บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
BEC World (BEC.BK/BEC TB)*
ประมาณการ 2Q65F: ดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งในระยะถัดไป
Event
ประมาณการ 2Q65F และปรับประมาณการกำไรเต็มปี พร้อมทั้งราคาเป้าหมาย
Impact
กำไรปกติเติบโตดี
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ BEC ใน 2Q65F จะอยู่ที่ 176 ล้านบาท (-5% YoY, +1% QoQ) ในขณะที่กำไรปกติจะเติบโตดีขึ้น 20% ใน 2Q65F โดยคาดว่ารายได้จากค่าโฆษณาจะอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY และเพิ่มขึ้น 10% QoQ) โดยใช้สมมติฐานว่าอัตราค่าโฆษณาจะอยู่ที่ 77,500 บาทต่อนาที (-2.9% YoY และ -3.0% QoQ) และ utilization rate จะอยู่ที่ 72% ใน 2Q65 เพิ่มขึ้นจาก 70% ใน 2Q64 และ 64% ใน 1Q65 เราคาดว่า utilization จะดีขึ้น เพราะอัตราค่าโฆษณาที่ลดลงจะช่วยเพิ่มช่วงเวลาออกอากาศโฆษณา (advertising airtime) ท่ามกลางแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ารายได้จากค่าลิขสิทธิ์ (global content licensing หรือ GCL) และ platform ดิจิทัล 3 จะลดลง 40% YoY เนื่องจากมีการขาย content ไปให้ OTT platform ลดลง แต่คาดว่ารายได้ส่วนนี้จะเพิ่มขึ้น 17% QoQ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะลดลงเหลือ 13.6% ใน 2Q65 จาก 13.9% ใน 2Q64 และ 13.8% ใน 1Q65 จาการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
คาดว่าจะดีมากขึ้นใน 2H65F
เราคาดว่าธุรกิจสื่อโฆษณาจะดีขึ้นในปี 2565F จากการกลับมาเปิดดำเนินธุรกิจอีกครั้ง โดยยอดโฆษณารวมใน 1H165 เพิ่มขึ้น 5% YoY ในขณะที่ยอดโฆษณาผ่านสื่อ TV ยังไม่เพิ่มขึ้นใน 1H54 นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นยังทำให้ยอดซื้อโฆษณา TV ลดลง เพราะผู้โฆษณาเป็นกังวลเกี่ยวกับกำลังซื้อของผู้บริโภคใน 1H65 ส่งผลให้กำไรของ BEC เติบโตอย่างเชื่องช้าใน 1H65 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าผลประกอบการของ BEC จะดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งใน 2H65 เนื่องจาก i) คาดว่าละครเรื่องใหม่ (ซึ่ง มีคู่พระนางระดับแนวหน้า) จะช่วยขับเคลื่อนเรตติ้ง และยอดโฆษณา ii) คาดว่าภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจะช่วยหนุนยอดโฆษณา iii) คาดว่าจะขาย content ผ่าน GCL และ platform ดิจิทัล iv) บริษัทยังคงคุมต้นทุนอย่างต่อเนื่อง
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F/2566F ลง 20%/17%
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F/2566F ลง 20%/17% เพื่อสะท้อนถึงผลกระทบจากเงินเฟ้อ และแนวโน้มของยอดโฆษณาผ่านสื่อ TV โดยเราได้ปรับสมมติฐานสำคัญดังนี้ i) ปรับลดประมาณการรายได้ปี 2565F/2566F ลง 6%/5% (จากการปรับลดสมมติฐาน utilization rate ปี 2565F/2566F ลงเหลือ 73%/74% (จากเดิม 75%/75%) และปรับลดสมมติฐานอัตราค่าโฆษณาปี 2565F/2566F ลงเหลือ 5%/5%) ii) ปรับลดประมาณการต้นทุนปี 2565F/2566F ลง 2%/1% เพื่อสะท้อนถึงรายได้ที่ลดลง iii) ปรับเพิ่มประมาณการสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายปี 2565F/2566F เป็น 12.7%/12.9% (จากเดิม 12.6%/12.8%) ทั้งนี้ เราคาดว่ากําไรสุทธิใน 1H65F จะคิดเป็น 39% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา
Valuation and action
เรายังคงมองว่าผลประกอบการของ BEC มีแนวโน้มจะฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F ลงเหลือ 890 ล้านบาท (+17% YoY) และปี 2566F ลงเหลือ 1.1 พันล้านบาท (+24% YoY) เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย 1H66 และ de-rate PE ลงเหลือ 31x (จากเดิม 32.3x) ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 15.30 บาท (จากเดิมที่ 18.00 บาท) ทั้งนี้ เนื่องจากราคาหุ้นในปัจจุบันสะท้อนภาวะตลาดด้านลบไปเรียบร้อยแล้ว เราจึงยังคงคำแนะนํา ซื้อ BEC
Risks
ยอดโฆษณา และรายได้ GCL ต่ำกว่าที่คาดไว้