ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ไซด์เวย์ / บวกในกรอบแคบๆ

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพุธไซด์เวย์ / บวกในกรอบแคบ ๆ… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย (ตามคาด) แต่แรงซื้อกระจุกตัวอยู่ในหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้น DELTA (+7.27%) เป็นสำคัญ ขณะที่ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิหนัก 5.01 พันล้านบาท และซื้อสุทธิสะสมแล้ว 2.93 หมื่นล้านบาท นับจากต้นเดือน….ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นกลาง 1) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น ตามแรงหนุนจากผลประกอบการของ บ. Walmart ที่ดีกว่าคาด และแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลังที่ยังดีอยู่ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อคืนปนๆ กันไป โดยตัวที่ดีกว่าคาด คือ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ก.ค. (+0.6% MoM; ตลาดคาด +0.3% MoM) ส่วนตัวที่ต่ำคาด คือ ยอดการเริ่มสร้างบ้าน (-9.6% MoM; ตลาดคาด -3.7% MoM) ขณะที่ในคืนวันนี้จะมีประเด็นเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ก.ค. และรายงานการประชุม FOMC จากการประชุมเมื่อวันที่ 27 ก.ค. ด้านปัจจัยภายในประเทศ ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง หลังจากค่าเงินดอลล่าร์ฯ พลิกมาอ่อนอีกครั้ง ตามแนวโน้มเงินเฟ้อที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว เทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ และแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยของเฟดที่น่าจะชะลอลงเมื่อ

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร TFG, UBE, ERW*

  • TFG (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.9 บาท / แนวต้าน 6.4 – 6.75 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 7.0 บาท (Stop loss 5.65 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q65 โตเด่นต่อเนื่อง จากราคาเนื้อสัตว์ในประเทศ (หมู + ไก่) ที่ยังสูงต่อเนื่อง QoQ ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์เริ่มทรงตัว และ 3Q65 โดยปกติเป็น High season สำหรับการส่งออกอาหาร 3) Forward PE ปีนี้ต่ำเพียง +/- 8 เท่า ขณะที่คาดกำไรโตเด่นยืนเหนือ +4 พันล้านบาทในปี 2565 – 66 (จากกำไรเพียง 562 ล้านบาทในปี 2564)
  • UBE (เป้าพื้นฐาน 2.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 1.86 บาท / แนวต้าน 1.95 – 2.04 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 2.2 บาท (Stop loss 1.8 บาท) 2) เราประเมินผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดของปีใน 2Q65 (กำไรลดลง QoQ) และคาดจะเริ่มกลับมาเติบโตใน 3065 จาก i) ไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงานเอทานอลใน 3Q65 เช่นใน 2Q65 ii) เป็นฤดูส่งออกสินค้าอาหาร iii) ปริมาณขายเอทานอลและราคาขายในประเทศเริ่มฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ และปริมาณอุปทานในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ 3) Forward PE ต่ำเพียง 14.5 เท่า ขณะที่คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะกลับมาโตเด่น
  • ERW* (เป้าพื้นฐาน 4.7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.78 บาท / แนวต้าน 4.0 – 4.1 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 4.2 บาท (Stop loss 3.74 บาท) 2) ประเมินเป็นหุ้นกลุ่มโรงแรมที่รับอานิสงส์การเปิดประเทศการท่องเที่ยวของไทยโดยตรง EBITDA ใน 2Q65 เริ่มพลิกเป็นบวกจาก RevPAR (Revenue Per Available Room) ฟื้นตัวสูงสุดตั้งแต่วิกฤตโควิด-19 และคาดการฟื้นตัวจะต่อเนื่องจนถึงช่วง High season 4Q – 1Q 3) Forward PE ปีหน้าแม้จะสูง >40 เท่า แต่เนื่องจากเป็นหุ้น Turnaround และมีโอกาสปรับประมาณการฯ ขึ้น หลังจากที่ผลการดำเนินงาน 2Q65 ดีกว่าคาด (ขาดทุนน้อยกว่าคาด)

หุ้นมีข่าว

(+) EA* ฟันคาร์บอนอีวี คิกออฟรถไฟไฟฟ้า (ทันหุ้น) EA* เดินหน้าธุรกิจคาร์บอนจากรถบัสอีวี แย้มเซ็นรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ชี้ภาพอนาคตมาแรง เตรียมส่งมอบบัสอีวี 20 สิงหาคมนี้ 150 คัน ปีนี้ส่งมอบไม่ต่ำกว่า 1,000 คัน เดินเกมรถบรรทุกอีวีต่อ ล่าสุดจับมือพันธมิตรจีนลุยรถไฟอีวี หลังยักษ์รถไฟรายใหญ่จีนส่งหัวจักรถึงไทยแล้ว เตรียมทดสอบปีนี้ประหยัดพลังงานได้กว่า 40%

(+) CHAYO กำ 2.5 พันล.ดีลซื้อหนี้เติมพอร์ต (ทันหุ้น) CHAYO กำเงิน 2.5 พันล้านบาท ซื้อหนี้เข้าพอร์ต จับตาเดือนกันยายน เซ็นสัญญาซื้อหนี้ใหม่เพิ่ม ด้านธุรกิจสินเชื่อมั่นใจยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ปีนี้ ทะลุเป้า 1.2 พันล้านบาท โชว์ NPA เนื้อหอม ลูกค้าเจรจา 1-2 แปลง คาดสรุปได้ปีนี้ 1 ราย เร่งปิดดีลร่วมทุนสถาบันการเงินภายในปีนี้แน่นอน

(+) COM7* รุกสินค้าผ่อนกู้ เงินเฟ้อพุ่ง (กรุงเทพธุรกิจ) “คอมเซเว่น” รุกปรับรูปแบบขายสินค้าเน้นเงินผ่อน หลังเงินเฟ้อพุ่ง ส่งผลกำลังซื้อชะลอตัว มั่นใจรายได้ปีนี้โต 20% เดินหน้าขยายตลาดออนไลน์เพิ่มยอดขาย ลุยเปิดสาขาสิ้นปีนี้ ครบ 1,190 สาขา

(+) MILL ขาย PP ให้รายใหญ่ บิ๊ก COM7* ร่วม-บุกไฟฟ้า (ทันหุ้น) MILL ขายหุ้น PP ให้รายใหญ่ไม่เกิน 462 ล้านหุ้น นำโดย “สุระ คณิตทวีกุล” หวังนำเงิน 364.97 ล้านบาท เสริมสภาพคล่อง ขยายการลงทุน พร้อมดัน “ซันเทค รีไซเคิล แอนด์ ดีคาร์บอน” ลุยขยะเตรียมเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ไตรมาส 4/2565 ราคาเหล็กฟื้น ผลงานคงเป้ารายได้ปีนี้ 2 หมื่นล้านบาท

(+) ASW จ่อขายหุ้นกู้ 320 ล. เดินหน้าแผนครึ่งหลัง ผุด 3 โครงการ 6.2 พันล. (ข่าวหุ้น) ASW กางแผน ครึ่งปีหลังจ่อเปิด 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,200 ล้านบาท พร้อมเสริมฐานเงินทุนให้แข็งแกร่ง เตรียมขายหุ้นกู้แปลงสภาพ มูลค่า 320 ล้านบาท อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 5% ต่อปี เปิดจองซื้อวันที่ 26 ก.ย.-3 ต.ค.นี้ พร้อมแจกฟรี ASW-W2 แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นกู้ดังกล่าว

(+) รัฐบาลออก พรก. ค้ำประกันกองทุนน้ำมันกู้เงิน (ข่าวหุ้น) ความคิดเห็น: พระราชกำหนดดังกล่าว กำหนดให้กระทรวงการคลังสามารถค้ำประกันเงินกู้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้วงเงินไม่เกิน 1.5 แสนล้านบาท โดยพระราชกำหนดจะถูกส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อรับรอง และหลังจากนั้นกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเริ่มกู้ยืมเงิน ทั้งนี้ ณ วันที่ 16 สิงหาคม กองทุนเชื้อเพลิงน้ำมันรายงานผลขาดทุนจำนวน 1.17 แสนล้านบาท ประกอบด้วยน้ำมัน 7.65 หมื่นล้านบาท และ LPG 4.09 หมื่นล้านบาท ในขณะที่เรามีมุมมองเชิงบวกต่อโรงกลั่นในประเทศเกี่ยวกับข่าวนี้ เนื่องจากคำขอเบื้องต้นของรัฐบาลที่ขอความร่วมมือ โดยสมัครใจให้กลุ่มโรงกลั่นร่วมบริจาคมีแนวโน้มว่าจะเลื่อนหายไป เพราะอาจไม่มีกฎหมายรับรอง ซึ่งประเทศไทยมีโรงกลั่น 6 แห่งได้แก่ SPRC*, ESSO*, TOP*, BCP*, IRPC* และ PTTGC*

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดขายทำกำไร PTG (Trailing stop 15.1 บาท)
  • COM7* (เป้าพื้นฐาน 37 บาท) แนวรับ 33.25 บาท / แนวต้าน 35 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 31.5 บาท)
  • BGRIM* (เป้าพื้นฐาน 41 บาท) แนวรับ 38.5 บาท / แนวต้าน 40 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 38 บาท)
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 82 บาท) แนวรับ 70.75 บาท / แนวต้าน 72.5 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 70 บาท)
  • KBANK* (เป้าพื้นฐาน 188 บาท) แนวรับ 151 บาท / แนวต้าน 153 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 148.5 บาท)
  • LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) แนวรับ 12.5 บาท / แนวต้าน 13.1 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 12.2 บาท)
  • ILM (เป้า SAA Consensus 21.6 บาท) แนวรับ 18.1 บาท / แนวต้าน 19.0 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 17.8 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนวรับ 13.8 บาท / แนวต้าน 14.3-14.5 บาท (Trailing stop 13.5 บาท)
  • SNNP (เป้า Consensus 19.9 บาท) แนวรับ 15.7 บาท / แนวต้าน 16.2-16.5 บาท (Trailing stop 15.6 บาท)
  • ECL (เป้าพื้นฐาน 3.4 บาท) แนวรับ 2.36 บาท / แนวต้าน 2.5-2.6 บาท (Stop loss 2.34 บาท)
  • CRC* (เป้า Consensus 43.2 บาท) แนวรับ 39 บาท / แนวต้าน 40-41.5 บาท (Stop loss 38 บาท)
  • CHAYO (เป้า Consensus 17.2 บาท) แนวรับ 10.7 บาท / แนวต้าน 11.-11.3 บาท (Stop loss 10.6 บาท)
  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) แนวรับ 20.4 บาท / แนวต้าน 21.0-21.2 บาท (Stop loss 20 บาท)
  • IP (เป้า Consensus 24.9 บาท) แนวรับ 17.6 บาท / แนวต้าน 18.4-19.0 บาท (Stop loss 17.4 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • PLANB* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 7.3 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานใน 2H65 จากการกลับมาดำเนินกิจกรรมนอกบ้านได้ตามปกติ
  • CPF* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 31.75 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก โดยประเมินราคาเนื้อสัตว์ยังดีต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ดี ธุรกิจในต่างประเทศ อาทิ CTI (จีน) ปัญหาในสหรัฐฯ – แคนาดา ที่ยืดเยื่อทำให้คาด Hylife ยังมีผลขาดทุนต่อเนื่อง และธุรกิจค้าปลีกที่อ่อนแอกว่าคาด ฝ่ายวิจัยฯ จึงปรับลดประมาณการฯลงเล็กน้อย แต่ยังคงแนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 31.75 บาท (เดิม 33.75 บาท)
  • SAWAD* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 72.5 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก จากอัตราการเติบโตของินเชื่อที่ดีกว่าคาด ฝ่ายวิจัยฯ ปรับประมาณการฯ ขึ้น และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 72.5 บาท (เดิม 66 บาท)

 

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -