บล.เอเซีย พลัส:

ค่อยๆ ฟื้นตัวตาม RIDERSHIP

ข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัยคงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการที่ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว หนุนหลักจากธุรกิจโฆษณาที่ฟื้นตัวตามจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า ธุรกิจ Digital Services ที่มีผู้ใช้งานบัตรแรบบิทมากขึ้น และธุรกิจ Distribution ดัน Gross Margin สินค้าภายใต้ Fanslink ให้เติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดประสบความสำเร็จในการลงทุนใน “NINE” ได้รับสิทธิในการบริหารพื้นที่บนสถานี BTS กว่า 31 สถานี ต่อยอด O2O Solution ให้สมบูรณ์

ผลประกอบการอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว อัตราการใช้สื่อมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตาม Ridership และส่วนแบ่งขาดทุนจาก KEX ที่รับรู้น้อยลง ในระยะสั้นอาจเห็นการขายเงินลงทุนออกไป เพื่อชดเชยส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม แต่ VGI ยังมอง KEX และ JMART เป็น Strategic Partner ที่สำคัญ จึงคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565/66 ไว้เท่าเดิมที่ 590 ล้านบาท แนะนำซื้อ Fair Value 6.10 บาท

ลุยต่อ

ข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัยคงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการที่ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว หนุนหลักจาก

1.) ธุรกิจโฆษณา ที่อัตราการใช้สื่อจะฟื้นตัวตามจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า (Ridership) โดย VGI ตั้งเป้า Ridership ปี 2565/66 อยู่ที่ 5 แสนเที่ยว/วัน ขณะที่ Ridership เดือน ก.ค.65 อยู่ที่ 4.5 แสนเที่ยว/วัน โดยฝ่ายวิจัยเชื่อว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีมากขึ้น การเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ จะทำให้ Ridership มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การเข้าลงทุนใน NINE ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี และเริ่มควบรวมงบการเงินตั้งแต่เดือน มิ.ย.65 ช่วยต่อยอดโมเดลธุรกิจ O2O Solution (Offline-to-Online) ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

2.) ธุรกิจ Digital services มีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง สามารถขายบัตรแรบบิทได้มากขึ้นตาม Ridership เช่นกัน โดย ณ สิ้น 2Q65 มีผู้ใช้งานบัตรแรบบิทกว่า 15.3 ล้านใบ (+6.7%YoY) และมีผู้ใช้ Rabbit Line Pay (RLP) 9.7 ล้านคน (+13.3%YoY)

3.) ธุรกิจ Distribution ยอดขายสินค้าภายใต้ Fanslink คาดเห็นพัฒนาการที่ดีต่อเนื่อง ในเชิงของ Gross Margin โดยบริษัทจะเน้นไปที่การควบคุมต้นทุนเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย มากกว่าการใส่งบโฆษณาเพื่อกระตุ้นยอดขาย ขณะที่ Gross Margin ยังอยู่ในระดับที่ดี โดย 1Q65/66 อยู่ที่ 10.5% (4Q64/65 อยู่ที่ 13.7%) เปรียบเทียบกับในช่วงแรกที่ VGI เข้าลงทุนใน Fanslink มี Gross Margin อยู่ที่ 8.1% เท่านั้น สะท้อน Synergy กับ JMART และจุดเด่นด้านการให้บริการโฆษณาของ VGI ได้เป็นอย่างดี

โดยรวม VGI ยังคงเป้ารายได้ปีนี้ที่ 6,500 ล้านบาท เติบโตกว่า 59%YoY จากการควบรวมงบการเงินของ Fanslink เข้ามาในเดือน ส.ค.65 มีรายได้อยู่ในช่วง 1.0-1.5 พันล้านบาท ธุรกิจหลักสื่อโฆษณายังคงมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่ฟื้นตัวตามการเปิดประเทศ และการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น  หนุนอัตราการใช้สื่อกลับสู่ระดับปกติที่ 60-70% และรายได้จากธุรกิจบริการดิจิตอลที่เติบโตได้ผ่านการขายบัตรแรบบิทและการขายประกันภายใต้ RCare ที่ยังคงมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยมองว่าผลประกอบการของ VGI ในระยะ 1-2 ไตรมาสข้างหน้ายังคงถูกกดดันจากส่วนแบ่งขาดทุนที่รับรู้จาก KEX แต่เชื่อว่า KEX จะประสบผลขาดทุนลดลงจากทิศทางราคาพลังงานที่เริ่มเป็นขาลง ต้นทุนตลาดแรงงานที่ผ่อนคลายมากขึ้น แม้ระยะสั้น VGI อาจมีการขายเงินลงทุนบางส่วนออกไปบ้าง เพื่อหักล้างกับส่วนแบ่งขาดทุนจาก KEX อย่างไรก็ตาม VGI ยังคงมองว่า KEX และ JMART เป็น Strategic Partner ที่สำคัญที่จะเข้ามาเติมเต็ม Ecosystem ให้สมบูรณ์

แนะนําซื้อ FAIR VALUE 6.10 บาท

ทุกธุรกิจอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว และมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ขณะที่ส่วนแบ่งขาดทุนจาก KEX ที่มีแนวโน้มลดลง จึงคงคำแนะนำซื้อ Fair Value อยู่ที่ 6.10 บาท แนะนำซื้อ มูลค่าเหมาะสม 6.10 บาท

ประเด็นความเสี่ยง

1.เงินเฟ้อที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงและกินระยะเวลานานกว่าคาด อาจทำให้ยอดขายสินค้าของ Fanslink ไม่เติบโต

2.ความไม่มั่นใจของเอเจนซี่ในการกลับมาใส่เงินโฆษณาจากปัญหาเงินเฟ้อที่ทำให้ภาระต้นทุนของผู้ประกบการเพิ่มขึ้น

VGI แนะนำ ซื้อ

ราคาปัจจุบัน (บาท) 4.30

ราคาเป้าหมาย (บาท) 6.10

Upside (%) 41.86

Dividend yield (%) 0.80

- Advertisement -