บล.บัวหลวง:
Central Pattana (CPN TB/CPN.BK)
CPN – กำไรไตรมาส 2/65 ดีกว่าคาด; คาดแนวโน้มแข็งแกร่งในครึ่งหลังของปี 2565
กําไรสูงกว่าที่เราและตลาดคาด (11%) (เล็กน้อย)
CPN รายงานกําไรหลักไตรมาส 2/65 ที่ 2,546 ล้านบาท เติบโต 122% YoY และ 10% QoQ ซึ่งรวมกำไรพิเศษ 345 ล้านบาท จากการขายหุ้น 10% ในโครงการดุสิตเซ็นทรัลพาร์คให้กับ DUSIT แล้ว กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117% YoY และ 27% QoQ ซึ่งมากกว่าเราคาด 5% (และมากกว่าตลาดคาด 11%) เนื่องจากรายได้ที่สูงขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่มากกว่าคาด
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
บริษัทมีรายได้จากธุรกิจหลักที่ 8,576 ล้านบาท เติบโต 43% YoY และ 10% QoQ การฟื้นตัวของจํานวนลูกค้าเข้าห้างสรรพสินค้าที่แข็งแกร่ง (โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 85% ของระดับก่อนยุคโควิด แต่ถ้ามองเฉพาะมอลล์ที่เน้นไปที่นักท่องเที่ยวจ่านวนลูกค้าอยู่ที่ 80% ของระดับก่อนยุคโควิด) ส่งผลให้รายได้ค่าเช่าอยู่ที่ 7,552 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% YoY และ 6% QoQ นอกเหนือจากการลดลงของส่วนลดค่าเช่าประมาณ 1% QoQ แล้ว ส่วนแบ่งรายได้จากยอดขายของผู้เช่ายังเพิ่มขึ้น 15% QoQ ซึ่งหนุนการเติบโตของรายได้ นอกจากนี้ จํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากยังส่งผลให้รายได้ธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น และการกลับมาทํางานของพนักงานออฟฟิศก็ส่งผลให้รายได้จากศูนย์อาหารพุ่งสูงขึ้น และการโอนโครงการแนวราบและโครงการคอนโดที่เพิ่มขึ้นช่วยเพิ่มยอดขายธุรกิจที่อยู่อาศัย
การเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่งในทุกธุรกิจหลักส่งผลให้ CPN รายงานอัตรากำไรขั้นต้นที่ 48.6% เพิ่มขึ้นจาก 40.2% ในไตรมาส 2/64 และ 47.9% ในไตรมาส 1/65 แม้ว่าค่าใช้จ่ายทางการตลาดจะเพิ่มขึ้น แต่อัตรากําไรจากการดำเนินงานยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 39% ในไตรมาส 2/65 จาก 27.4% ในไตรมาส 2/64 และ 38.3% ในไตรมาส 1/65
แนวโน้ม
เราคาดว่ากําไรจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งตลอดครึ่งหลังของปี 2565 เรามองจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนุนโดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ส่วนลดค่าเช่าลดลงอีก และส่วนแบ่งรายได้ที่สูงขึ้นจากผู้เช่า (ผู้บริหารกล่าวว่าตัวเลขเบื้องต้นบ่งชี้ให้เห็นว่าทั้งปริมาณลูกค้าและยอดขายของกลุ่มผู้เช่าในเดือนก.ค.2565 ที่เพิ่มขึ้น) CPN คาดว่าอัตราส่วนลดค่าเช่าจะลดลงเหลือเพียงหลักเดียวภายในสิ้นปี 2565 (เท่ากับ 15% ในไตรมาส 2/65)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
กําไรหลักครึ่งแรกของปี 2565 คิดเป็น 51% ของประมาณกำไรปี 2565 ของเราที่ 9,502 ล้าน (ซึ่งสูงกว่าสัดส่วนรายได้ในครึ่งแรกของปีก่อนโควิดที่อยู่ประมาณ 48%) เรายังคงการประมาณการณ์เราไว้ไม่เปลี่ยนแปลง
คําแนะนํา
เราชอบ CPN เนื่องจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของลูกค้าในห้างสรรพสินค้า และเนื่องจากกำไรมีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยจากต้นทุนที่สูงขึ้น ราคาหุ้นจึงน่าจะปรับตัวได้ดีกว่ากลุ่มค้าปลีก นอกจากนี้ กําไรช่วงครึ่งปีแรกที่ดีกว่าตลาดคาด น่าจะส่งผลให้ตลาดมีการปรับประมาณการขึ้นด้วย ซึ่งจะช่วยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น เราคงคำแนะนํา ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ที่ได้มาจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ที่ 76 บาท ซื้อ!