บล.บัวหลวง:

Quality Houses (QH TB/QH.BK)

QH – กำไรไตรมาส 2/65 ต่ำกว่าคาด

กําไรต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด

QH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 515 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY แต่ลดลง 12% QoQ ซึ่งกําไรหลักต่ำกว่าเราคาด 7% (เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัว และส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทร่วมที่ต่ากว่าคาด) และต่ำกว่าตลาดคาด 7% (อัตรากําไรขั้นต้นที่ขยายตัว)

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

กําไรหลักเติบโต YoY เป็นเพราะอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น และรายได้จากธุรกิจให้เช่าที่เพิ่มขึ้น กําไรหลักที่ลดลง QoQ เป็นผลมาจากส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนกับบริษัทร่วมที่ลดลง ยอดขายที่อยู่อาศัย อยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท (โครงการแนวราบ 97% โครงการคอนโด 3%) ทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 3% QoQ ยอดขายโครงการแนวราบอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท ลดลง 9% YoY และ 9% QoQ ยอดขายโครงการคอนโดอยู่ที่ 281 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148% YoY และ 341% QoQ (จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 2/64 และไตรมาส 1/65) รายได้จากโรงแรมและค่าเช่าอยู่ที่ 225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% YoY และ 28% QoQ อัตรากำไรขั้นต้นจากยอดขายที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 34.0% เพิ่มขึ้นจาก 31.4% YoY ในไตรมาส 2/64 (เนื่องจากสัดส่วนอัตรากําไรขั้นต้นที่สูงขึ้น) และทรงตัว QoQ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 22.9% เพิ่มขึ้น 80bps YoY และ 140bps QoQ (เปิดตัวโครงการ Q District ชัยพฤกษ์-ราชพฤกษ์ มูลค่าโครงการ 1.3 พันล้านบาท,286 ยูนิต) รายได้จากส่วนแบ่งธุรกิจอยู่ที่ 363 ล้านบาน ลดลง 5% YoY และ 9% QoQ อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. อยู่ในระดับ า ที่ 0.4 เท่า

แนวโน้ม

QH จะรายงานการเติบโตของกำไรหลัก YoY และ QoQ ในไตรมาส 3/65 หนุนโดยอัตรากำไรขั้นต้นจากโครงการระดับไฮเอนด์ที่ขยายตัว ยอดขายที่อยู่อาศัยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จากการโอนโครงการระดับไฮเอนด์ ในไตรมาส 3/65 QH จะเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่สองโครงการ ซึ่งได้แก่ โครงการ ลัดดารมย์ ราชพฤกษ์ตัดใหม่ มูลค่าโครงการ 1.7 พันล้านบาท, 178 ยูนิต และ โครงการ ลัดดารมย์ จตุโชติ 15 มูลค่า โครงการ 1.9 พันล้านบาท, 220 ยูนิต ซึ่งจะหนุนยอดจองซื้อในไตรมาส 3/65 อัตรากําไรขั้นต้นจากยอดขายที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY (อัตรากาไรขั้นต้นจากโครงการ Luxury ที่เพิ่มขึ้น) แต่ทรงตัว QoQ (จากฐานที่สูงในไตรมาส 2/65) เราคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จากปัจจัยเรื่องฤดูกาล

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

กําไรหลักครึ่งแรกของปี 2565 คิดเป็น 50% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 2.2 พันล้านบาท (เติบโต 32%) และ 50% ของประมาณการตลาด เรายังคงประมาณการไว้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ยอดขายที่อยู่อาศัยคาดว่าจะเติบโตที่ 14% YoY อัตรากําไรขั้นต้นจากยอดขายที่อยู่อาศัยจะทรงตัวอยู่ ที่ 31.7% ในปี 2565 แม้ว่าไตรมาส 3/65 จะดูน่าตื่นเต้น แต่ไตรมาส 4/65 ยังดูอ่อนแอในหุ้นกลุ่มอสังหาฯ

- Advertisement -