Daily Focus: Domestic and Reopening Play

2022 SET Target: 1670

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ยังคงปรับตัวได้แข็งแกร่งกว่าที่เระเมิน ปิดบวกอีก 9.77 จุด ทะลุแนวต้าน 1,630 จุดอย่างแข็งแรง นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ทั้งพลังงาน ธนาคาร ค้าปลีก จากกระแสเงินทุนที่ยังอยู่ในทิศทางไหลเข้า สถาบันในประเทศพลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1.3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อต่อเนื่องอีก 5.7 พันลบ. (และ Long Index Futures อีก 1.9 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะลดความร้อนแรงลงบ้างจาก Sentiment ลบจากตลาดหุ้นต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม คาดว่ายังแข็งแกร่งกว่าจากกระแสเงินทุนที่ยังไหลเข้าหนาแน่น เราประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,630-1,650 จุด ยอดค้าปลีกสหรัฐฯเดือน ก.ค. Flat M-M และต่ำกว่าคาดรวมถึงชะลอจากเดือนก่อนหน้าที่ +0.8% M-M ทำให้ตลาดกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะถัดไป ขณะที่รายงานการประชุม FED ภาพรวมอยู่ในคาดการณ์ โดยยังเน้นย้ำถึงเป้าการดึงเงินเฟ้อสู่ระดับเป้าหมาย 2% แต่อาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้หาก เศรษฐกิจเสี่ยงชะลอ อย่างไรก็ตาม เราประเมิน SET Index จะยังแข็งแกร่งกว่าภูมิภาคอื่นจา แนวโน้มกำไร บจ.และ GDP ที่อยู่ในทิศทางขาขึ้น กลยุทธ์เรายังชอบกลุ่ม Domestic และ Reopening Play โดยเน้นหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ที่ Laggard ตลาด จาก Upside ระยะสั้นที่จำกัดมากขึ้น หลังดัชนี Rally ขึ้นมาค่อนข้างเร็ว 8% ในช่วง 1 เดือน โดยมีโอกาสเห็นการพักตัว โดยเฉพาะเมื่อนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอการซื้อหุ้น และพลิกมาปิด Long Index Futures อย่างหนาแน่น

กลยุทธ์ : ยังเน้นลงทุนกลุ่ม Domestic และ Reopening Play // ทำกำไรบางส่วนเมื่อต่างชาติเริ่มหยุดซื้อหุ้น และพลิกมา Short Futures หนาแน่น

หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : BBL, ILINK, NSL, SAPPE, SC

หุ้นเด่นวันนี้ : MINT

  • แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 43 บาท
  • แนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q22 อาจชะลอ Q-Q เล็กน้อย ตามปัจจัยฤดูกาลในยุโรป แต่ยังฟื้นแรง Y-Y และมีลุ้นกำไรต่อเนื่อง ส่วนไทยยังได้อานิสงส์ตามจาก Reopening ขณะที่ธุรกิจอาหารคาดฟื้นต่อเนื่องโดยเฉพาะในไทย
  • เราคาดผลการดำเนินงานปี 2022 พลิกมีกำไรได้ 1.1 พันลบ.จากขาดทุน 1.3 หมื่นลบ.ปีก่อน ส่วนปี 2023 คาดเร่งตัวแรง +5x% Y-Y ต่ำกว่าปี 2019 ที่ไม่มี COVID-19 เพียง 10%
  • แนวรับ 33.50-33 บาท แนวต้าน 34.50//35.50-36 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าภูมิภาคแต่บางลงเล็กน้อยเหลือ US$144 ล้าน กระจุกตัวที่ไทย US$161 ล้าน ตามภาพเศรษฐกิจ และกำไรบจ.ที่ฟื้นตัว แต่ยังคงไหลออกจากไต้หวัน ส่วนประเทศอื่นกระแสเงินทุนเบาบาง แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะพลิกมาไหลออกตาม Sentiment ลบจากฝั่งสหรัฐฯ หลังยอดค้าปลีกเดือน ก.ค. เริ่มไม่โต ขณะที่ FED ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย

ประเด็นสําคัญวันนี้

(0) รายงานการประชุม FED เดือน ก.ค. ไม่ได้ให้ Guidance ของการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต แต่ยังคงเน้นย้ำถึงเป้าหมายการดึงเงินเฟ้อสู่ระดับ 2% โดยจะยังคงมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อาจเห็นการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยได้หากข้อมูลเงินเฟ้อและเศรษฐกิจเผชิญความเสี่ยงขาลง ปัจจุบันตลาดให้น้ำหนักการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. อีก 0.50% ขึ้นเป็น 3.75-4% เราจึงยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่ม Value Play อย่างต่อเนื่อง

(+) ORI, BRI, SC เรายังคงมีมุมมองบวกต่อภาพ Demand 2H22 แนวราบที่ไปได้ดี และคอนโดที่มีสัญญาณฟื้นตัว ขณะที่แนวโน้มกำไร 2H22 เร่งขึ้น H-H, Y-Y จากแผนเปิดตัวแนวราบมากขึ้น และคอนโดสร้างเสร็จใหม่หลายแห่ง แม้คาดเห็นผลกระทบของต้นทุนก่อสร้างใหม่ที่ราคาวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น และมีประเด็นขึ้นค่าแรง แต่เชื่อว่ายังบริหารจัดการได้จากการปรับ Product และเพิ่มราคาขาย ทำให้ยังรักษา GPM ในเกณฑ์ดี เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” SC (ราคาเป้าหมาย 4.60 บาท) ORI (ราคาเป้าหมาย 13 บาท) และ BRI (ราคาเป้าหมาย 14.20 บาท)

(+) SAPPE คาดกำไร 3Q22 ยังคงเร่งขึ้นต่อเนื่องทั้ง Q-Q และ Y-Y จาก High Season ของการส่งออก และคาดหวังการฟื้นตัวของยอดขายเครื่องดื่มในประเทศ และคาดช่วยชดเชยต้นทุนเม็ดพลาสติกที่ปรับขึ้น Q-Q ได้บางส่วน เราคาดกำไรปี 2022 +37% Y-Y ทำ New High และคาดโตต่อเนื่องอีก +16% Y-Y ปีหน้า ยังคงราคาเป้าหมาย 43 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) SISB กำลังอยู่ในช่วง Growth Stage เราคาดจะเห็นการเติบโตที่ดีขึ้นใน 2H22 +33% H-H, +159%Y-Y จากการปรับขึ้นค่าเทอมและจำนวนนักเรียนที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมากจากนักเรียนไทยและจีน เราปรับคาดการณ์กำไรปี 2022 ขึ้นเป็น +58%Y-Y และปี 2023 คาด +30%Y-Y ทั้งจากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มใหม่จากการเปิด 2 campus ที่นนทบุรีและระยอง และสาขาหลักเดิมรวมเป็น 3,400 คน.ในปี 2023 ปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 2023 ที่ 16.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 33,980.32 จุด ลดลง 171.69 จุด หรือ -0.50% หลังรายงานการประชุม FED โดยเน้นย้ำถึงเป้าการดึงเงินเฟ้อสู่ระดับเป้าหมาย 2% แต่อาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้หากเศรษฐกิจเสี่ยงชะลอ

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลดลง ถูกกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้ออังกฤษเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 10.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2525

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ

(0) ค่าเงินบาท แกว่งตัวแคบ อยู่ที่บริเวณ 35.44 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 88.11 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 7.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลงเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 13 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 1,776.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 989.01 / -3.19

- Advertisement -