บล.เอเซีย พลัส:
ทิศทางกำไรจะฟื้นตัวในปี 2565
กำไรสุทธิงวด 2Q65 เท่ากับ 40 ล้านบาท ลดลงถึง 43% qoq (แต่เพิ่มขึ้น 9% yoy) จาก Combined ratio ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 96.5% หักล้างผลบวกจากรายได้ธุรกิจเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นไปได้ทั้งหมด ทั้งนี้ คาดอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยจะทยอยฟื้นตัวในงวด 2H65 ตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-66 ลง 12% และ 17% จากเดิม ตามลำดับ สะท้อนการปรับลดสมมติฐานเบี้ยประกันภัยรับ และ Combined ratio เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ภายหลังปรับประมาณการ คาดกำไรสุทธิปี 2565 จะฟื้นตัวถึง 92% yoy จากฐานกำไรที่ต่ำในปีก่อน และแนวโน้มเคลมจากโควิดลดลง กำหนด Fair value ปี 2565 ใหม่เท่ากับ 5.80 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันมีค่า PBV ปี 2565 ที่ 1.8 เท่า มีส่วนลดจากค่าเฉลี่ย PBV 8 ปี ย้อนหลังอยู่ 1.1 SD โดย THREL ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 1H65 เท่ากับ 0.08 บาท คิดเป็น Div yield 1.8% ยังแนะนำซื้อ
COMBINED RATIO แย่ลง กดดันกำไร 2Q65
กำไรสุทธิงวด 2Q65 เท่ากับ 40 ล้านบาท ลดลงถึง 42.7% qoq (แต่เพิ่มขึ้น 8.5% yoy) มีปัจจัยกดดันจาก Combined ratio งวด 2Q65 (สัดส่วนค่าใช้จ่ายประกันภัยเทียบกับเบี้ยประกันภัยรับ) จะปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 96.5% จาก 90.0% ในงวด 1Q65 สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายบำเหน็จปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับปกติ หลังจากที่มีการปรับปรุงค่าบำเหน็จให้ลดลงในบางสัญญา ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า
1) รายได้จากเงินลงทุนงวด 2Q65 ปรับเพิ่มขึ้น 27.7% qoq (แต่ ลดลง 24.3% yoy) มาที่ 20 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลจ่ายปันผลประจำปีของบริษัทใน SET และกองทุนรวมที่ THREL ลงทุน และ 2) เบี้ยประกันภัยรับที่ถือเป็นรายได้ งวด 2Q65 เพิ่มขึ้น 1.1% qoq (แต่ลดลง 1.7% yoy) มาที่ 700 ล้านบาท
โดยรวมแล้ว กำไรสุทธิงวด 1H65 เท่ากับ 110 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 69.3% yoy และคิดเป็น 51% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ก่อนปรับปรุง
อุตสาหกรรมประกันชีวิตฟื้นช้ากว่าคาด
แนวโน้มธุรกิจของ THREL ในปี 2565 จะฟื้นตัวชัดเจน จาก
1) THREL ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับปี 2565-67 เติบโต 7-8% ต่อปี จากแนวโน้มการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Non-Conventional 7 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะทยอยขายตั้งแต่งวด 2Q65 เป็นต้นไป แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในไทย 4 ผลิตภัณฑ์ และต่างประเทศ 3 ผลิตภัณฑ์ หลักๆ จะเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มประกันสุขภาพ โดยปัจจุบัน THREL ได้ขยายธุรกิจไปสู่ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน ลาว และฟิลิปปินส์ แล้ว ทั้งนี้ ภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยงวด 1H65 อ่อนตัวลงเล็กน้อย สะท้อนจากเบี้ยประกันชีวิตงวด 1H65 ปรับลดลง 1.9% yoy มาที่ 2.9 แสนล้านบาท จากภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัวล่าช้า และผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ โดยสมาคมประกันชีวิตไทยคาดเบี้ยประกันชีวิตปี 2565 จะทรงตัวจากปี 2564 ที่ระดับ 6.1 แสนล้านบาท
2) การหาพันธมิตรที่เป็นโบรกเกอร์ เพื่อช่วยในการขายผลิตภัณฑ์ของ THREL ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น โดยล่าสุดก็ได้พันธมิตรที่เป็น Digital Broker แล้ว 1 ราย
และ 3) THREL ตั้งเป้า Combined ratio ปี 2565 ที่ระดับ 94-95% ฟื้นตัวจากระดับ 99.1% ในปี 2564 จากแนวโน้มเคลมที่เกี่ยวข้องกับโควิดปรับลดลง และการขายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะมี Combined ratio ที่ดีขึ้นในปี 2565
ลดประมาณการ…ปรับสมมติฐาน COMBINED RATIO สูงขึ้น
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-66 ลง 12.2% และ 16.5% จากเดิม สะท้อนการปรับลดสมมติฐานเบี้ยประกันภัยรับปี 2565-66 ลง 3.7% และ 3.7% จากเดิม สะท้อนอุตสาหกรรมประกันชีวิตฟื้นตัวล่าช้าในปี 2565 และปรับเพิ่มสมมติฐาน Combined ratio ปี 2565-66 ขึ้นมาที่ 95.0% และ 95.0% เนื่องจากประเมินไว้ดีเกินไป แม้ Combined ratio งวด 1H65 จะอยู่ที่ 93.2% แต่คาดทิศทาง Combined ratio งวด 2H65 จะปรับสูง ขึ้นมาสู่ระดับใกล้เคียงงวด 2Q65 ที่ 96.5%
ทั้งนี้ ภายหลังปรับลดประมาณการ คาดกำไรสุทธิปี 2565 จะฟื้นตัวถึง 92.0% yoy จากฐานกำไรที่ต่ำในปีก่อน จากแนวโน้ม Combined ratio ปี 2565 ฟื้นตัวดีขึ้นมาที่ 95.0% จากแนวโน้มเคลมจากโควิดลดลง นอกจากนี้ ยังคาดเบี้ยประกันภัยรับปี 2565 จะเติบโต 4.0% yoy ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ในเบื้องต้น คาดกำไรสุทธิงวด 3Q65 จะทรงตัวใกล้เคียงงวด 2Q65 (และเพิ่มขึ้น YoY) จากแนวโน้มเบี้ยประกันภัยงวด 2Q65 จะเติบโตต่อเนื่อง และแนวโน้ม Combined ratio ดีขึ้น ชดเชยแนวโน้มรายได้จากเงินลงทุนที่จะลดลงบ้างในงวด 3Q65 ไปได้ทั้งหมด
ทิศทางธุรกิจยังดีในระยะยาว…แนะนําซื้อ
กําหนด Fair value ปี 2565 ใหม่เท่ากับ 5.80 บาท (เดิม 7 บาท) อิง PBV 2.3 เท่า (เดิม 2.7 เท่า) ตามวิธี Gordon Growth Model ที่ ROE เฉลี่ยระยะยาว 15.0% (เดิม 17.0%) ราคาหุ้นปัจจุบันมีค่า PBV ปี 2565 ที่ 1.8 เท่า มีส่วนลดจากค่าเฉลี่ย PBV 8 ปี ย้อนหลังของ THREL อยู่ 1.1 SD โดย THREL ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 1H65 เท่ากับ 0.08 บาท คิดเป็น Div yield สำหรับงวด 1H65 เท่ากับ 1.8% ยังแนะนำซื้อ
ประเด็นความเสี่ยง
- เศรษฐกิจชะลอตัว จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเบี้ยประกันภัยรับ และกำไรสุทธิของ THREL ให้ลดลงได้
- ความผันผวนของ Combined ratio ปรับสูงขึ้น เช่น ค่าเคลมประกันภัยและค่าบำเหน็จ เป็นต้น จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มกำไรสุทธิของ THREL ให้ลดลงได้
THREL แนะนํา ซื้อ
ราคาปัจจุบัน (บาท) 4.44
ราคาเป้าหมาย (บาท) 5.80
Upside (%) 30.6
Dividend yield (%) 5.0