บล.เอเซีย พลัส:

กําไร 2Q65 โตแต่คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลง

กำไรสุทธิงวด 2Q65 เท่ากับ 1.4 พันล้านบาท ทำ New high รายไตรมาส เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.4% qoq และ 8.7% yoy จากสินเชื่อเติบโตต่อเนื่อง และสัดส่วน Cost to income ลดลง ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า Credit cost ที่สูงขึ้น จากคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลง สะท้อนจาก NPL/สินเชื่อสุทธิ (Stage 3) ณ สิ้นงวด 2Q65 ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 2.0% และสัดส่วนลูกหนี้ Stage 2 ต่อสินเชื่อสุทธิเพิ่มขึ้นมาที่ 8.4% ขณะที่ Coverage ratio ณ สิ้นงวด 2Q65 ปรับลดลงมาที่ 96%

คาดกำไรสุทธิปี 2565 จะเติบโต 4% yoy จากแนวโน้มสินเชื่อเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่คาดกำไรสุทธิงวด 3Q65 จะยังดีต่อเนื่อง (และเติบโต YoY) จากแนวโน้มสินเชื่อเติบโต หักล้างแนวโน้ม Credit cost ที่จะเพิ่มขึ้นบ้างไปได้ทั้งหมด กำหนด FV ปี 2565 เท่ากับ 52 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside จำกัด และความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลง จึงปรับลดคำแนะนำเป็น Switch (เดิม ซื้อ)

สินเชื่อเติบโตดีแต่คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลง

กำไรสุทธิงวด 2Q65 เท่ากับ 1.4 พันล้านบาท ทำ New high รายไตรมาส (ตามคาด) เพิ่มขึ้น 0.4% qoq และ 8.7% yoy มีปัจจัยสนับสนุนจาก

1) สินเชื่อสุทธิงวด 2Q65 เติบโตถึง 8.9% qoq และ 34.5% yoy จากการเปิดเมือง หนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว ส่งผลบวกต่อความต้องการใช้สินเชื่อเพิ่มขึ้น และผลบวกจากการขยายสาขาอีกถึง 314 สาขาในงวด 2Q65 จนล่าสุด MTC มีสาขาทั้งสิ้น 6,475 สาขา

2) สัดส่วน Cost to income งวด 2Q65 ปรับลดลงมาที่ระดับ 46.3% จาก 50.8% ในงวดก่อน ผลบวกจากการเน้นควบคุมค่าใช้จ่ายภายในกิจการต่อเนื่อง

ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าผลกระทบจาก Credit cost งวด 2Q65 ที่จะปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 2.0% จาก 0.7% ในงวดก่อน ผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อกดดันความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ลดลง โดย NPL/สินเชื่อสุทธิ (Stage 3) ณ สิ้นงวด 2Q65 อยู่ที่ 1.96% เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.65% ณ สิ้นงวด 1Q65 ทั้งนี้ สัดส่วนหนี้สินที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อสินเชื่อสุทธิ (Stage 2) ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 8.4% จาก 6.8% ในงวด 1Q65 จึงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะที่ Coverage ratio ณ สิ้นงวด 2Q65 อยู่ที่ 96.3% ลดลงจาก 112.9% จากงวดก่อนบ้าง ถือว่าคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลงเมื่อเทียบกับงวดก่อน

ขณะที่ Spread เฉลี่ยงวด 2Q65 จะอยู่ที่ 14.69% อ่อนตัวลงเล็กน้อยจากงวดก่อนที่ 14.74% กดดันจาก Yields เฉลี่ยงวด 2Q65 อ่อนตัวลงเล็กน้อยมาที่ 17.91% จาก 17.99% ในงวด 1Q65 ขณะที่ Cost of funds เฉลี่ยงวด 2Q65 ปรับลดลงเล็กน้อยมาที่ 3.23% จาก 3.25% ในงวด 2Q65

โดยรวมแล้ว กำไรสุทธิงวด 1H65 เท่ากับ 2.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% yoy และคิดเป็น 53% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้

ทิศทางกำไรสุทธิปี 2565-66 จะเติบโตต่อเนื่อง

คงประมาณการ คาดกำไรสุทธิปี 2565 จะพลิกกลับมาเติบโต 4.2% yoy จากแนวโน้มสินเชื่อสุทธิปี 2565 เติบโตถึง 25.4% yoy จากแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว หักล้างผลกระทบจากแนวโน้ม Cost to income ปี 2565 ที่จะปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 54.9% ไปได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดกำไรสุทธิงวด 3Q65 จะยังดีต่อเนื่องจากงวด 2Q65 (และเติบโต YoY) จากแนวโน้มสินเชื่อเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าแนวโน้มการตั้งสำรองหนี้สูญฯ ที่จะเพิ่มขึ้นบ้าง จากแนวโน้มภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้นในงวด 3Q65

สำหรับความกังวลเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ฝ่ายวิจัยประเมินว่า MTC จะได้รับผลกระทบจำกัดในปี 2565 เพราะหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายเกือบทั้งหมด เป็นหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ โดยคาดจะเริ่มเห็น Cost of funds ปรับเพิ่มขึ้นราว 0.2% ในงวด 4Q65 โดยฝ่ายวิจัยได้ทำ Sensitivity ว่าหากธนาคารแห่งประเทศไทยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทุกๆ 0.25% (โดยสมมติฐานอื่นไม่เปลี่ยนแปลง) จะกระทบต่อแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2566 ของ MTC ราว 1.2%

ราคาหุ้นสะท้อนมูลค่าพื้นฐานไปแล้ว….ลดคำแนะนําเป็น SWITCH

ปี กําหนด FV ปี 2565 เท่ากับ 52 บาท อิง PBV 3.8 เท่า ตามวิธี GGM ภายใต้คาดการณ์ ROE เฉลี่ย 19.0% ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside จำกัด และความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลง จึงปรับลดคำแนะนำเป็น Switch (เดิม ซื้อ)

การทำธุรกิจโดยให้ความสําคัญต่อ ESG

MTC ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจแบบยั่งยืน และ ESG โดยสามารถสรุปได้ดังนี้

Environmental: ประหยัดกระดาษ เช่น การใช้ใบเสร็จอิเล็คโทรนิคส์ เป็นต้น

Social: ช่วยเหลือให้บริการลูกค้าให้มีเงินทุนหมุนเวียนด้านการดำรงชีพ ให้คำแนะนำลูกค้าด้านการเงิน

Governance: การกำกับดูแลกิจการที่ดี ต่อต้านคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ

ประเด็นความเสี่ยง

1. สินเชื่อสุทธิเติบโตต่ำกว่าคาด จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มรายได้และกำไรสุทธิของ MTC

2. คุณภาพสินทรัพย์และแนวโน้มการเกิด NPL ใหม่ๆ

3. อัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น

4.กฎหมายและข้อบังคับจากภาครัฐ

MTC แนะนํา SWITCH

ราคาปัจจุบัน (บาท) 51.00

ราคาเป้าหมาย (บาท) 52.00

Upside (%) 2.0

Dividend yield (%) 0.7

- Advertisement -