บล.บัวหลวง: 

PTT (PTT TB/PTT.BK)

PTT – กำไรไตรมาส 2/65 เป็นไปตามคาด; คาดกำไรขยายตัว YoY ในไตรมาส 3/65

เป็นไปตามคาด

PTT รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 38,848 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% YoY และ 52% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 66,935 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159% YoY และ 66% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่เราและ ตลาดคาด

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

ปัจจัยที่หนุนการเติบโตของกำไรหลัก ได้แก่ 1) กำไรจากธุรกิจก๊าซที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ, 2) กำไรจากธุรกิจถ่านหินที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ, 3) กําไรจากธุรกิจ E&P ที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ, 4) กำไรจากธุรกิจน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ, 5) ผลการดำเนินงานจากธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจปิโตรเคมีที่ดีขึ้น (YoY และ QoQ), และ 6) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงมาอยู่ที่ 3.2% จาก 4.5% ในไตรมาส 2/64 และ 3.3% ในไตรมาส 1/65

EBITDA ของธุรกิจก๊าซอยู่ที่ 2.29 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% YoY และ 17% QoQ กําไรจากธุรกิจโรงแยกก๊าซปรับตัวสูงขึ้น YoY และ QoQ เนื่องจากอัตรากำไรสูงขึ้น ในขณะที่ผลประกอบการของธุรกิจท่อส่งก๊าซ และธุรกิจ supply & marketing ปรับตัวลดลง YoY (อัตรากำไรที่ลดลง) แต่ปรับตัวดีขึ้น QoQ (อัตรากําไรที่เพิ่มขึ้น) ธุรกิจ NGV รายงานผลขาดทุน ที่ 2.4 พันล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ (อัตรากำไรที่ลดลง) EBITDA จากธุรกิจเทรดดิ้งอยู่ที่ 3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 317% YoY และ 211% QoQ (ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น) EBITDA ของธุรกิจถ่านหินอยู่ที่ 7.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 682% YoY และ 298% QoQ (ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น)

แนวโน้ม

กําไรหลักของ PTT ในไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มเติบโต YoY หนุนโดยกำไรจากธุรกิจ E&P, น้ำมัน, และโรงกลั่นที่เพิ่มขึ้น แต่กำไรหลักคาดว่าจะลดลง QoQ เนื่องจากกําไรจากธุรกิจก๊าซและธุรกิจโรงกลั่นที่ลดลง กําไรของธุรกิจก๊าซมีแนวโน้มปรับตัวลดลง YoY และ QoQ ก๋าไรของธุรกิจ E&P มีแนวโน้มขยายตัว YoY และ QoQ ในขณะที่ธุรกิจโรงกลั่นคาดว่าจะรายงานกําไรปรับตัวดีขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ ในขณะที่กำไรจากธุรกิจปิโตรเคมี คาดว่าจะปรับตัวลง YoY และ QoQ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

กำไรสุทธิ 6 เดือนแรกของปี 2565 คิดเป็น 54% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ของเราที่ 120,142 ล้านบาท เรายังคงไว้ไม่เปลี่ยนแปลง

คําแนะนํา

คาดการณ์การเติบโต YoY ของกําไรไตรมาส 3/65 น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนี้การลงทุนใหม่ๆจะหนุนการเติบโตของก๋าไรในระยะยาว มูลค่าหุ้นยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยซื้อขายอยู่ที่ PBV ณ สิ้น ปี 2565 ที่ 1.0 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.6 เท่า อยู่ 1.1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2565 ที่ 6.3% (เทียบกับ 3.0% ของตลาดหลักทรัพย์)

- Advertisement -