บล.บัวหลวง: 

Thai Vegetable Oil (TVO TB/TVO.BK)

TVO – กำไรหลักดีกว่าคาดเล็กน้อย; คาดกำไรไตรมาส 3/65 เติบโตแข็งแกร่ง YoY

กําไรสุทธิดีกว่าคาดจากกำไรพิเศษ บันทีกครั้งเดียว TVO รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 954 ล้านบาท เติบโต 31% YoY และ 44% QoQ หากไม่รวม 5 รายการพิเศษในไตรมาส 2/65 ซึ่งได้แก่ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 7 ล้านบาท กําไรจากตราสารอนุพันธ์ 263 ล้านบาท การกลับรายการตั้งด้อยค่าสินค้าคงคลัง 4 ล้านบาท การกลับรายการตั้งด้อยค่าของสินทรัพย์ทางการเงิน 7 ล้านบาท และการตั้งด้อยค่าของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 73 ล้านบาท กำไรหลักในไตรมาสนี้อยู่ที่ 760 ล้านบาท เติบโต 4% YoY และ 35% QoQ กําไรสุทธิดีกว่าที่เราคาด 31% เนื่องจากกำไรพิเศษข้างต้น ในขณะที่กำไรหลักสูงกว่าคาด 6% เนื่องจากอัตรากําไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาด ยอดขายต่ำกว่าคาด 3% ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12.4% ในไตรมาส 2/65 สูงกว่า ที่เราคาดที่ 11.5% (เทียบกับ 14.2% ในไตรมาส 2/64 และ 9.8% ใน ไตรมาส 1/65)

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

กําไรหลักที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY เป็นผลมาจากวอลุ่มขายที่เพิ่มขึ้นของ น้ำมันถั่วเหลือง (SBO) และราคาขายน้ำมันถั่วเหลืองและกากถั่วเหลือง (SBM) ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกลบต้นทุนถั่วเหลืองที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 8% YoY ถึงแม้ว่าอัตรากําไรขั้นต้นลดลงจาก 14.2% ในไตรมาส 2/64 เหลือ 12.4% ในไตรมาส 2/65 สําหรับกากถั่วเหลือง ราคาขายกากของ TVO ปรับเพิ่มขึ้นตามราคากากถั่วเหลืองในประเทศ และราคากากถั่วเหลืองโลกที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/65 แต่วอลุ่มขายกากถั่วเหลืองทรงตัว YoY เนื่องจากฟาร์มหมูบางแห่งยังคงได้รับผลกระทบจาก โรค ASF ที่แพร่ระบาดตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2564 สําหรับน้ำมันถั่วเหลือง ทั้งยอดขายและราคาขายน้ำมันถั่วเหลืองของ TVO ปรับเพิ่มขึ้น ไปตามทิศทางของสต๊อกน้ำมันพืชโลกที่ดึงตัว และผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน (ซึ่งกระทบต่ออุปทานน้ำมันดอกทานตะวัน) ในไตรมาส 2/65 ราคาตลาดของกากถั่วเหลืองเฉลี่ยในประเทศและราคาถั่วเหลืองโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 22.8 บาท/กก. (เพิ่มขึ้น 18% YoY และ 7% QoQ) และ 16.84 เหรียญสหรัฐ/บูเชล (เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 8% QoQ) ราคาสําหรับน้ำมันถั่วเหลืองโลกและน้ำมันปาล์มมาเลเซียเฉลี่ยอยู่ที่ 79.6 เซนต์/ปอนด์ (เพิ่มขึ้น 26% YoY และ 17% QoQ) และ 6,568 ริงกิต/ตัน (เพิ่มขึ้น 56% YoY และ 6% QoQ) ตามลำดับ

แนวโน้ม

เราคาดกําไรหลักไตรมาส 3/65 ที่ 600 ล้านบาท เติบโตแรง 163% YoY (จากฐานกําไรหลักและอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำมากในไตรมาส 3/64) แต่ลดลง 21% QoQ (จากราคาถั่วเหลืองโลกและน้ำมันถั่วเหลืองทั่วโลกที่อ่อนตัวลง  ส่งผลให้ราคาขายกากถั่วเหลืองและราคาขายน้ำมันถั่วเหลืองปรับตัวลง QoQ ในไตรมาส 3/65) ราคาตลาดสําหรับกากถั่วเหลืองเกรดพรีเมี่ยมในประเทศปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดที่ 23.2 บาท/กก. ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เหลือ 22 บาท/กก. ในช่วงปลายเดือนก.ค. จนถึงเดือน ส.ค. ในขณะที่ราคาน้ำมันถั่วเหลืองโลกปรับตัวลงจากจุดสูงสุดที่ 91 เซนต์/ปอนด์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เหลือ 69 เซนต์/ปอนด์ ณ ปัจจุบัน

เราคาดต้นทุนวัตถุดิบที่แพงในไตรมาส 2/65 มีแนวโน้มที่จะรับรู้เป็นต้นทุนขายในไตรมาส 3/65 เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มอยู่ที่ 11-12% ถึงแม้ว่ากำไรในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 จะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง YoY (จากฐานกำไรและอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำมากในครึ่งหลังของปี 2564) แต่เรามองว่าตลาดจะกลับไปให้ความสนใจกับการเพาะปลูกถั่วเหลืองสำหรับรอบปี 2565/66 มากกว่า ซึ่งสต็อกถั่วเหลืองโลกในปี 2565/66 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 13% YoY (ไปอยู่ที่ 101.4 ล้านตัน) ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาถั่วเหลืองโลกในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 และต่อเนื่องไปยังช่วงครึ่งแรกของปี 2566

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

เนื่องจากกำไรที่ดีกว่าคาดในไตรมาส 2/65 และในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เราจึงทำการปรับประมาณการกําไรหลักปี 2565 เพิ่มขึ้นอีก 26% (ไปเป็น 2.48 พันล้านบาท) เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับเพิ่มขึ้น (จาก 9.8% ไปเป็น 11.3%) และราคาเป้าหมายที่อ้างอิงจากวิธี Gordon’s PEG ปรับเพิ่มขึ้นอีก 2% (ไป เป็น 35.75 บาท)

คําแนะนํา

เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 7% ในปี 2566 เราคาดราคาถั่วเหลือง โลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบ 13-15 เหรียญสหรัฐ/บูเชล ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 (จาก 15-18 เหรียญสหรัฐ/บูเชล ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565) ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของ TVO กลับมาสู่ระดับปกติในช่วง 10-11% ในปี 2566

- Advertisement -