ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
เทรดไซด์เวย์ หุ้นน้ำมันน่าจะถ่วงดัชนีฯ
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันอังคาร เทรดไซด์เวย์… หลังจากเมื่อวานนี้ แรงหนุนจากฟันด์โฟลว์ไหลเข้าต่อเนื่อง ยังหนุนให้ดัชนีฯ แกว่งตัวขึ้น (เมื่อวานต่างชาติซื้อสุทธิหนัก 5.75 พันล้านบาท แต่ส่วนหนึ่งน่าจะสะท้อน big lot หุ้น KBANK มูลค่า 2.36 พันล้านบาท)… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นลบเล็กน้อย กล่าวคือ i) ราคาน้ำมันดิบ WTi ลดลง 4.38% ตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศจีน เดือน ก.ค. ที่ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขค้าปลีก ผลผลิตอุตสาหกรรม และการลงทุนสินทรัพย์ถาวร ทั้งนี้หุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะอ่อนแอกว่าตลาดในวันนี้ ii) สหรัฐฯ รายงานเครื่องชี้เศรษฐกิจล่วงหน้า เดือน ส.ค. เช่น NY Empire State survey และดัชนีภาคอสังหาฯ ต่ำกว่าที่คาดเช่นกัน ส่งผลให้มุมมองต่อเศรษฐกิจไตรมาส 3/2565 ของสหรัฐฯ ยังคงไม่ดีนัก… ด้านปัจจัยภายในประเทศ เมื่อวานนี้สภาพัฒน์ฯ รายงาน GDP ไทยไตรมาส 2/2565 เติบโต 2.5% YoY ซึ่งต่ำกว่าที่ทางเราและตลาดคาดการณ์ แต่แนวโน้มเศรษฐกิจในภาคการใช้จ่ายบริโภคและภาคการท่องเที่ยวยังแข็งแกร่ง และน่าจะยังสนับสนุนหุ้นที่เชื่อมโยงธีมการลงทุนดังกล่าว ทั้งนี้สภาพัฒน์ฯ ปรับเพิ่มสมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2565 เป็น 9.5 ล้านคน (เดิม 6.0 ล้านคน) ขณะนี้ฝ่ายวิจัยฯ ใช้สมมติฐานนักท่องเที่ยว 8.0 ล้านคนในปีนี้ ส่วนในค่ำวันนี้ สหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเพิ่มเติม ได้แก่ ตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรม และยอดเริ่มสร้างบ้าน เดือน ก.ค. 2565
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร UBE, ERW*, LEO
- UBE (เป้าพื้นฐาน 2.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 1.86 บาท / แนวต้าน 1.95 – 2.04 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 2.2 บาท (Stop loss 1.8 บาท) 2) เราประเมินผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดของปีใน 2Q65 (กำไรลดลง QoQ) และคาดจะเริ่มกลับมาเติบโตใน 3Q65 จาก i) ไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงานเอทานอลใน 3Q65 เช่นใน 2Q65 ii) เป็นฤดูส่งออกสินค้าอาหาร iii) ปริมาณขายเอทานอลและราคาขายในประเทศเริ่มฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ และปริมาณอุปทานในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ 3) Forward PE ต่ำเพียง 14.5 เท่า ขณะที่คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะกลับมาโตเด่น
- ERW* (เป้าพื้นฐาน 4.7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.86 บาท / แนวต้าน 4.04 – 4.1 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 4.2 บาท (Stop loss 3.74 บาท) 2) ประเมินเป็นหุ้นกลุ่มโรงแรมที่รับอานิสงส์การเปิดประเทศ การท่องเที่ยวของไทยโดยตรง EBITDA ใน 2Q65 เริ่มพลิกเป็นบวก จาก RevPAR (Revenue Per Available Room) ฟื้นตัวสูงสุด ตั้งแต่วิกฤตโควิด-19 และคาดการฟื้นตัวจะต่อเนื่องจนถึงช่วง High season 4Q – 1Q 3) Forward PE ปีหน้าแม้จะสูง >40 เท่า แต่เนื่องจากเป็นหุ้น Turnaround และมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น หลังจากที่ผลการดำเนินงาน 2Q65 ดีกว่าคาด (ขาดทุนน้อยกว่าคาด)
- LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.4 บาท / แนวต้าน 13.1 บาท กรณีผ่านแนวต้านนี้ ได้ แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 12.2 บาท) 2) ผลการดำเนินงาน 2Q65 โต YoY, QoQ ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 100 ล้านบาท จากปริมาณขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น และธุรกิจ Freight forwarder ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของต้นทุนน้ำมันและค่าระวางเรือ และคาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q65 เป็น High season มีโอกาสโต QoQ ต่ออีก 3) Valuation ไม่แพง Forward PE ใน Bloomberg consensus ต่ำเพียง +/-14 เท่า ขณะที่คาดมีโอกาสปรับประมาณการฯขึ้น
หุ้นมีข่าว
(0) GULF* ขายหุ้น BKR2 ให้ Keppel Group 50% หวังดึงพันธมิตรเสริมแกร่งธุรกิจ (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ขายหุ้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเลที่เยอรมนี Borkum Riffgrund 2 สัดส่วน 50% ให้ Keppel Group มูลค่าการขาย 305 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท โดย GULF และ Keppel Group พร้อมเดินหน้าเป็นพันธมิตร เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจต่อไปในอนาคต
(+) EGCO* กดปุ่ม COD โรงไฟฟ้าน้ำเงิน 1 514 MW บุ๊กทันที Q3 (ข่าวหุ้น) EGCO กดปุ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 1 ใน สปป.ลาว จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบให้กฟผ. 514.30 เมกะวัตต์ พร้อมรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 3/65 ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่ระบบไฟฟ้าของไทย
(+) LEO กำไรนิวไฮ 6 ไตรมาส ลุยซื้อหุ้นคืน-ปันผล 20 สต. (ทันหุ้น) LEO ผลงานมาตามนัด กำไรทำนิวไฮต่อเนื่องกัน 6 ไตรมาส โกยกำไรครึ่งปีแรก 189.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 172% ส่วนไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 99.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134% รับอานิสงส์ค่าระวางเรือพุ่ง ด้านบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.20 บาท พร้อมทุ่มงบ 65 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืน
(0) SABUY ทุ่มงบ 1.8 พันล้าน ซื้อหุ้น AS ขายหุ้น PTECH แลกซื้อที่ดิน+สิ่งปลูกสร้าง TSR 595 ล้าน (ข่าวหุ้น) บอร์ด SABUY ไฟเขียวทุ่มงบ 1.8 พันล้านบาท เข้าซื้อหุ้น AS ในสัดส่วน 15.70% และ AS-W2 ไม่เกิน 33.83 ล้านหน่วย พร้อมขายหุ้น PTECH แลกเข้าซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 9 รายการจาก TSR มูลค่า 595.83 ล้านบาท รวมถึงเพิ่มวงเงินการออกหุ้นกู้เป็นไม่เกิน 5,000 ล้านบาท เตรียมชงที่ประชุมวิสามัญชน 28 ก.ย. 65
(+) ECL ปลื้มกำไรโต โค้งสองทะยาน 60% สินเชื่อปีนี้หมื่นล. (ทันหุ้น) ECL เผยงบไตรมาส 2/2565 มีกําไรสุทธิ 52.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.27% จากงวดเดียวกันปีก่อน 30.05 ล้านบาท รับอนิสงค์สินเชื่อรถยนต์มือสองโต พร้อมกับค่าใช้จ่ายการบริหาร และตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญที่ลดลง มันใจพอร์ตสินเชื่อทั้งปี แตะ 10,000 ล้านบาท หรือเติบโต 30%
(+) DITTO จ่อประมูลงาน ครึ่งปีหลัง 5 พันล้าน (กรุงเทพธุรกิจ) “ดิทโต้” เผยครึ่งปีหลัง 65 ประมูลงานใหม่ “บิ๊กโปรเจกต์” มูลค่า 5 พันล้าน ลุยงานบริหารจัดการเอกสารดิจิทัลในหน่วยงานรัฐ หลังร่างพ.ร.บ.ใหม่ประกาศใช้ ด้านไตรมาส 2/65 กำไรสุทธิโต 64%
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดขายทำกำไร PTG (Trailing stop 15.1 บาท)
- COM7* (เป้าพื้นฐาน 37 บาท) แนวรับ 32 บาท / แนวต้าน 34-35 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 31.5 บาท)
- BGRIM* (เป้าพื้นฐาน 41 บาท) แนวรับ 39 บาท / แนวต้าน 40 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 38 บาท)
- GPSC* (เป้าพื้นฐาน 82 บาท) แนวรับ 70.5 บาท / แนวต้าน 72.5 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 69.5 บาท)
- KBANK* (เป้าพื้นฐาน 188 บาท) แนวรับ 150 บาท / แนวต้าน 153 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 147 บาท)
- ILM (เป้า SAA Consensus 21.6 บาท) แนวรับ 18.1 บาท / แนวต้าน 19.0 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 17.7 บาท)
- HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนวรับ 13.6 บาท / แนวต้าน 14.0-14.3 บาท (Trailing stop 13.4 บาท)
- NEX (เป้า Consensus 22.8 บาท) แนวรับ 16.5 บาท / แนวต้าน 17.3-17.6 บาท (Trailing stop 16.3 บาท)
- SNNP (เป้า Consensus 19.9 บาท) แนวรับ 15.6 บาท / แนวต้าน 16.2-16.5 บาท (Trailing stop 15.6 บาท)
- ECL (เป้าพื้นฐาน 3.4 บาท) แนวรับ 2.36 บาท / แนวต้าน 2.5-2.6 บาท (Stop loss 2.36 บาท)
- CRC* (เป้า Consensus 43.2 บาท) แนวรับ 38.5 บาท / แนวต้าน 40-41.5 บาท (Stop loss 37.5 บาท)
- CHAYO (เป้า Consensus 17.2 บาท) แนวรับ 10.7 บาท / แนวต้าน 11.1-11.3 บาท (Stop loss 10.6 บาท)
- BCH* (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) แนวรับ 20.4 บาท / แนวต้าน 21.0-21.2 บาท (Stop loss 20 บาท)
- IP (เป้า Consensus 24.9 บาท) แนวรับ 17.5 บาท / แนวต้าน 18.1-18.4 บาท (Stop loss 17.4 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- JMT* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 83 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการฯ ลงเล็กน้อย จากคาดผลขาดทุนธุรกิจประกันฯ และต้นทุนรายจ่ายที่จะเพิ่มขึ้นจากการ JV กับ KBANK* ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดคำแนะนำลงเป็น “ถือ” (เดิม “ซื้อ”) เนื่องจาก Upside จำกัด
