AQUA โชว์งบผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 526.88 ล้านบาท ทั่นใจผลงานในส่วนที่เหลือของปีมีแนวโน้มเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากการกระจายการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจส่วนอื่น หลังปรับกลยุทธ์การลงทุนสู่ธุรกิจที่เป็น Mega Trend ของโลก ทั้ง Fintech, Logistic และ Healthcare อย่างเต็มตัว ระบุจากปัจจุบันที่มีกระแสเงินสดที่ดี เตรียมเงินลงทุนไว้หลักพันล้าน เพื่อต่อยอดธุรกิจใหม่ เสริมความแข็งแกร่งด้านการดำเนินงานและผลตอบแทนที่คุ้มค่า เผยล่าสุด “ทริสเรทติ้ง” จัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ BBB- แนวโน้มอันดับเครดิตที่ “Stable” สะท้อนถึงความมั่นคงที่เหมาะสมต่อการลงทุน

นายชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทงวดไตรมาส 2/65 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 526.88 ล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากการกระจายการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจส่วนอื่นๆ ซึ่งงบการเงินของบริษัทเป็นไปในทิศทางที่ดีตามที่ได้คาดการณ์ไว้ มีรายได้ที่มั่นคงจากธุรกิจ Warehouse และธุรกิจพลังงานที่บริษัทลงทุนไว้ โดยปัจจุบันโครงสร้างธุรกิจของบริษัทมีความชัดเจนมากขึ้น และ AQUA ปรับกลยุทธ์การลงทุนสู่ธุรกิจที่เป็น Mega Trend ของโลก คือธุรกิจ Fintech, Logistic และ Healthcare อย่างเต็มตัว

สำหรับธุรกิจ Fintech ถือเป็นนวัตกรรมที่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของคนในสังคมปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งขั้นแรก AQUA ได้ลงทุนในบริษัท เพียร์ ฟอร์ ออล จํากัด (Peer for All) ซึ่งจัดตั้งและลงทุนร่วมกับบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ในสัดส่วน 60% และ 40% ตามลำดับ และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม ซึ่งจะสามารถเปิดให้บริการและรับรู้รายได้ภายในปี 2566

ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการต่อยอดด้าน Fintech บริษัทกำลังศึกษาเรื่องการทำ Virtual bank หรือ Digital bank แบบไม่มีสาขา ซึ่งจะเป็นเทรนด์ใหม่ในอนาคต เพราะมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ในวงกว้าง ซึ่งมีต้นทุนต่ำ ด้วยเทคโนโลยีที่เติบโตไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย อีกทั้งในอนาคตบริษัทเตรียมจะยื่นขอใบอนุญาต (License) จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ในการเปิด Virtual Bank หรือ Digital bank เพื่อให้บริการต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้เข้าลงทุนธุรกิจ Logistic โดยได้ลงทุนในบริษัท Thai Parcel ในสัดส่วน 34.67% ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการจัดส่งพัสดุขนาดใหญ่ (Odd size/Oversize) ภายในประเทศ ทั้งในรูปแบบธุรกิจถึงธุรกิจ (B2B) รูปแบบธุรกิจถึงบุคคล (B2C) และรูปแบบบุคคลถึงบุคคล (C2C) โดยมีศูนย์กระจายสินค้าที่มีจุดรับอยู่ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย ซึ่งจะสามารถต่อยอดและส่งเสริมธุรกิจดั้งเดิมคือการให้บริการ Warehouse ได้

ล่าสุด AQUA ได้ประกาศเข้าร่วมทุนมูลค่ากว่า 2,448 ล้านบาท ในธุรกิจ Healthcare กับบริษัท ธนบุรี รีแฮบ เซ็นเตอร์ (ทีเอชอาร์) จำกัด (THR) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เพื่อเปิดเป็น Rehab Center ขึ้น ในชื่อว่า The Hills Rehab Chiangmai by Thonburi Rehab Center  ภายใต้ บริษัท มันตรา แอสเซ็ท จำกัด (MANTRA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยโดยตรงของ AQUA เป็นการนำ Asset ที่บริษัทมีอยู่กลับมาพัฒนาและจับมือกับพันธมิตรใหม่ เปิดศูนย์บำบัดสำหรับผู้ติดยาเสพติด ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้จากการร่วมทุนและการให้บริการดังกล่าว

“ปัจจุบัน AQUA มีกระแสเงินสดที่ดี และเตรียมเงินลงทุนไว้หลักพันล้าน เพื่อต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ มาเสริมความแข็งแกร่งด้านการดำเนินงานและผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อไป”

ทั้งนี้ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ทบทวนผลอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทประจำปี 2565 โดยทำการวิเคราะห์และประเมินผลจากข้อมูลที่ได้รับจากบริษัท ซึ่งมีค่า EBITDA ราว 300-400 ล้านบาทต่อปี ซึ่งยังไม่รวมคำนวณถึงธุรกิจ MEGA TREND ที่ทางบริษัทฯเพิ่งเข้าลงทุนไปใหม่ รวมทั้งวิเคราะห์และประเมินผลจากแหล่งข้อมูลอื่นที่เชื่อถือได้แล้ว กำหนดให้อันดับเครดิตองค์กรของบริษัทคงเดิมที่ระดับ BBB- ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิตได้กำหนดที่ระดับ “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งการประเมินดังกล่าวสะท้อนถึงความมั่นคงที่เหมาะสมต่อการลงทุน (Investment grade) ของบริษัท AQUA

***********

- Advertisement -