บล.ฟิลลิป:
โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ – HMPRO ครึ่งหลังฟื้นตัวมากขึ้น
Key Point
โมเมนตัมการดำเนินงานฟื้นตัวดีขึ้น h-h และ y-y จากฐานต่ำมากใน 3Q64 และหลายๆ ปัจจัยบวกช่วยชดเชยแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและค่าใช้จ่ายสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทางฝ่ายคงประมาณการ และราคาพื้นฐานเดิม อิง P/E 36X โดยยังไม่รวมผลบวกจากควบรวม Mega Home กับ HomePro คงคำแนะนำ “ซื้อ”
SSSG Qtd ฟื้นตัวแรง
SSSG เดือน ก.ค. พลิกฟื้นตัวแรง 18-19% y-y จากสาขา HomePro ในไทยเติบโต Double Digit y-y โดยเฉพาะสาขาใน กทม. และสาขาตามหัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เช่น สมุย ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ และในมาเลเซียที่ดีขึ้นเพิ่มขึ้นสูงกว่า 60% y-y จากฐานต่ำมากในช่วงเดียวกันปีก่อน และได้รับผลกระทบมาตรการล็อกดาวน์ (ทั้งในไทยและมาเลเซีย), สาขา Mega Home ปรับตัวดีขึ้น 5-6% y-y และอานิสงส์จากจัดงาน Homepro Super Expo เมื่อวันที่ 27-31 ก.ค. ช่วยกระตุ้นยอดขายอีกทาง
เปิดสาขาใหม่ 3Q65 นี้
เปิดสาขาใหม่ ซึ่งนับเป็นสาขาแรกของปีแม้เป็นการย้ายมาจากสาขาเดิม ได้แก่ HomePro ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต เปิดแล้วเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา และ HomePro สาขาลาดกระบัง คาดจะเปิดใน 4Q65 สําหรับ Mega Home ยังดำเนินการตามแผนเดิม คือจะเปิดเพิ่ม 5 แห่ง แบ่งเปิดใน 3Q65 จำนวน 2 แห่ง (พัทยา, ฉะเชิงเทรา) และ 4Q65 อีก 3 แห่ง (สุราษฎร์ฯ, ขอนแก่น, รัตนาธิเบศร์)
รับผลบวกจากควบรวม Mega Home กับ HomePro
ตั้งแต่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป จะเริ่มรวม Mega Home กับ HomePro เบื้องต้นคาดจะเห็น Synergy ร่วมกัน เช่น สามารถขายสินค้าระหว่างกันได้มากขึ้นแม้คนละกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย, ใช้ทรัพยากรต่างๆ ด้วยกัน ทำให้ต้นทุนการบริหารหรือดำเนินงานต่างๆ ลดลง หนุนทั้งยอดขายและมาร์จิ้นกลุ่มดีขึ้น (โดยยังไม่รวมในประมาณการ)
มองบวกต่อการดำเนินงานครึ่งหลัง
อย่างไรก็ตาม คาดการดำเนินงานครึ่งหลังฟื้นตัวมากขึ้น h-h และ y-y จากฐานต่ำมากใน 3Q64 บวกกับการให้ส่วนลดค่าเช่าลดลง และเปิดสาขาใหม่ 7 แห่ง แม้มาร์จิน และ SG&A ถูกกดดันจากต้นทุนเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายสาขาใหม่ แต่คาดถูกชดเชยจาก Product Mix และสัดส่วนสินค้า House Brand ที่เพิ่มขึ้นทำให้ได้รับผลกระทบจำกัด คงประมาณการกำไรเดิม 6,248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8% y-y
ความเสี่ยง
- เศรษฐกิจชะลอตัว
- ขยายสาขาได้น้อยกว่าที่วางแผนไว้