Our View? “อยู่ในช่วงการชะลอกำลัง”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,625 และแนวต้านที่บริเวณ 1,645 มองตลาดเริ่มขาดปัจจัยใหม่เข้าช่วยหนุนการฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ ขณะที่เมื่อคืนนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิดแอตแลนติกเดือน ส.ค. ปรับตัวขึ้น 6.2 สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง -5.0 และฟื้นตัวขึ้นดีจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ -12.3 สะท้อนภาพแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐในภูมิภาคดังกล่าวขยายตัว อีกทั้งกระทรวงแรงงานเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐออกมาที่ระดับ 2.50 แสนราย น้อยกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.64 แสนราย บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงฟื้นตัวได้ดี หนุนทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐสามารถกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม คาดตลาดอาจยังมีความกังวลต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ในอีก 3 ครั้งที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าในการประชุม FOMC รอบเดือน ก.ย. FED ยังมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50-0.75% จากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่มีความแข็งแกร่งพอกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ คาดอาจเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของตลาดได้บ้างในระยะกลาง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. เมื่อคืนนี้รีบาวด์ขึ้นต่อ +2.39 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 90.50 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.7% จากการรายงานตัวเลขสหรัฐที่แข็งแกร่งดังกล่าว กระตุ้นความคาดหวังอุปสงค์การใช้น้ำมันในสหรัฐสามารถขยายตัวได้ อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นการรีบาวด์ระยะสั้นเท่านั้น เรายังคงให้นํ้าหนักจากแนวโน้มการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติมหาอำนาจ ซึ่งคาดจะสามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าวได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์หน้า คาดจะส่งผลให้อิหร่านมีโอกาสส่งน้ำมันกลับเข้าสู่ตลาดโลกได้อีกครั้งในระยะถัดไป  คาดจะกดดันทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลงถ่วงตลาดได้ต่อ อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC และ GULF) ที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มราคาต้นทุนพลังงาน-ก๊าซธรรมชาติปรับลดลง และการปรับขึ้นค่า Ft. ต่อเนื่องในระยะถัดไป

ทั้งนี้แนะนำติดตามการหารือเกี่ยวกับการยุติสงครามระหว่างรัสเซียขยูเครน ของผู้นำตุรกี-ยูเครน สหประชาชาติ (UN) เพื่อนำาข้อเสนอต่างๆ หารือกับรัสเซียอีกครั้ง แม้เราคาดว่าสงครามดังกล่าวคาดจะไม่จบลงภายในเร็วๆ นี้ แต่มองเป็นพัฒนาการเชิงบวกต่อแนวโน้มการผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนในระยะถัดไป

สำหรับปัจจัยในประเทศ เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยใน 2H65 จะสามารถขยายตัวได้ดีกว่า 1H’65 โดยจะได้รับแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันการบริโภคในประเทศฟื้นตัวขึ้น สอดคล้องกับ Bloomberg รายงานค่าเงินบาทในช่วง 2H′65 มี โอกาสกลับมาแข็งค่าที่สุดในเอเชียจากประเด็นดังกล่าว คาดจะหนุนทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติไหลกลับได้ต่อเนื่อง  ทั้งนี้ยังคงแนะนำติดตามการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยขึ้นมากกว่าคาดการณ์ปัจจุบันที่ระดับ 3.3% ในการ ประชุม กนง. ครั้งถัดไป

อย่างไรก็ตาม คาดตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงจากระดับ 1,520 – 1,640 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มองรับรู้ประเด็นดังกล่าวไปบ้างพอสมควรแล้ว Valuation ของตลาดในปัจจุบันที่เริ่มกลับมาถึงตัวมากขึ้น โดย Forward PE เริ่มปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 16 เท่า เริ่มอยู่ในระดับ -0.5 S.D. ในปีนี้ คาดจะจำกัด Upside ระยะสั้นของหุ้นไทยได้บ้างในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรายังชอบหุ้นในกลุ่มศูนย์การค้า (CPN, MBK และ PLAT) และหุ้นในกลุ่มโฆษณา (VGI, PLANB และ MACO) และกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, CRC และ MAKRO) คาดจะได้รับประโยชน์จากการเปิดเมือง และแนวโน้มนักท่องเที่ยวกลับมาดีมากขึ้นในช่วง 2H65 หนุนการบริโภคในประเทศฟื้นตัวขึ้น เป็นจิตวิทยาเชิงบวก ต่อทิศทางราคาหุ้นดังกล่าวได้ มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อตลาดอ่อนตัวลง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “BGRIM”

กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 38,00 / 37.00 Target 40.00 / 46.00 Stop <36.50

- Advertisement -