F ของกลุ่มโรงพยาบาล

Impact

คาดว่ากําไรสุทธิใน 2Q65 ส่วนใหญ่จะเพิ่มขึ้น YoY

1) Bangkok Chain Hospital (BCH.BK/BCH TB)* – เราคาดว่ากำไรสุทธิของ BCH ใน 2Q65F จะอยู่ที่ 1.18 พันล้านบาท (+2.6% YoY, -42.0% QoQ)

2) Bangkok Dusit Medical Services (BDMS.BK/BDMS TB)* – เราคาดว่ากำไรสุทธิของ BDMS ใน 2Q65F จะออกมาน่าพอใจที่ 2.42 พันล้านบาท (+66.8% YoY, -29.6% QoQ)

3) Bumrungrad Hospital (BH.BK/BH TB)* – เราคาดว่ากำไรสุทธิของ BH ใน 2Q65F จะแข็งแกร่งที่ 743 ล้านบาท (+243.3% YoY, +2.5% QoQ)

4) Chularat Hospital (CHG.BK/CHG TB)* – เราคาดว่ากำไรสุทธิของ CHG ใน 2Q65F จะออกมาน่าพอใจที่ 748 ล้านบาท (+29.9% YoY, -44.8% QoQ)

5) Ekachai Medical Center (EKH.BK/EKH TB) – เราคาดว่ากำไรสุทธิของ EKH ใน 2Q65F จะอยู่ที่ 47 ล้านบาท (-28.3% YoY, -36.5% QoQ)

6) Ladprao Hospital (LPH.BK/LPH TB) – เราคาดว่ากำไรสุทธิของ LPH ใน 2Q65F จะอยู่ที่ 69 ล้าน บาท (-18.5% YoY, -54.4% QoQ)

สถานการณ์โรคระบาดยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องใน 3Q65

จากข้อมูลยอดผู้ติดเชื้อของ นศ. ดูเหมือนจํานวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยรายวันจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญเหลือเพียง 2,178 ราย/วัน MTD ณ วันที่ 24 กรกฎาคม (จาก 9,939 ราย/วันใน 2Q65) อย่างไรก็ตาม เราพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีการรายงานอาจจะไม่ได้สะท้อนสภาพความเป็นจริง เพราะนับเฉพาะผู้ติดเชื้อที่ได้รับการตรวจแบบ RT PCR เท่านั้น ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อที่ทราบผลจากการใช้ชุดตรวจ ATK จะมีจํานวนมากกว่าจํานวนที่ตรวจด้วยวิธี RT PCR อย่างมาก แต่ยังดีที่ผู้ติดเชื้อเหล่านี้มีอาการไม่รุนแรง เพราะได้รับวัคซีนมาแล้วอย่างน้อยสองเข็ม เราคิดว่าโรงพยาบาลขนาดกลางถึงเล็ก (BCH*, CHG*, EXH และ LPH) จะได้โมเมนตัมบวกจากสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยจะลดลงก็ตาม

ความรุนแรงของโรคระบาดลดลงใน 2H65 หลังจากผ่านช่วงที่เลวร้ายที่สุดไปแล้วใน 2Q65

ถึงแม้ว่า COVID-19 จะยังคงระบาดอยู่ แต่เราคาดว่าผลกระทบด้านลบจากสถานการณ์โรคระบาดใน 2H65 น่าจะลดลงทั้ง YoY และ HoH ในขณะที่โรงพยาบาลส่วนใหญ่สามารถใช้ capacity ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยกลุ่มที่ไม่ได้ติด COVID ซึ่งมี intensity ได้ หลังจากที่มีการเลื่อนการรักษามาจากไตรมาสก่อนๆ

การที่ประเทศไทยเปิดประเทศอย่างเต็มที่จะช่วยหนุนการเติบโตของการรงพยาบาลขนาดใหญ่ สำหรับในระยะต่อไป  เราคาดว่าโรงพยาบาลที่ให้บริการผู้ป่วยต่างชาติจะโตได้เร็วว่าโรงพยาบาลที่มีฐานผู้ป่วยชาวไทย เพราะคาดว่าจะมีผู้ป่วยต่างชาติบินเข้ามารับบริการเพิ่มขึ้นหลังจากที่มีการเปิดประเทศอย่างเต็มที่ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ซึ่งในธีมนี้ เราคิดว่า BH* และ BDMS* จะเป็นตัวหลัก ที่ได้อานิสงส์จากฐานผู้ป่วยต่างชาติที่มีอยู่ตั้งแต่ช่วงก่อน COVID ระบาดในปี 2562

Valuation & Action

เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล Neutral โดยเลือก BDMS* เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ ประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ที่ 31.00 บาท โดยได้แรงสนับสนุนจาก i) การที่มีผู้ป่วยที่ไม่ได้ติด COVID มาใช้บริการเพิ่มขึ้น และ ii) การที่ประเทศไทยเปิดประเทศอย่างเต็มที่

Risks

COVID-19 ระบาด, เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้

- Advertisement -