บล.พาย:

HANA: บมจ. อานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส

“คาดกำไรปกติโตขึ้นใน 2H22″

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 57.50 บาท อิง 21.3xPE’22E (+1S.D. ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี) กำไรสุทธิ 2Q22 อยู่ที่ 244 ล้านบาท (-67% YoY, -33% QoQ) นับว่าต่ำกว่าคาดเพราะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมาก แต่เชื่อว่าประเด็นเหล่านี้คือปัจจัยระยะสั้น และคาดว่ากำไรปกติของบริษัทยังมีทิศทางที่ดี ทั้งนี้ บริษัทจะจัดประชุมนักวิเคราะห์ในวันพฤหัสบดีที่ 18 ส.ค. โดยคาดว่าจะยังคงคำแนะนำเดิม แต่อาจปรับลดประมาณการกำไรและมูลค่าพื้นฐานปี 2022 ลงเล็กน้อย สืบเนื่องจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน

กําไร 2Q22 ต่ำกว่าคาดแต่ไม่น่าเป็นปัญหา

• กำไรสุทธิ 2Q22 อยู่ที่ 244 ล้านบาท (-67% YoY, -33% QoQ) ที่ลดลง YoY และ QoQ มีสาเหตุมาจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน หากไม่รวมรายการนี้ กำไรปกติจะอยู่ที่ 597 ล้านบาท (-23% YoY, +50% QoQ) การลดลง YoY แต่โตขึ้น QoQ เป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ปรับมาอยู่ที่ 13.7% (-3 ppt YoY, +2.9 ppt QoQ)

• รายได้อยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท (+5% YoY, +5% QoQ) การเติบโตขึ้น QoQ และ YoY เป็นผลจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่วนในเชิง QoQ ได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการเติบโตของกลุ่มแผ่นวงจรรวม (IC) ในไทย

• ในแง่สกุลเงิน USD ยอดขายอยู่ที่ US$186 ล้าน (-4% YoY, ทรงตัว QoQ) เชื่อว่ายอดขายที่ลดลง YoY และทรงตัว QoQ เป็นผลจากส่วนผสมผลิตภัณฑ์และการล็อกดาวน์ในจีนมากกว่าปัจจัยด้านอุปสงค์

• GPM อยู่ที่ 13.7% (-3.0ppts YoY, +2.9ppts QoQ) ที่ลดลง YoY เพราะการปรับสินค้าคงคลังมูลค่า 105 ล้านบาท ส่วนการเติบโต QoQ คาดเป็นเพราะส่วนผสมผลิตภัณฑ์และต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง

คาดกําไรปกติใน 2H22 จะปรับดีขึ้น HoH

• คาดภาพรวม 2H22 จะปรับดีขึ้นจากการเติบโตของยอดขายและ GPM ขณะที่เชื่อว่าอุปสงค์ที่มีอย่างต่อเนื่องสำหรับกลุ่มยานยนต์ระบบไฟฟ้า (EV) โทรคมนาคม และ RFID จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของยอดขาย ในเชิง HoH ขึ้นได้ ขณะที่คาดว่า GPM จะโตขึ้นจากการต้นทุนการปรับสินค้าคงคลังจากธุรกิจ SiC ใหม่ในเกาหลีใต้ที่ลดลง (71% ของต้นทุนทั้งหมดรับรู้ไปแล้ว)

• กำไร 1H22 คิดเป็น 45.7% ของประมาณการกำไรชุดปัจจุบันสำหรับปี 2022

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานที่ 57.50 บาท

คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิง 21.3xPE’22E (+1S.D. ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี) บริษัทมีสถานะที่จะได้ประโยชน์จากการเติบโตที่แข็งแกร่งในกลุ่ม EV และโทรคมนาคม โดยเฉพาะในช่วงที่ขาดแคลนชิปเช่นนี้ นอกจากนี้ โรงงาน SiC แห่งใหม่ในเกาหลีใต้ที่ผลิตอุปกรณ์ MOSFET อัตรากำไรสูงที่ใช้ใน EVs ก็จะเริมเร่งเครื่องใน 2H23

สรุปผลประกอบการ 2Q22

• กำไรปกติ 2Q22 อยู่ที่ 597 ล้านบาท (-23% YoY, +50% QoQ) การลดลง YoY แต่โตขึ้น QoQ เป็นผลจาก GPM ที่ปรับมาอยู่ที่ 13.7% (-3 ppt YoY, +2.9 ppt QoQ) ขณะที่รายได้อยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท (+5% YoY, +5% QoQ) การเติบโตขึ้น QoQ และ YoY เป็นผลจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง (เฉลี่ยที่ 34.4 บาท/USD ใน 2Q22 เทียบ 33.1 บาท/USD ใน 1Q22 และ 31.3 บาท/USD ใน 2Q21) ส่วนในเชิง QoQ ได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการเติบโตของกลุ่ม IC ในไทย

• หากไม่รวมรากยารอัตราแลกเปลี่ยน ยอดขายในสกุลเงิน USD จะอยู่ที่ US$186 ล้าน (-4% YoY, ทรงตัว QoQ) โดยยอดขายกลุ่ม PCBA ในไทย IC ในไทย และ IC ในจีนปรับลดลง YoY ส่วนธุรกิจ PCBA ในจีนและ HTI ในสหรัฐฯ มียอดขายโตขึ้น เชื่อว่ายอดขายที่ลดลง YoY และทรงตัว QoQ เป็นผลจากส่วนผสมผลิตภัณฑ์และการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้

• GPM ใน 2Q22 อยู่ที่ 13.7% (-3.0ppts YoY, +2.9ppts QoQ) ที่ลดลง YoY เพราะการปรับสินค้าคงคลังมูลค่า 105 ล้านบาท (จากกลุ่ม IC ในเกาหลีใต้) และต้นทุนส่วนเพิ่มจากการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ (เช่น ค่าขนส่งเพิ่มเติม) ทั้งนี้ ต้นทุนการปรับสินค้าคงคลังจะดำเนินไปต่อเนื่องจนถึง 2H22 ส่วนการเติบโต QoQ คาดเป็นเพราะส่วนผสมผลิตภัณฑ์และต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง

Revenue breakdown

บริษัทมีรายได้มาจาก 3 แหล่งหลักดังนี้

• การประกอบแผงวงจรพิมพ์ (PCBA) สร้างรายได้เป็นสัดส่วน 57% ของรายได้รวม โดยธุรกิจนี้เกี่ยวข้องกับการประกอบชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ บนแผงวงจรพิมพ์ และบริษัทยังให้บริการการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ชิปบนบอร์ด (COB) รวมถึงผลิตภัณฑ์รับส่งคลื่นความถี่วิทยุและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

• บริษัทให้บริการการประกอบและทดสอบแผงวงจรรวม (IC) สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ IC ชนิด QFN, QFN, DEN, LGA, MSOP, SC, SOT และ TSOT รวมถึงไฟ LED สำหรับไฟส่องสว่างในยานยนต์ เมาส์เลเซอร์ อุปกรณ์แปลงไฟฟ้า DC-DC และผลิตภัณฑ์ใยแก้วนำแสง ซึ่งธุรกิจกลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วน 39% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท

• บริษัทผลิตผลึกเหลวที่ใช้สำหรับเคลือบแผ่นซิลิกอนบนอุปกรณ์ “LCos” ที่ใช้หน้าจอไมโครดิสเพลย์ (microdisplay) และส่วนประกอบด้านการสื่อสารด้วยแสง อีกทั้งบริษัทยังผลิต RFID ซึ่งกลุ่มนี้มีคิดเป็นสัดส่วน 4% ของรายได้ทั้งหมด

- Advertisement -