บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Chularat Hospital (CHG.BK/CHG TB)* ประมาณการ 2Q65F: กำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY

Event

ประมาณการ 2Q65

Impact

คาดว่ากําไรใน 2Q65F จะยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ CHG ใน 2Q65F จะออกมาน่าพอใจที่ 748 ล้านบาท (+29.9% YoY, -44.8% QoQ) คิดเป็น 26.1% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราที่ 2.86 พันล้านบาท โดยกำไรสุทธิใน 1H65F จะคิดเป็น 73.5% ของประมาณการกำไรปี FY65F ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ ได้แก่

i) กำไรจะเพิ่มขึ้น YoY ใน 2Q65F เราคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 2.68 พันล้านบาท (+29.3% YoY, -25.0% QoQ) ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงมาอยู่ที่ 41.0% จาก 41.8% ใน 2Q64 และ 52.3% ใน 1Q65 เพราะความรุนแรงของสถานการณ์โรคระบาดลดลงทั้ง YoY และ QoQ และรัฐบาลจ่ายค่ารักษาลดลง อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ยังสูงอยู่ ในขณะที่การรักษาผู้ป่วยโรคอื่นที่ไม่ใช่ COVID-19 จะเพิ่มขึ้นทั้ง YOY และ QoQ เราคาดว่ารายได้จากบริการที่เกี่ยวกับ COVID 19 ของ CHG ใน 2Q65F จะคิดเป็นสัดส่วน 40% ของรายได้รวมจาก 30% ใน 2Q64 และ 50% ใน 1Q65 นอกจากนี้ เรายังคาดว่าผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 และรวมแพทย์ฉะเชิงเทราจะ แข็งแกร่งมากขึ้นใน 2Q65 ด้วย

ii) จะยังมีรายได้ต่อเนื่องจากการบริหารโรงพยาบาล CHG มีรายได้จากการบริหารโรงพยาบาลที่พัทยา เกาะล้าน และศูนย์หัวใจโรงพยาบาลสิรินธร ประมาณไตรมาสละ 70-100 ล้านบาท กําไรจะลดลง HoH ใน 2H65

เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ CHG ใน 2H65 จะลดลงจาก 1H65 เพราะผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ลดความรุนแรงลง หลังจากที่รัฐบาลใช้นโยบายประกาศให้ COVID-19 เป็นโรคประจําถิ่น

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565F ขึ้นอีก 30.7%

เมื่ออิงตามประมาณการ 1H65F ทำให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F ขึ้นอีกเนื่องจาก i) เราปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 46.8% (จากเดิม 37.9%) และ ii) เราปรับลดสมมติฐาน SG&A/รายได้ ลงเหลือ 9.8% (จากเดิม 11.0%) ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F เป็น 2.86 พันล้านบาท (-31.9% YoY)

Valuation & Action

เรายังคงชอบ CHG ในแง่ของศักยภาพการเติบโตจากการกระจายธุรกิจ ซึ่งทำให้มีช่องทางสร้างรายได้ที่หลากหลาย  เราคาดว่ากำไรสุทธิของ CHG จะอยู่ที่ 2.86 พันล้านบาท (-31.9% YoY) ในปี 2565F และจะอยู่ที่ 1.63 พันล้านบาท (43.0% YoY) ในปี 2566F เรายังคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ที่ 4.50 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.9% และ TG ที่ 3.0%)

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจชะลอตัวลง และเกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่

- Advertisement -