บล.ทรีนีตี้:
เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ – BJC
กำไร 2Q65 โตจากฐานต่ำ
- ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 40 บาท (อิงวิธี DCF)
- BJC ประกาศกำไร 2Q65 ที่ 1,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 381 ล้านบาท +46.3% YoY, -3.5% QoQ เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากยอดขายในกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ธุรกิจเวชภัณฑ์และเทคนิค และธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่
- BIG C sssg อยู่ที่ 5% YoY มีผลมาจากการกลับมาฟื้นตัวของยอดขายเสื้อผ้า และของใช้และตกแต่งภายในบ้าน รวมถึงยอดขายที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสินค้าอุปโภคและบริโภค
- คาดว่า SSSG จะยังบวกต่อเนื่องใน 3Q65 จากฐานที่ต่ำ
ผลดำเนินงาน 2Q65
- BJC ประกาศกำไรสุทธิที่ 1,203 ล้านบาท (+46.3% YoY, -3.5% QoQ) มากจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากยอดขายในกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ธุรกิจเวชภัณฑ์และเทคนิค และธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นยอดขายของรายได้อื่นๆ และความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่
- สำหรับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ SSSG 2Q65 +5.1% YoY มีผลมาจากการกลับมาฟื้นตัวของหมวดหมู่เสื้อผ้า และอุปกรณ์ตกแต่งและของใช้ภายในบ้าน รวมถึงยอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่องของสินค้าอุปโภคและบริโภค จากช่วงเทศกาลสงกรานต์และช่วงเปิดภาคเรียน รวมถึงอัตราการเช่ากลับมาดีขึ้นและการให้ส่วนลดเฉลี่ยแก่ผู้เช่าลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น YoY จาก 14.9% เป็น 16.4% มาจาก product mix ที่ดีขึ้น และการจัดการสินค้าคงคลังที่ดี โดย BIG C ได้เปิดบิ๊กซีมินิทั้งหมด 25 สาขาในประเทศไทย และมีการซื้อกิจการร้านค้าสะดวกซื้อกีวี่ จำนวน 18 สาขา ในประเทศกัมพูชา และปิดบิ๊กซีมินิจำนวน 3 สาขาใน 2Q65
- บริษัทรายงานค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 2Q65 เท่ากับ 39,745 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,768 ล้านบาท (+10% YoY, +5% QoQ) สาเหตุหลักๆ จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนขาย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น และราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงาน และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการอาคาร
- เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาทต่อหุ้น โดยเงินปันผลดังกล่าวจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 กันยายน 2565 (XD วันที่ 24 สิงหาคม 2565)
3Q65 Outlook
คาดว่า 3Q65 จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในด้าน sssg และกำไร จากฐานที่ต่ำใน 3Q64 โดยเฉพาะธุรกิจ BIG C ที่มีสัดส่วนกำไรประมาณ 50% ของ BJC เนื่องจากมีการลดการให้ส่วนลดค่าเช่า และการที่มีนักท่องเที่ยวมากขึ้นจากการยกเลิก Thailand Pass
ความเสี่ยง: เงินเฟ้อ, การปรับขึ้นของค่าไฟและค่าแรงขั้นต่ำ, กำลังซื้อของผู้บริโภค