ABM ประกาศผลงานงวดไตรมาส 2/65 โชว์ฟอร์มดี กำไรเพิ่มขึ้น 166.24% รับเศรษฐกิจฟื้นตัว เผยล่าสุดที่ประชุมบอร์ดไฟเขียวเพิ่มทุน จำนวน 150 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในอสัดส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในราคา 1.80 บาท พร้อมรับฟรีวอร์แรนต์ฟรี รองรับขยายธุรกิจพลังงานเชื้อเพลิงชีวมวล รุกเดินหน้าธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง ไม้ยูคาลิปตัสสับ ส่งออกต่างประเทศ ตั้งเป้ายอดขายรวมมากกว่า 6,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี

 

นางสาวธิญาดา เมฆพงษ์สาทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 75 ล้านบาท หรือ 150 ล้านหุ้น  จากทุนจดทะเบียนเดิม 150 ล้านบาท หรือ 300 ล้านหุ้น เป็น 225 ล้านบาท หรือ 450 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติเพิ่มทุนในวันที่ 26 ตุลาคม 2565

สำหรับหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 150 ล้านหุ้น แบ่งเป็น จำนวน 100 ล้านหุ้น จะเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 1.80 บาท และอีก 50 ล้านหุ้น ไว้รองรับการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิในหุ้นสามัญ (ABW-W1) ที่จะออกฟรีให้กับผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ในอัตรา 2 หุ้นสามัญเพิ่มทุนจะได้รับ 1 วอร์แรนต์ โดยวอร์แรนต์มีอายุ 2 ปี มีอัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ ราคาแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญที่ 1.80 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Record date) วันที่ 23 กันยายน 2565 วันที่ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) วันที่ 22 กันยายน 2565

“บริษัทคาดหวังว่าจะได้รับเงินเพิ่มทุนก้อนแรกจากผู้ถือหุ้นจำนวน 180 ล้านบาท และหากมีการใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์เต็มจำนวนในอนาคต ก็จะได้รับเงินเข้ามาอีก 90 ล้านบาท รวมเม็ดเงินที่จะได้จากการเพิ่มทุนทั้งสิ้น 270 ล้านบาท ซึ่งบริษัทยังสามารถลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) ลงได้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้มีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น และสามารถนำไปจัดซื้อวัตถุดิบเพื่อมาผลิตสินค้าในการขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งยังสามารถนำไปลงทุนในโครงการต่างๆ ได้ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนในครั้งนี้”

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการนำเงินทุนมาขยายธุรกิจการผลิตไม้ยูคาลิปตัสสับ เพื่อนำไปทำเยื่อเป็นกระดาษ ส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนที่มีกำลังซื้อสูง และไม้สับเชื้อเพลิงพรีเมี่ยมเกรดความชื้นต่ำ เพื่อขายในประเทศและต่างประเทศ พร้อมกันนี้ ยังเตรียมแผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้าว่า จะสามารถสร้างยอดขายรวมได้มากกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี

สำหรับธุรกิจการผลิตไม้ยูคาลิปตัสสับ ปัจจุบันมีการส่งออกไปต่างประเทศปีละ 2 แสนตัน เมื่อมีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้น บริษัทจะสามารถผลิตและส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านตันต่อปี โดยทั้งธุรกิจไม้สับพรีเมี่ยมเกรดและชีวมวลอัดแท่ง มีตลาดรองรับไว้อยู่แล้ว ซึ่งจะมาทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยเชื่อว่าจะมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นทุกปี เป็นไปตามเทรนของกระแสและมาตรการภาวะโลกร้อน ดังนั้น บริษัทจึงเล็งขยายโรงงานเพิ่ม เพื่อรองรับกับออเดอร์ที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในอนาคต

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 บริษัทมีรายได้รวม 567.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.63% และมีกำไรสุทธิ 8.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 166.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว รวมถึงได้รับอานิสงส์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง ทำให้กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมหันมาใช้เชื้อเพลิงชีวมวลเพิ่มขึ้น การศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น การขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและกลุ่ม EEC การมุ่งเน้น R&D ตลอดจนการบริหารจัดการขนส่งด้านโลจิสติกส์และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจและขีดความสามารถในการทำกำไรให้กับบริษัท ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเชื้อเพลิงชีวมวลอย่างยั่งยืนของไทย

***********

- Advertisement -