Trading Range: พักสั้นๆ 1585-1600

PICKS OF THE DAY

PLANB BUY

  • 2Q65 คาดกำไรจะดีขึ้น y-y, q-q
  • ฟื้นตัวต่อเนื่อง 2H65

TACC BUY

  • ยอดขายฟื้นตัวดีขึ้น
  • คาดกำไร 2Q65 New High

ตลาดหุ้นวันนี้

  • พักสั้นๆ : SET index ปรับตัวเข้าใกล้ระดับจิตวิทยาบริเวณ 1600 จุด หลังดีดตัวกว่า 65 จุด ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา ขณะที่เริ่มเห็นแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 วานนี้ ด้วยปริมาณขายสุทธิที่มากขึ้นกว่า 1.2 พันล้านบาท จึงมองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้อาจพักตัวในกรอบ 1585-1600 จุด โดยมองแรงกดดันมาจาก 1) ราคานํามันดิบ WTI ปรับตัวลงวานนี้กว่า 2.3% กดดันกลุ่มพลังงานย่อตัวลงต่อ 2) ประเด็นความตึงเครียดทางการเมือง จีน-ไต้หวัน ยังกดดัน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงจีนซ้อมรบบริเวณใกล้ช่องแคบไต้หวัน (4-7 ส.ค.) โดย BBC รายงานว่ามีการใช้อาวุธจริงในการซ้อมรบ และบางส่วนตกไปในน่านน้ำไต้หวัน และ 3) การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน ก.ค. ซึ่งตลาดคาด CPI และ Core CPI พุ่ง 7.80% และ 2.60% ซึ่งจะเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี และ 10 ปี ตามลำดับ มองเป็นแรงกดดันทางลบต่อภาพเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายทางการเงินของกนง. ในสัปดาห์หน้าให้อาจต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น อย่างไรก็ดี ยังมีแรงพยุงจากภายในด้วยประเด็นจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด 1.2 ล้านคนในเดือน ก.ค. ทําให้มองเป็นการย่อตัวเบาๆ ไปก่อนในวันนี้
  • กลยุทธ์การลงทุน: ทางฝ่ายชอบ 1) หุ้นที่อิงการท่องเที่ยวเปิดเมือง ที่ดีตามจํานวนนักท่องเที่ยวเข้าไทย เช่น CENTEL, ERW, SHR, CPALL, MBK, CPN 2) หุ้นกลุ่ม Anti-commodity ที่น่าจะปรับตัวขึ้นโดดเด่นหลังราคาน้ำมันดิบย่อตัวลงแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มโรงไฟฟ้าจะได้อานิสงส์เพิ่มเติมจากการที่ กกพ. ประกาศการปรับขึ้นค่า Ft งวด ก.ย.-ธ.ค. 65 อีก 68.66 สตางค์/หน่วย ดันค่าไฟฟ้าฐานเฉลี่ยมาอยู่ที่ประมาณ 4.72 บาท/หน่วย ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของไทย เช่น GULF, GPSC, BGRIM, EPG 3) กลุ่มธนาคาร รับดอกเบี้ยขาขึ้น เช่น KBANK, SCB, BBL
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญน่าติดตาม: 1) นอกจากตัวเลข CPI ไทยเดือน ก.ค. ที่จะประกาศช่วงเช้าวันนี้ ทางฝ่ายมองยังน่าติดตามตัวเลขเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยที่จะประกาศบ่ายวันนี้ หลังช่วงเดือน ก.ค. ค่าเงินบาทอ่อนค่า อาจทำให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศร่อยหรอ 2) การประชุมธนาคารกลางอินเดียที่ตลาดคาดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 อีก 0.35% มาที่ 5.25% และ 3) ตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐที่จะประกาศในคืนนี้ โดยจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5 แสนตำแหน่งจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 3.72 แสนตำแหน่ง
- Advertisement -