บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Ngern Tid Lor PCL (TIDLOR TB) งบดุลแกร่งหนุนการเติบโต

แนวโน้มกำไรดี พร้อมสำรองหนี้สูญสูง

เราคาดว่า TIDLOR มีจะกำไรเติบโตแข็งแกร่งในปี 65-66 จากการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง ซื้อ ราคาเป้าหมาย 40 บาท (P/BV ปี 65 ที่ 3.8 เท่า P/E 25 เท่า และ LT ROE 18.5%) เราชอบ TIDLOR ที่มีแนวโน้มกำไรที่ชัดเจนกว่าบริษัทอื่นๆ เนื่องจากมี NPL coverage ที่สูงกว่า และการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมที่แข็งแกร่ง มีการปรับงบดุลพร้อมรองรับการเติบโตของสินเชื่อ โดยตั้งสำรองหนี้สูญสูง และอัตราส่วน D/E ต่ำ ความเสี่ยงที่สำคัญคือการเติบโตของรายได้ที่ชะลอตัวและคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลง

เพิ่มเป้าสินเชื่อและต้นทุนสินเชื่อ

เรามีมุมมองเป็นกลางต่อการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ โดยผู้บริหารได้เพิ่มเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อเป็น 23-28% จาก 20-25% และเป้าหมายการขยายสาขาใหม่ที่ 300-400 จาก 200-300 สาขาในปี 2565 ทั้งนี้ CEO ยังคงเป้าการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมประกันวินาศภัยที่ 30-35% สำหรับปีนี้ ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ ผบห.ยังคงเป้าหมายอัตราส่วน NPL ที่ <2.0% แต่ปรับเป้าหมายต้นทุนสินเชื่อเป็น <1.9% จาก <1.5% ในปีนี้ เนื่องจากอัตราเงิน เฟ้อที่สูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น

คาดรายได้ค่าธรรมเนียมดีขึ้นและต้นทุนทางการเงินลดลงในครึ่งปีหลัง คงประมาณการ

ผบห. ตั้งเป้าค่าธรรมเนียมประกันวินาศภัยจะดีขึ้นในครึ่งปีหลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัวและสินเชื่อโตแกร่ง เราคาดว่าต้นทุนทางการเงินจะลดลงในครึ่งปีหลัง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ที่ลดลง (ออกหุ้นกู้ 1-2 ปี 8.3 พันลบ.ที่อัตราดอกเบี้ย 1.2-1.9% ใน 2Q65) จากนั้นต้นทุน ทางการเงินจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 1/66 ตามอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เราคงประมาณการกำไรปี 65-66 หลังปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อและต้นทุนสินเชื่อเพื่อสะท้อนเป้าหมายทางการเงินใหม่และผลประกอบการ 2Q65 โดยรวมแล้ว เราพอใจกับการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่ง NPL coverage สูงและประสิทธิภาพสาขาสูง เนื่องจากมีสาขาเพิ่มขึ้น 198 แห่ง (+ 15% YTD) ในครึ่งปีแรก และสามารถรักษาสินเชื่อต่อสาขาไว้ที่ 46.8 ลบ.ในไตรมาส 2/65

กำไร 2Q65 และคุณภาพสินทรัพย์ตามคาด

กำไรสุทธิ 2Q65 อยู่ที่ 981 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% YoY และ 4% QoQ จากการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง สินเชื่อเติบโต 8% QoQ และ 28% YoY เป็น 6.94 หมื่นล้านบาท จากการขยายสาขาใหม่ (+96 สาขา QoQ เป็น 1,484) และความต้องการสินเชื่อที่แข็งแกร่ง NIM เพิ่มขึ้น 15bp QoQ เป็น 15.8% เนื่องจากผลตอบแทนเงินกู้ที่สูงขึ้น Non-nii เพิ่มขึ้น 24% YoY เนื่องจากค่าธรรมเนียมประกันชีวิตที่แข็งแกร่ง OPEX เพิ่มขึ้น 20% YoY จากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นหลังการเปิดสาขาใหม่ ต้นทุนต่อรายได้ลดลงเหลือ 54.7% ในไตรมาส 2/65 จาก 58.0% ใน ไตรมาส 2/64 อัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 14bp QoQ เป็น 1.42% ในขณะที่ NPL coverage ลดลงเป็น 270% ในไตรมาส 2/65 จาก 317% ในไตรมาส 1/65 ตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเป็น 284 ล้านบาทใน 2Q65 จาก 130 ล้านบาทใน 2Q64

- Advertisement -