Trading Range: ยังไปต่อ 1570-1590

PICKS OF THE DAY

GFPT BUY

  • มูลค่าส่งออกไก่ 6 เดือนแรกของปี 65 +8% y-y
  • คาดกำไร 2Q65 +153% y-y ที่ 460 ลบ.

TOP BUY

  • ตลาดน้ำมันตึงตัวหนุนราคา
  • คาดกําไร 2Q65 +190% q-q

ตลาดหุ้นวันนี้

  • ยังไปต่อ: แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นบวกชดเชยในกรอบ 1570-1590 จุด หลังตลาดหุ้นสหรัฐบวกขึ้นต่อเนื่องสามวันติดต่อกัน โดย S&P ปรับตัวขึ้นรวมกว่า 5% จึงมองจะส่ง Sentiment บวกมายังตลาดหุ้นบ้านเราด้วยเช่นกัน ด้านราคาน้ำมันดับ WTI ปรับตัวผันผวนอิงทางขึ้นใกล้แตะระดับ 98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลก่อนการประชุม OPEC+ ในสัปดาห์นี้ โดย CNBC รายงานว่าแหล่งข่าวเผยโอเปกพลัสจะคงกำลังการผลิตเท่าเดิม จึงอาจยังไม่มีอุปทานใหม่ออกมาเพิ่มเติม ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่องก็เป็นบวกต่อราคาน้ำมัน จึงมองจะยังหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวขึ้นได้โดดเด่น ขณะที่เข้าสู่รอบประกาศผลประกอบการของหุ้นในกลุ่ม COMM และกลุ่มพลังงานบางส่วน ซึ่งยังได้รับผลดีจากมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวและค่าการกลั่นที่ทรงตัวในระดับสูงในช่วง 2Q65 จึงอาจเห็นแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มดังกล่าวด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี  เช้านี้น่าติดตามตัวเลข Caixin Manufacturing PMI เดือน ก.ค. ของจีน ซึ่งตลาดคาดชะลอตัวลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้ามาที่ 51.5 ขณะที่วานนี้รัฐบาลจีนเพิ่งประกาศตัวเลข Manufacturing PMI เดือนก.ค. ออกมาที่ 49.0 ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 50.4 จึงอาจเป็นแรงกดดันจำกัดการฟื้นตัวของตลาดได้
  • กลยุทธ์การลงทุน: ทางฝ่ายยังชอบ 1) หุ้นในกลุ่มค้าปลีก เช่น GLOBAL, DOHOME, ILM 2) หุ้นธนาคาร เช่น SCB, TTB, KKP, KBANK 3) หุ้นเปิดเมืองท่องเที่ยว เช่น MINT, CENTEL, ERW, MAJOR 4) หุ้นพลังงาน เช่น SPRC, IRPC, PTTEP, TOP
  • กังวล Recession สหรัฐฯ กดดันดอลลาร์ ทำให้บาทอิงทางแข็งค่าขึ้น: ช่วงสามวันทำการที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสามวันติดต่อกัน รับประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นไปตามคาดที่ 0.75% และได้จากแรงผลักในส่วนของการเก็งกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่ประเด็นที่ตามมาพร้อมกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่นักลงทุนดูจะสนใจ คือ การย่อตัวของ GDP สหรัฐฯ ที่ออกมาติดลบ 0.9% q-q ต่อเนื่องสองไตรมาสติดกัน ลักษณะนี้ตรงตามนิยามของ Recession ในระยะสั้น โดยมีสาเหตุมาจากการย่อตัวลงของการบริโภคที่มีสัดส่วนกว่า 70% ของ GDP สหรัฐ ขณะที่สัดส่วนใหญ่ที่น่ากังวลอีกส่วน คือ Business Investment ที่มีสัดส่วนกว่า 18% ของ GDP ซึ่งแปรผกผันกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเช่นเดียวกับการบริโภค ดังนั้น อาจยังเห็น GDP สหรัฐออกมาในเชิงติดลบต่อเนื่อง ภาพความกังวลดังกล่าวสะท้อนออกมาในค่าเงิน หลัง Dollar Index ปรับตัวลงต่อเนื่องสามวันลงมาแตะระดับ 105.2 จุด สวนกับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ค่าเงินบาทกลับมาอิงทางแข็งค่าบริเวณ 36.30 บาทต่อดอลลาร์ จึงมองหุ้นในกลุ่มบาทอ่อนจะได้รับผลบวกจากบาทที่เคยอิงทางอ่อนค่าน้อยลง แต่จะเป็นบวกต่อกระแสเงินลงทุนต่างชาติในตลาดในไทย
- Advertisement -