บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action TRADING (downgrade)

TP upside (downside) -3.1%

Close Aug 9, 2022 Price (THB) 12.80

12M Target (THB) 12.40

Previous Target (THB) 16.20

What’s new?

  • บริษัทรายงานกำไรปกติ 2Q65 ที่ 170 ลบ. (+8% QoQ, +53% YoY) เติบโตสูง YoY จากรายได้ Sea Freight ขณะที่กำไรเติบโตเล็กน้อย QoQ จากรายได้ Air Freight และ GPM ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
  • แนวโน้มกำไรปกติ 3Q65 แม้ได้อานิสงส์ เชิงบวกจากการเข้าสู่ช่วง High Season ซึ่งจะหนุนปริมาณการขนส่งทั้งทางทะเลและทางอากาศ แต่มีประเด็นลบหากการคลายล็อคดาวน์ของประเทศจีนเป็นไปได้ช้ากว่าที่คาด ส่งผลกดดันรายได้ Cross Border

Our view

  • ปรับประมาณการปี 2566 ลง 8% เป็น 567 (-4% YoY) เพื่อสะท้อนความเสี่ยงจากมาตรการ Zero Covid ของจีนที่ยืดเยื้อกดดันรายได้ Cross Border และค่าระวางคอนเทนเนอร์ทีมีโอกาสลดลงจาก Supply เรือคอนเทนเนอร์รอส่งมอบจํานวนมากในปี 2565
  • ปรับคำแนะนำลงเป็น “TRADING” พร้อมปรับไปใช้ราคาเหมาะสมใหม่ ณ สิ้น 1H66 ที่ 12.40 บาท/หุ้น จากการปรับประมาณการปี 2566 ลง และรายได้ Cross Border ที่ต่ำกว่าคาดอาจส่ง Sentiment เชิงลบต่อราคาหุ้นในระยะสั้น

WICE LOGISTICS กำไรปกติ In-line แต่ปรับประมาณการปี 66 ลง

กำไรปกติ 2Q65 เติบโต 8% QoQ และ 53% YoY

บริษัทรายงานกำไรปกติใน 2Q65 ที่ 170 ลบ. (+8% QoQ, +53% YoY) ใกล้เคียงคาด การปรับตัวเติบโต เด่น YoY มาจากรายได้ Sea Freight ที่ 1.2 พันลบ. (-5% QoQ, +72% YoY) จากทั้งปริมาณการขนส่ง และค่าระวางเฉลี่ยที่สูงขึ้น ขณะที่กำไรปกติเติบโตเล็กน้อย QoQ จาก 1) รายได้ Air Freight ที่ 432 ลบ. (+10% QoQ, -3%YoY) และ 2) GPM ที่ 17.3% (+139 bps QoQ, -43 bps YoY) หนุนจากทั้ง GPM ของธุรกิจ Sea Freight และ Air Freight ที่ปรับขึ้นเป็น 19.3% (+278 bps QoQ, +114 bps YoY) และ 18.3% (+607 bps QoQ, +53 bps YoY) ตามลำดับ สาเหตุหลักมาจากค่าระวางที่อ่อนตัวลง QoQ ทำให้การบริหารจัดการต้นทุนทำได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองเชิงลบต่อ 1) รายได้ Cross Border ที่ต่ำกว่าคาด โดยปรับลดลง 20% QoQ และ 32% YoY เป็น 318 ลบ. จากปัญหาการปิดด่านที่ประเทศจีนและการติดค้างบริเวณด่านศุลกากรยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และ 2) GPM Cross Border ต่ำกว่าคาดอยู่ที่ 9.1% (-574 bps QoQ, -661 bps YoY)

แนวโน้มกำไรปกติ 3Q65 มีทั้งปัจจัยบวกและลบ

แนวโน้มกำไรปกติใน 3Q65 แม้จะมีประเด็นบวกจากการเข้าสู่ช่วง High Season และสกุลเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยหนุนปริมาณการขนส่งทั้ง Sea Freight และ Air Freight ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นลบที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ 1) ค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์ซึ่ง (อิง Shanghai Containerized Freight Index) QTD มีการปรับตัวลดลง 5% QoQ และ 7% YoY อยู่ที่ 4,008 จุด โดยหากค่าระวางปรับตัวลดลงต่อเนื่องในเดือน ส.ค. และ ก.ย. จะทำให้แนวโน้มกำไรปกติใน 3Q65 มีโอกาสลดลง QoQ และ YoY ได้ และ 2) หากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ของจีนเป็นไปช้ากว่าที่คาดจะเป็นประเด็นกดดันผลประกอบการใน 3Q65 ในเชิง YoY (เนื่องจากรายได้ Cross Border ใน 3Q64 อยู่ที่ 532 ลบ. VS 2Q65 ที่ 318 ลบ.)

คงประมาณการปี 2565 แต่ปรับลดประมาณการปี 2566 ลง 8%

แม้ว่ากำไรปกติ 1H65 คิดเป็น 55% เมื่อเทียบกับประมาณการทั้งปี แต่เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ที่ 591 ลบ. (+11% YoY) เพื่อให้รัดกุมต่อแนวโน้มค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์ที่อาจมีการปรับตัวลดลงบ้างในช่วงปลายปี 2565 อย่างไรก็ตาม เรามีการปรับประมาณการปี 2566 ลง 8% เป็น 567 ลบ. (4% YoY) เนื่องจาก 1) ปรับสมมติฐานรายได้ Cross Border ลง 8% เป็น 2.4 พันลบ. เพื่อสะท้อนความเสี่ยงจากมาตรการ Zero Covid ของจีนที่ยืดเยื้อ และ 2) ปรับสมมติฐานรายได้ Sea Freight ลง 5% เป็น 3.6 พันลบ. เพื่อสะท้อนแนวโน้มค่าระวางในปี 2566 มีโอกาสปรับตัวลงมากกว่าคาด (อ้างอิง Clarksons Research เดือน ก.ค. 2565 คาดภาพรวมตลาดคอนเทนเนอร์ในปี 2566 จะมี Excess Supply 5.4% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 4.6% จากการคาดการณ์เมื่อต้นปี 2565)

ปรับคำแนะนำเป็น “TRADING” ราคาเหมาะสม สิ้น 1H66 ที่ 12.40 บาท/หุ้น

ผลของการปรับประมาณการลงทำให้เราปรับคำแนะนำลงจาก “BUY” เป็น “TRADING” และปรับไปใช้ราคาเหมาะสม สิ้น 1H66 ที่ 12.40 บาท/หุ้น (อิง Target PER ที่ 14.0x เทียบเท่า -1.25 S.D. จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ของกลุ่มฯ) ทั้งนี้ เราคาดว่ารายได้ และ GPM ของธุรกิจ Cross Border ที่ต่ำกว่าคาด จะส่ง Sentiment เชิงลบต่อราคาหุ้นในระยะสั้น จึงแนะนำชะลอการลงทุนจนกว่าจะมีประเด็นบวกใหม่

- Advertisement -