บล.เอเซีย พลัส:

แนวโน้มกำไรยังดีต่อใน 2H65

กำไรสุทธิงวด 2Q65 เท่ากับ 1.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% qoq (แต่ลดลง 6% yoy) มีปัจจัยสนับสนุนจากสินเชื่อสุทธิงวด 2Q65 เติบโตถึง 14% qoq และ 26% yoy หลักๆ มาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และ Spread สูงขึ้น หักล้างผลกระทบจากสัดส่วน Cost to income และ Credit cost ที่สูงขึ้นไปทั้งหมด ทั้งนี้ คุณภาพสินทรัพย์งวด 2Q65 ดีขึ้น สะท้อนจาก NPL/สินเชื่อสุทธิ ปรับลดลงมาที่ 2.8% เช่นเดียวกับสินเชื่อ Stage2/สินเชื่อสุทธิ  ปรับลดลงมาที่ 6.7%

แม้คาดกำไรสุทธิปี 2565 จะลดลง 8% yoy จากแนวโน้ม Credit cost สูงขึ้น แต่คาดกำไรสุทธิงวด 3Q65 จะยังดีต่อเนื่องจากงวด 2Q65 ทั้งนี้ ยังต้องติดตามประเด็นการควบคุมอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ ธปท. กำลังเปิดรับฟังความคิดเห็น อาจจะส่งผลกระทบต่อ SAWAD ได้บ้าง ราคาหุ้นปรับฐานกว่า 17% YTD จนมี PBV ที่ 2.4 เท่า ต่ำกว่า PBV ย้อนหลัง 5 ปีอยู่ถึง 1.7SD ยังแนะนำซื้อ

กำไรสุทธิ 2H65 ยังดีต่อเนื่อง…สินเชื่อเติบโตสูง

กำไรสุทธิงวด 2Q65 เท่ากับ 1.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% qoq (แต่ลดลง 5.8% yoy) มีปัจจัยสนับสนุนจาก

1) สินเชื่อสุทธิงวด 2Q65 เติบโตถึง 13.6% qoq และ 25.5% yoy มาที่ 4.1 หมื่นล้านบาท หลักๆ มาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ (33% ของสินเชื่อสุทธิ) เติบโตถึง 60.2% qoq และ 221.4% yoy มาที่ 1.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่สินเชื่อจำนำทะเบียนทรงตัวใกล้เคียงงวดก่อน

2) Spread เฉลี่ยงวด 2Q65 อยู่ที่ 16.0% เพิ่มขึ้นจาก 15.3% ในงวด 1Q65 จาก Yields เฉลี่ยงวด 2Q65 ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 19.1% จาก 18.7% ในงวด 1Q65 จากการเน้นปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มากขึ้น ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่ราว 30% ขณะที่ Cost of funds เฉลี่ยงวด 2Q65 ปรับลดลงมาที่ 3.1% จาก 3.5% ในงวด 1Q65

ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าสัดส่วน Cost to income งวด 2Q65 ปรับสูงขึ้นมาที่ระดับ 43.3% จาก 42.2% ในงวดก่อน จากค่าใช้จ่ายการตลาดและค่าใช้จ่ายในการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก 83 สาขา ในงวด 2Q65 ทำให้ SAWAD มีสาขาทั้งสิ้น 5,043 สาขา ณ สิ้นงวด 2Q65

และ Credit cost งวด 2Q65 ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 0.3% จาก 0.2% ในงวดก่อน ผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ กดดันความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ลดลงบ้าง ทั้งนี้ NPL/ สินเชื่อสุทธิ (Stage 3) ณ สิ้นงวด 2Q65 อยู่ที่ 2.8% ลดลงจากระดับ 3.4% ณ สิ้นงวด 1Q65 และสัดส่วนหนี้สินที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อสินเชื่อสุทธิ (Stage 2) ก็ปรับลดลงมาที่ 6.7% จาก 7.2% ณ สิ้นงวด 1Q65 ขณะที่ Coverage ratio ณ สิ้นงวด 2Q65 อยู่ที่ 61.0% เพิ่มขึ้นจาก 58.3% จากงวดก่อนอยู่บ้าง ถือว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ SAWAD ดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดก่อน

ทิศทางกำไรจะยังดีต่อเนื่องใน 2H65

คงประมาณการ คาดกำไรสุทธิปี 2565 จะลดลง 7.5% yoy จากแนวโน้ม Credit cost สูงขึ้น (เทียบกับปี 2564 ที่มีการกลับรายการผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 455 ล้านบาท) หักล้างแนวโน้มสินเชื่อปี 2565 ที่จะเติบโต 21.5% yoy ไปได้ทั้งหมด จากการขยายสาขาต่อเนื่อง และเน้นปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่มากขึ้น ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดกำไรสุทธิงวด 3Q65 จะยังดีต่อเนื่องจากงวด 2Q65 จากแนวโน้มสินเชื่อเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าแนวโน้มการตั้งสำรองหนี้สูญฯ ที่จะเพิ่มขึ้นบ้าง จากแนวโน้มภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้นในงวด 3Q65

สำหรับความเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทยได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) พราะราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้แบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตั้งแต่ 15-31 ส.ค. 65 โดยปัจจุบันสำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และผู้ประกอบการมีความเห็นตรงกันในการกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ที่ 15% รถยนต์ใช้แล้วที่ 20% ส่วนรถจักรยานยนต์ยังเห็นต่างกัน โดย สคบ. ต้องการกำหนดที่ 26% แต่ผู้ประกอบการต้องการที่ 30%

โดย SAWAD มีสัดส่วนสินเชื่อจากธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ราว 33% ของสินเชื่อสุทธิ และคิดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อเฉลี่ยราว 30% โดยฝ่ายวิจัยได้ทำ Sensitivity หากเพดานอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อลดลงมาที่ 26% โดยสมมติฐานอื่นไม่เปลี่ยนแปลง จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2566 ของ SAWAD ราว 10% จากประมาณการปัจจุบัน ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินว่า SAWAD สามารถปรับกลยุทธ์บางอย่างควบคู่กันไปกับการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อด้วยได้ จึงประเมินว่า SAWAD ยังบริหารจัดการได้

มูลค่าพื้นฐานเท่ากับ 60 บาท

กําหนด FV ปี 2565 เท่ากับ 60 บาท อิง PBV 2.9 เท่า ตามวิธี GGM ภายใต้คาดการณ์ ROE เฉลี่ย 18% ราคาหุ้นปรับฐานกว่า 17% ตั้งแต่ต้นปี 2565 จนมี PBV ปี 2565 ที่ 2.4 เท่า ต่ำกว่า PBV ย้อนหลัง 5 ปีอยู่ถึง 1.7SD และสามารถคาดหวัง Div Yields ได้ราว 3.3% จึงยังแนะนำลงทุนระยะกลางถึงยาว

ประเด็นความเสี่ยง

1. สินเชื่อสุทธิเติบโตต่ำกว่าคาด จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มรายได้และกำไรสุทธิของ SAWAD

2.คุณภาพสินทรัพย์และแนวโน้มการเกิด NPL ใหม่ๆ

3.อัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น

4.กฎหมายและข้อบังคับจากภาครัฐ

SAWAD แนะนํา ซื้อ

ราคาปัจจุบัน (บาท) 51.25

ราคาเป้าหมาย (บาท) 60.00

Upside (%) 17.1

Dividend yield (%) 3.3

 

 

 

- Advertisement -