ADVANC เผยผลงานงวดไตรมาส 2/65 มีกำไร 6,305 ล้านบาท ลดลง 10% หลังขาดทุนค่าเงิน ไร้รายการพิเศษ ขณะที่งบครึ่งปีแรกกำไรลด 7.8% อยู่ที่ 12,616 ล้านบาท พร้อมหั่นเป้าหมายปีนี้ ทั้งรายได้โตเลขหลักเดียวในระดับต่ำ ส่วน EBITDA อยู่ในระดับคงที่ ระบุเกิดจากลกระทบรอบด้าน โดยเฉพาะภาวะเงินเฟ้อ รวมทั้งความขัดแย้งของประเทศต่างๆ ส่งผลทำให้ต้นทุนด้านพลังงานสูงขึ้น ส่งกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในวงกว้าง ย้ำยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยงบกว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีมีความแข็งแรง ต่อยอดการเติบโตในอนาคต พร้อมสั่งแจกปันผลรัหว่างกาล 3.45 บ./หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 19 สิงหาคมนี้

 

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC (AIS) เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยระบุว่า บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 6,305 ล้านบาท ลดลง 10% เทียบกับปีก่อน และคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เป็นผลจากการขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง และรายได้พิเศษครั้งเดียวที่เกิดขึ้นในไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมา จากการลงทุนเพื่อพัฒนาและขยายโครงข่าย 5G และ 4G อย่างต่อเนื่อง

ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 45,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% เทียบกับปีก่อน ขณะที่ต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น 2.9% เทียบกับปีก่อน และ 0.4% เทียบกับไตรมาสก่อน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายการตลาดและการบริหารโดยรวม เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านการตลาดในการออกแคมเปญต่างๆ ตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อม (EBITDA) สำหรับไตรมาส 2 อยู่ที่ 22,353 ล้านบาท ลดลง 2.8% จากปีก่อน และ 0.2% เทียบกับไตรมาสก่อน

“ในช่วงครึ่งปีแรก แม้จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ แต่ในภาพใหญ่สถานการณ์ทั่วโลกยังมีความน่าเป็นห่วง และต้องจับตามองใกล้ชิด โดยเฉพาะภาวะเงินเฟ้อ และความขัดแย้งของประเทศต่างๆ ส่งผลทำให้ต้นทุนด้านพลังงานสูงขึ้น แน่นอนว่า ส่งกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในวงกว้าง ทำให้บริษัทต้องปรับแผนการทำงานให้สอดรับกับสถานการณ์ที่มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในครึ่งปีแรกนี้ AIS สามารถทำผลงานออกมาได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ จากตัวเลขรายได้ที่มีการเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แน่นอนว่า ยังคงเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีให้มีความแข็งแกร่ง รองรับความต้องการประยุกต์ใช้ดิจิทัลในองค์กร และสร้างประสบการณ์ที่เป็นเลิศให้แก่ลูกค้าที่กำลังเพิ่มขึ้น” นายสมชัยกล่าว

สำหรับครึ่งปีแรก 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 12,616 ล้านบาท ลดลง 7.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการลดลงของ EBITDA และผลกระทบของการรับรู้รายการพิเศษเป็นรายได้อื่นในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 โดยรายได้จากการให้บริการหลักอยู่ที่ 66,063 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน สอดคล้องกับภาคเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่สูงและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นได้สร้างความกดดันต่อรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ลดลง

อย่างไรกตาม คณะกรรมการมีมติจ่ายปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกเป็นเงินสด จำนวน 3.45 บาทต่อหุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 19 สิงหาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 กันยายน 2565

ขณะเดียวกัน ในปีนี้ ADVANC ได้ปรับลดการคาดการณ์ผลการดำเนินงานของปี 2565 ลง โดยรายได้จากการให้บริการหลักปรับเป็นเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำ จากเดิมเป็นเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง กำไร EBITDA ปรับเป็นคงที่ถึงลดลงเล็กน้อย จากเดิมเป็นเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำ และปรับงบประมาณการลงทุน (ไม่รวมคลื่นความถี่)ไว้ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยจะเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายเพื่อส่งต่อคุณภาพที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า

“ความท้าทายในช่วงครึ่งปีหลังยังมีหลายปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญ ทั้งความเคลื่อนไหวของการเมืองระดับประเทศที่กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือแม้แต่ความรุนแรงของการแข่งขันที่จะมีเพิ่มสูงขึ้น แต่แน่นอนว่า บริษัทยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยงบกว่า 30,000 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีมีความแข็งแรง พร้อมต่อการเติบโตในอนาคตที่จะเป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อน Digital Economy รองรับบริการครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ ทั้งกลุ่มลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กรในภาคธุรกิจ ที่สอดรับกับเป้าหมายการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ที่มุ่งแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับลูกค้า สามารถสร้างบริการแบบ Personalization ได้อย่างสอดคล้องกับทุกความต้องการ อีกทั้งยังต้องรวดเร็วและตอบสนองในระดับ Real Time ได้อย่างดีที่สุด” นายสมชัย กล่าว

********

- Advertisement -