CEYE ประกาศผลงานครึ่งปีแรกมีรายได้รวมกว่ 175.47 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 42.10% ขณะที่มีกำไรสุทธิ 22.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 145.01% บอร์ดใจป้ำสั่งจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.15 บ./หุ้น พร้อมประเมินผลงานครึ่งปีหลังยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รับอุตสาหกรรมครีเอทีฟ โปรดักชั่นโฆษณาฟื้นตัว รับสถานการณ์โควิดผ่อนคลาย เผย งานไหลเข้าต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี หนุนผลงานปีนี้สตรอง คาดรายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมเดินหน้าต่อยอดอีโคซิสเต็ม ในฐานะ Total Creative Marketing & Production Solutions ครบวงจร รุกขยายธุรกิจเต็มสูบกว่าเดิม

 

นางสาวสุวรรณี สุวรรณแสงโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ตาชำนิ จำกัด (มหาชน) หรือ CEYE เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจครีเอทีฟ และโปรดักชั่นโฆษณา มีการฟื้นตัวในอัตราเร่งตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน พบว่าหลายธุรกิจเริ่มกลับมาโปรโมทสินค้าและจัดทำแคมเปญต่างๆ มากขึ้น เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงโควิดคลี่คลาย สนับสนุนให้ CEYE มีผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก 2565 มีรายได้จากการบริการอยู่ที่ 175.47 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 42.10% และมีกำไรสุทธิ 22.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 145.01%

ด้านผลประกอบการงวดไตรมาส 2/65 มีรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 67.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 24.56% มีกำไรสุทธิ 0.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 317.59% และมีอัตรากำไรขั้นต้น 22.47% อัตรากำไรสุทธิ 1.17% เนื่องจากรายได้ที่กลับมาเติบโต หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่อนคลาย รวมถึงอุปสงค์ของอุตสาหกรรมและความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และการประกาศยกเลิกมาตรการ Test and GO สนับสนุนบรรยากาศการลงทุนในประเทศให้คึกคัก การจัดกิจกรรม อีเวนท์ต่างๆ ทำให้งานในกลุ่มต่างประเทศเข้ามาเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี CEYE มีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นในไตรมาสนี้ เช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดงานบางกอกไพรด์ 2022 เรนโบว์โทเปีย วัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อขับเคลื่อนสังคมความหลากหลายให้เกิดความเท่าเทียม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานความรับผิดชอบต่อสังคม และสะท้อนการทำงานอย่างเข้มข้น ภายใต้สื่อออนไลน์ของบริษัทอย่าง SPECTRUM ที่ผสานความร่วมมือกับหลายภาคส่วน เชื่อจะเกิดพลังในระยะยาว นอกจากนี้ มีค่าใช้จ่ายในการ IPO และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ หากนำค่าใช้จ่ายและรายได้ส่วนนี้ออก บริษัทจะมีกำไรสุทธิที่ 5.85 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ ธุรกิจหลักของ CEYE ในช่วงไตรมาส 2/65 คือ การให้บริการผลิตภาพนิ่งมีสัดส่วน 44.88% บริการผลิตภาพเคลื่อนไหว 29.37% บริการตกแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ 10.22% เช่าสตูดิโอ 2.90% และอื่นๆ ในธุรกิจบริหารสื่อออนไลน์ และผลิตสื่อออนไลน์ 10.36% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ

สำหรับทิศทางครึ่งปีหลัง มองว่าความต้องการด้านครีเอทีฟและโปรดักชั่นโฆษณายังคงมีแนวโน้มสดใส ด้วยความครบวงจรของบริษัทมุ่งสู่ Total Creative Marketing & Production Solutions. โดยฐานลูกค้าของ CEYE ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รถยนต์ การเงิน และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น ซึ่งพร้อมตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า รับภาพรวมเม็ดเงินที่เข้าสู่อุตสาหกรรมสื่อโฆษณา ภายใต้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยล่าสุด บริษัท นีลเส็น ประเทศไทย จำกัด รายงานถึงมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาในช่วง มกราคมถึงมิถุนายน ปี 2565 มีมูลค่าเม็ดเงินสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มูลค่าอยู่ที่ 58,365 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ 53,988 ล้านบาท สะท้อนทิศทางเชิงบวก

ขณะที่แผนการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนใช้ขยายธุรกิจตามโครงการในอนาคตที่วางไว้ ซึ่งคาดจะเห็นความชัดเจนในโครงการต่างๆ ภายในสิ้นปีนี้ สนับสนุนโอกาสใหม่ๆ และสนับสนุนอีโคซิสเต็มของ CEYE ขึ้นแท่นผู้นำด้านครีเอฟที่ครบวงจร

จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสม ในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น กำหนดวันปิดสมุดทะเบียน (Record Date) ในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 13 กันยายน 2565 นับเป็นครั้งแรกของ CEYE ในการประกาศจ่ายปันผลทันทีหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา สร้างความเชื่อมั่นในแผนการเติบโต โดยในช่วงต้นปีบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน รายได้รวมอยู่ที่ 272.74 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 28.45 ล้านบาท มั่นใจจะเป็นไปตามนั้น

********

- Advertisement -