บล.กรุงศรีฯ:

GFPT (GFPT TB/ GFPT.BK)

GFPT – คาดว่ากำไรใน 3Q จะโต yoy (TP Bt15.60, HOLD)
กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร
หุ้นGFPT
มูลค่าพื้นฐาน15.60
คำแนะนำHOLD

กำไรสุทธิ 2Q ทรงตัว qoq ที่ 454 ล้านบาท (+150% yoy, 0% qoq) คาดกำไรใน 3Q จะเพิ่มขึ้น yoy เนื่องจาก (1) ราคาไก่สูงขึ้น  และ (2) ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น เรายังคงคำแนะนำถือ GFPT เนื่องจาก (1) upside จำกัด และ (2) มีความเสี่ยงด้านนโยบาย ประเมินราคาเป้าหมายที่ 15.60 บาท อิงจาก PER ปี FY22F ที่ 14x

กำไรสุทธิใน 2Q ทรงตัว qoq อยู่ที่ 454 ล้านบาทm

ผลประกอบการใน 2Q ใกล้เคียงกับประมาณการของตลาดที่ 449 ล้านบาทและประมาณการของเราที่ 430 ล้านบาท โดยปริมาณยอดขายในประเทศลดลง 8% ใน 2Q เนื่องจากราคาไก่ที่สูงขึ้นทำให้อุปสงค์ในประเทศลดลง ในขณะเดียวกันปริมาณการส่งออกไปยังญี่ปุ่น (ตลาดส่งออกหลักที่คิดเป็น 12% ของยอดขายรวม) ก็ลดลงเพราะมีลูกค้าบางรายเลื่อนคำสั่งซื้อออกไปหลังจากที่เงินเยนอ่อนค่าลงถึง 12% qoq เมื่อเทียบกับ USD และอ่อนค่าลง 4% เมื่อเทียบกับ THB ซึ่งไปหักล้างกับปริมาณการส่งออกไปยุโรปที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณการส่งออกรวมจึงลดลง 3% เหลือ 11,300 ตันใน 2Q

สต็อกอาหารสัตว์ใน 3Q มีต้นทุนสูง

อาหารสัตว์เป็นต้นทุนหลักของผู้ผลิตไก่ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 55-65% ของต้นทุนการผลิตรวมของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โดยข้าวโพด และกากถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์สำหรับธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ของ GFPT ในขณะเดียวกัน ต้นทุนเฉลี่ยของข้าวโพด และกากถั่วเหลืองในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนเพิ่มขึ้น 14% qoq เป็น 13.12 บาท/กก. และเพิ่มขึ้น 6% qoq เป็น 22.77 บาท/กก. ตามลำดับ ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทเก็บสต็อกอาหารสัตว์ประมาณ 3 เดือน ดังนั้น เราจึงคาดว่าต้นทุนอาหารสัตว์สำหรับผลการดำเนินงานใน 3Q จะเพิ่มขึ้น 10%

แต่คาดว่ากำไรใน 3Q จะยังโต yoy

ราคาไก่ในประเทศไทยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก 10% mom เป็น 46-47 บาท/กก. ในเดือนกรกฎาคม เราคาดว่าราคาไก่ในประเทศจะยังคงสูงต่อเนื่องใน 3Q ถึงแม้ว่าสต็อกอาหารสัตว์ใน 3Q จะมีต้นทุนสูง แต่เรายังคงคาดว่ากำไรใน 3Q จะยังเพิ่มขึ้น yoy เนื่องจาก (1) ราคาไก่ที่สูงขึ้นจะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q (2) เป็นฤดูกาลส่งออก และ (3) ปริมาณการส่งออกไปญี่ปุ่นจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่เงินเยนกลับมาแข็งค่าขึ้นใน 3Q (เงินเยนแข็งค่าขึ้น +3% QTD)

คงคำแนะนำถือ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 15.60 บาท

เรายังคงคำแนะนำถือ เนื่องจาก (1) ราคาหุ้นเหลือ upside จำกัด และ (2) มีความเสี่ยงด้านนโยบายเพื่อคุมเงินเฟ้อด้วยการจำกัดการปรับขึ้นราคาขาย ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายของเราอิงจาก PER ปี FY22F ที่ 14x

- Advertisement -