สรุปภาวะตลาด

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีอ่อนตัวลง ราว 4 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ มองเป็นการพักฐาน  หลังจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากระดับต่ำสุดที่ 1,517 จุด ขึ้นมาราว +125 จุด แรงขายมีมากในหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มการแพทย์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,636.07 จุด -3.65 จุด -0.22% มูลค่าการซื้อขาย 76,611 ลบ. ต่างชาติ +6,141.06 ลบ. TFEX +3,179 สัญญา ตราสารหนี้ -3,800.00 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 18.72 จุด +0.06% หลังจากบริษัทซิสโก ซิสเต็มส์ เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิตทีขยายตัวสูงกว่าคาด

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 2.39 ดอลลาร์ +2.7% ปิดที่ 90.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ สดใสของสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้นํ้ามันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

+ สหรัฐรายงานยอดขายบ้านมือสองดิ่งลง 5.9%MoM สู่ระดับ 4.81 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน  พ.ค.2563 และเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน

+ ททท. เตรียมเสนอที่ประชุม ศบค. พิจารณาขยายระยะเวลาพำนักของวีซ่านักท่องเที่ยว Tourist Visa จากระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน เป็น 45 วัน และขยายระยะเวลา Visa on Arrival (VoA) เพิ่มจากปกติ สามารถท่องเที่ยวเป็นระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน เป็น 30 วัน ให้มีผลตั้งแต่วันอนุมัติจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565

+24-26 ส.ค. ตลท.จะจัดงาน “Thailand Focus 2022” โชว์ศักยภาพของบจ.และตลาดทุนไทยเหมาะลงทุนระยะยาว

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ป่วยรายใหม่รักษาในรพ. 2,110 ราย มีผู้เสียชีวิต 27 ราย รักษาหาย 2,028 ราย

ปัจจัยลบ –

– กระทรวงกลาโหมจีนประกาศว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) จะเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจซ้อมรบกับกองทัพรัสเซียในตะวันออกไกลของรัสเซีย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาค หลังนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและคณะผู้แทนสภาคองเกรส สหรัฐเดินทางเยือนไต้หวัน

– WHO เปิดเผยว่า โรคฝีดาษลิงยังคงแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 20% หรือ เกือบ 7,500 รายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมปรับตัวสู่ 35,000 รายใน 92 ประเทศทั่วโลก โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อในยุโรปและอเมริกา

– จีนคัดค้านกฎหมายชิปฉบับใหม่ของสหรัฐ และจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อรักษาสิทธิอันชอบธรรมของจีน เมื่อจําเป็น

– โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ GDP จีนในปี 2565 ลงสู่ระดับ 3% จาก 3.3% ขณะที่โนมูระปรับลดคาดการณ์ GDP จีนในปี 2565 ลงเหลือ 2.8% จากระดับ 3.3% เนื่องจากวิกฤตอุปทานพลังงาน รวมทั้งอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง และผลกระทบจากการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ ได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด เม็ดเงินนัก ลงทุนต่างชาติยังไหลเข้าตลาดต่อเนื่อง ขณะที่ WTI ที่ Rebound ช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,630-1,640 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% + หุ้นแบงก์ได้ประโยชน์จากธปท.เลิกเพดานจ่ายปันผลและทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น เราชอบแบงก์ใหญ่ KBANK BBL SCB KTB TISCO
  • ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น : BH BDMS D
  • โครงการคนละครึ่งเฟส 5 : TNP KK BJC MAKRO CBG OSP TKN ICHI SAPPE
  • MSCI Global Standard เพิ่มหุ้นเข้าคํานวณ มีผล 31 ส.ค. : KBANK
  • ผลประกอบการหุ้นกลุ่มโรงแรมเริ่มฟื้นตัว : MINT ERW CENTEL AWC SHR

หุ้นรายงานพิเศษ

CPF (Bloomberg Consensus 30.75 บาท) รายได้โต +20%YoY, +12%QoQ

  • รายได้ 2Q65 เท่ากับ 1.56 แสนลบ. +20.0%YoY, +12.326000 และกำไร 4,208 ลบ. -11%YoY, +48%QoQ สาเหตุหลักมาจากภาพรวมราคาเนื้อไก่ที่ปรับตัวสูงขึ้น 43.6 บาท/กก. +12%QoQ สอดคล้องกับเนื้อสุกรที่เพิ่มขึ้น 104.0 บาท/กก. +14%QoQ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกเผชิญกับเฟ้อที่ทรงตัวระดับสูง ส่วน 1H65 ยอดขายอาหารแปรรูปในเวียดนามปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องราว 3,593 ลบ. +37% ขณะที่อัตรากําไรขั้นต้นยังหดตัวจากระดับ 16.4% เหลือ 14.5% เทียบ YoY เนื่องจาก CTI บริษัทลูกในจีนได้รับผลกระทบจากราคาสุกรตกต่ำ ทำให้ต้องบันทึกผลขาดทุนจาก JV ในเครือมูลค่า 793 ลบ. อีกทั้งปัญหาต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น กดดันให้กำไรขั้นต้นปรับตัวลดลง
  • ฝ่ายวิจัยประเมินว่าในช่วง 2H65 แนวโน้มเศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นเป็นผลจากการคลายล็อกดาวน์ ทำให้ อุปสงค์ปรับตัวขึ้นหนุนให้ราคาสุกรในปัจจุบันเท่ากับจุดคุ้มทุนที่ 21 หยวน/กก. อีกทั้งแนวโน้มราคาสุกรอาจ ทยอยปรับตัวขึ้นในกรอบ 22-25 หยวน/กก. ทำให้กลับมาหนุนกำไรขั้นต้นให้ฟื้นตัวได้ สอดคล้องกับตลาด เวียดนามและไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจได้ผ่านจุดต่ำสุด ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 เฉลี่ย 13,495 ล้านบาท +4%YoY ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมา +3%YTD ทำให้หุ้นซื้อขายที่ P/E 25 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 30 เท่า เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) THCOM (Bloomberg Consensus 10.36 บาท) จับมือ Orbital Insight บริษัทสหรัฐชั้นนำ ด้าน Geospatial วิเคราะห์ข้อมูลกิจกรรมบนพื้นโลกผ่านดาวเทียม ด้านบิ๊ก THCOM ชี้เป็นธุรกิจใหม่ ที่มาแรงทั่วโลกต้องใช้มูลค่าตลาดกว่า 1.75 ล้านล้านบาท วิเคราะห์การปล่อยคาร์บอนได้โอกาสตลาดมหาศาล พร้อมบุกทั้งในไทยและต่างประเทศ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BRI (Bloomber Consensus 14.05 บาท) ทุ่มงบ 4 พันล้านบาท ซื้อที่ดินรองรับการเปิดโครงการใหม่ ชูครึ่งหลังปี 2565 ฟอร์มแจ่ม ตุนแบ็กล็อกรอรับรู้กว่า 1.47 พันล้านบาท ลุยเปิด 4 โครงการใหม่ Q3/2565 มูลค่ากว่า 4.35 พันล้านบาท ปักเป้ารายได้แตะ 7.25 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AS (Bloomberg consensus 16.70 บาท) เล็งปั้นงบครึ่งปีหลัง 2565 ดีกว่าครึ่งปีแรก เปิดตัวเกมใหม่ 7 เกม ทั้งโมบายและพีซี มั่นใจรายได้ปีนี้โต 15% เผยบริษัทร่วมทุน “คับเพลย์” เตรียมยื่นขออนุมัติเสนอขาย ICO ต่อ ก.ล.ต. คาดชัดเจน ก.ย.นี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WICE (Bloomberg consensus 18.50 บาท) ส่งสัญญาณผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังดีกว่า ครึ่งปีแรก รับธุรกิจเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ตลาดสหรัฐฯ พุ่ง บวกจีนเปิดด่านในประเทศหนุนขนส่งข้ามแดนเพิ่มขึ้น เล็งเปิดคลังสินค้าช่วงปลายปีนี้อีก 5,000 ตารางเมตร มั่นใจรายได้ปีนี้ตามนัดโต 20% แตะ 9,000 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 19 ส.ค. ประชุมศบค.พิจารณาลดสถานะโควิด-19 เป็น “โรคที่ต้องเฝ้าระวัง” เปิดผับถึงตี 4 ได้หรือไม่
  • สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
  • 24 ส.ค. คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยรายงานการประชุมของวันที่ 10 ส.ค.
  • 24-26 ส.ค. ตลท.จัดงาน Thailand Focus 2022
  • สัปดาห์ที่ 5 สำานักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
  • 31 ส.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 29 ก.ย. ประชุมกนง.ครั้งต่อไป

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 19 ส.ค. ญี่ปุ่น รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค. อียู รายงานดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนมิ.ย.
  • 22 ส.ค. ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR

สหรัฐ รายงานดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศ เดือนก.ค.จากเฟดชิคาโก

  • 23 ส.ค. อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ ขั้นต้นเดือนส.ค. จากเอสแอนด์พี โกลบอล

สหรัฐ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาค การผลิต-ภาคบริการ ขั้นต้นเดือนส.ค. ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.

  • 24 ส.ค. สหรัฐ รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนก.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค.
  • 20-21 ก.ย. ประชุม FED ครั้งต่อไป
- Advertisement -