สรุปภาวะตลาด
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงราว -9 จุด หลังจากที่ตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ และค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าบริเวณ 35.65 บาทต่อดอลล่าร์ อาจทำให้ Flow ต่างชาติชะลอการซื้อในหุ้นไทย ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,625.92 จุด -10.15 จุด -0.62% มูลค่าการซื้อขาย 70,953 ลบ. ต่างชาติ +1,586.53 ลบ. TFEX -9,423 สัญญา ตราสารหนี้ -2,995.47 ลบ.
ปัจจัยบวก+
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ +0.3% ปิดที่ 90.77 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบลดลง 1.4% จากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอ และแนวโน้มการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งอาจทำให้มีปริมาณน้ำมันมากขึ้น ในตลาดโลกทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นไม่มากนัก
+ ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีลง 0.05% แตะที่ 3.65% จากระดับ 3.7% และปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีสูง 0.15% สู่ระดับ 4.30% จากระดับ 4.45% ในวันนี้เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
+ บอร์ด PPP อนุมัติรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางบนมอเตอร์เวย์ M6 และ M81 และการให้เอกชนร่วมลงทุนมอเตอร์เวย์ M82 บางขุนเทียน – บ้านแพ้ว ในส่วนของการก่อสร้าง งานระบบ พร้อมการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) กว่า 3 หมื่นลบ.
+ ททท.มั่นใจ 2H65 ต่างชาติเข้าไทย 7.5 ล้านคน สร้างรายได้ 4 แสนล้านบาท ลุ้นทั้งปี 10 ล้านคน จับตาฝีดาษ ลิงป่วนทำคุมเข้มการเดินทาง
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ป่วยรายใหม่รักษาในรพ. 1,531 ราย มีผู้เสียชีวิต 28 ราย รักษาหาย 2,298 ราย
ปัจจัยลบ-
– ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 292.30 จุด -0.86% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ลดลง -0.2% วิตกว่าเฟด อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ใน การประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ย. ซึ่งอาจส่งผลให้ เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะถดถอย
– สถาบันวิจัย GfK เปิดเผยว่า ภาคครัวเรือนอังกฤษไม่ พอใจกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2517 ที่ -44 ในเดือนส.ค. จาก -41 ในเดือนก.ค.
– หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธนาคารฮั่งเส็งเปิดเผยว่า ขณะนี้จีนกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนที่รุนแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ
– EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวลง และหลายตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ สะท้อนความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา
กลยุทธ์การลงทุน
• กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% + หุ้นแบงก์ได้ประโยชน์จากธปท. เลิกเพดานจ่ายปันผลและทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น เราชอบแบงก์ใหญ่ KBANK BBL SCB KTB TISCO
• ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น : BH BDMS D
• โครงการคนละครึ่งเฟส 5 : TNP KK BJC MAKRO CBG OSP TKN ICHI SAPPE
• MSCI Global Standard เพิ่มหุ้นเข้าคำนวณ มีผล 31 ส.ค. : ANK
• ผลประกอบการหุ้นกลุ่มโรงแรมเริ่มฟื้นตัว : MINT ERW CENTEL AWC SHR
หุ้นรายงานพิเศษ
SAPPE – “เก็งกำไร” Bloomberg Consensus 43.25 บาท
“มุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 65 แต่ 2H65 อาจอ่อนตัวลง HoH จากต้นทุนที่เร่งขึ้น”
• งวด 2Q65 กำไร 187 ลบ. +32%YoY +9%QoQ มีรายได้ 1,334 ลบ. +39%YoY +17%QoQ โดยทั้งรายได้และกำไรเติบโต ALL Time High โดยหลักมาจากยอดขายในต่างประเทศที่โตกว่า 68% จากการขยายช่องทางจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น ตลอดจนสินค้าได้รับความนิยมสูง อาทิ เครื่องดื่มผสมวุ้นมะพร้าวแบรนด์ โมกุ โมกุ (Mogu Mogu) และเครื่องดื่มผสมว่านหางจระเข้ เซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์ เป็นต้น ส่วนยอดขายในประเทศหดตัว 16% เนื่องจากภาคการบริโภคในประเทศยังไม่ฟื้นตัว ทั้งนี้ ช่วง 2Q65 บริษัทมีสัดส่วนยอดขายต่างประเทศและภายในประเทศที่ 79% : 21%
• แนวโน้มปี 65 ผบห.ปรับเป้าการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 30-35% (จากเป้าดิมโต 15-20%) จากแนวโน้มยอดขายในต่างประเทศที่ยังเร่งตัวขึ้น โดยเครื่องดื่ม Mogu Mogu ได้กระแสตอบรับดีมาก มีส่วนแบ่งตลาดสูงในกลุ่มประเทศเกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และอินโดนิเซีย ขณะที่ %GPM ช่วง 2H65 อาจอ่อนตัวลงราว 1% เทียบกับช่วง 1H65 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 40% เนื่องจากต้นทุนเม็ดพลาสติกเพื่อผลิตขวดปรับสูงขึ้น แต่จะถูกชดเชยจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง ประกอบกับการพิจารณาปรับเพิ่มราคาขายในช่วง 4Q65
• ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 65 แต่ 2H65 อาจอ่อนตัวลง HoH จากต้นทุนที่เร่งขึ้น โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 ราว 550.5 ลบ. +34%YoY (กำไร 1H65 คิดเป็น 58% ของประมาณการทั้งปี) ขณะที่ปี 66 ผบห.มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตอีก 20% เพื่อรองรับการเติบโตของรายได้ราว 15-20% อย่างไรก็ดี ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus ที่ 43.25 บาท มีอัพไซต์เพียง 8% แนะนำ เก็งกำไร
หุ้นมีข่าว
(+) WHA (Bloomberg Consensus 4.16 บาท) ปิดจ๊อบผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากจีน จ่อเซ็นขายที่ดินล็อตใหญ่ 700 ไร่เร็วๆ นี้ ดันยอดขายทะลุ 1,000 ไร่ แถมมีเข้าคิวรออีกกว่า 3,000 ไร่ “จรีพร” ส่งซิกแถลงข่าวใหญ่ 8 ก.ย.นี้ มั่นใจไทยเป็นศูนย์ผลิตรถ EV โลก สอดรับ BYD ยักษ์ใหญ่ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน เตรียมเซ็นซื้อที่แปลงใหญ่ ลงเสาเข็มตั้งโรงงาน ผลิตรถ EV ในไทย มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) JWD (Bloomber Consensus 21.00 บาท) แผน 5 ปี รายได้ 1 หมื่นล้านบาท เดินหน้าโครงการร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ ลุยโครงการแอลฟาที่จับมือกับ ORI รวมถึงโครงการ PACT ร่วมกับ TU พร้อมมั่นใจครึ่งปีหลังดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก หลังธุรกิจมีการปรับตัวดี (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) RBF (Bloomberg consensus 12.90 บาท) อัพเป้ารายได้โต 15-20% รับอานิสงส์ไฮซีซัน โควิด-19 คลายตัว-เปิดประเทศ ท่องเที่ยว หนุนการบริโภคทั้งในและต่างประเทศคึกคัก คาดครึ่งปีหลังปรับขึ้นราคาจำหน่ายสินค้าบางรายการสอดรับต้นทุนที่เพิ่มสูงได้มากขึ้น ดันอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิกลับมาอยู่ในระดับที่ดี (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SONIC (Bloomberg consensus 4.30 บาท) อยู่ระหว่างขออนุญาตให้บริการขนส่งทางรถไฟความเร็วสูง ลาว-จีน พร้อมอัดงบลงทุน 20 ล้านบาท พัฒนาพื้นที่การให้บริการเพิ่มอีก 9 ไร่ รองรับ EEC คาดเปิดให้บริการต้นปีหน้า ฉายทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง ลุยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นําเข้า
- 24 ส.ค. คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยรายงานการประชุมของวันที่ 10 ส.ค. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
- 24-26 ส.ค. ตลท.จัดงาน “Thailand Focus 2022 : THE NEW HOPE”
- สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
- 31 ส.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 22 ส.ค. ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR
สหรัฐ รายงานดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศ เดือนก.ค.จากเฟดชิคาโก
- 23 ส.ค. อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ ขั้นต้นเดือนส.ค. จากเอสแอนด์พี โกลบอล
สหรัฐ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ ขั้นต้นเดือนส.ค. ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.
- 24 ส.ค. สหรัฐ รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนก.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศ ด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
- 20-21 ก.ย. ประชุม FED ครั้งต่อไป
- 5-27 ส.ค. การประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง หัวข้อ “Reassessing Constraints on the Economy and Policy” คาด FED จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งการปรับลดขนาดงบดุล (QT)