ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ปรับลงต่อ ปัจจัยต่างประเทศเป็นลบในระยะสั้น

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์ปรับลดลงต่อ…. หลังจากเมื่อวันศุกร์ ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวลงปิดลบ 0.62% (อ่อนแอกว่าคาด) หลังจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลล่าร์ฯ ผนวกกับกระแสข่าวลบด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่กลับมาอีกครั้ง (สหรัฐฯ-เกาหลีใต้ ประกาศซ้อมรบตอบโต้จีน และรัสเซีย-จีนประกาศ เข้าร่วมประชุม G-20 เผชิญหน้าผู้นำฝั่งตะวันตก) กดดันจิตวิทยาตลาด… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นลบ กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงค่อนข้างแรงเมื่อวันศุกร์ ตอบรับค่าเงินดอลล่าร์ฯ ที่รีบาวด์ต่อเนื่อง รวมทั้งการที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายท่านให้ความเห็นในเชิงแข็งกร้าว กล่าวคือ หนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ii) สถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรปเป็นลบ หลังจากเยอรมันรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ PPI เดือน ก.ค. พุ่งขึ้น 32% YoY, 5% MoM ซึ่งสูงกว่าที่ consensus คาดไว้อย่างมาก ผนวกกับมีรายงานว่าทางรัสเซียจะระงับการส่งก๊าซธรรมชาติผ่านท่อ Nord Stream 1 ทั้งหมด ในช่วงปลายเดือน ส.ค. เพื่อซ่อมบำรุง และจะกลับมาส่งก๊าซในระดับปัจจุบัน (20% ของกำลังส่งเต็มที่) ในเดือน ก.ย. ด้านปัจจัยภายในประเทศ นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์การเมืองใน สัปดาห์นี้ หลังจากในวันที่ 23 ส.ค. จะครบกำหนด 8 ปีที่นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งหากนับรวมการดำรงตำแหน่งรอบแรกด้วย…. ทั้งนี้ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมา มีโอกาสที่ฟันด์โฟลว์จะชะลอตัวในระยะสั้น และส่งผลให้ SET Index ปรับฐานต่อในสัปดาห์นี้

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร ERW*, ILM, MAJOR*

  • ERW* (เป้าพื้นฐาน 4.7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.76 บาท / แนวต้าน 3.96-4.04 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 4.2 บาท (Stop loss 3.74 บาท) 2) ประเมินรับ Sentiment บวกจากกรณีทางสำนักงานการบินพลเรือนจีน สอบถามการขอปรับเที่ยวบินระหว่าง จีน ไทย เพิ่มเป็น 15 เที่ยวบิน/สัปดาห์ (จากปัจจุบัน 3 เที่ยวบิน/สัปดาห์) คาดมีโอกาสที่จะทยอยเปิดเพิ่มในอนาคต  ซึ่งมีโอกาสที่นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้าไทยในช่วงวันชาติจีน (ต.ค.) และคาดการท่องเที่ยวของไทยจะฟื้นตัวต่อเนื่องใน 4Q – 1Q 3) Forward PE ปีหน้าแม้จะสูง >40 เท่า แต่เนื่องจากเป็นหุ้น Turnaround และมีโอกาสปรับประมาณการฯ ขึ้นหลังจากที่ผลการดำเนินงาน 2Q65 ดีกว่าคาด (ขาดทุนน้อยกว่าคาด)
  • ILM (เป้าพื้นฐาน 21.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 18.8 บาท / แนวต้าน 19.5-20.0 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 21.0 บาท (Stop loss 18.1 บาท สำหรับนักลงทุนที่ซื้อตามที่เราแนะนำมาก่อนหน้ากำหนด Trailing stop 18.7 บาท) 2) จากการประชุมนักวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 ดีกว่า 1H65 จากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวของภาคอสังหาฯ 3) Valuation ไม่แพง โดย Forward Price to Cash flow ต่ำเพียง 1.7 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ (GLOBAL* HMPRO* DOHOME*) สูง +20 เท่า โดย ILM มีค่าเสื่อมราคาที่สูง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสด / แม้ในมุม Forward PE เองก็ต่ำเพียง +/-16 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ สูง +25 เท่า
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 19.4 บาท / แนวต้าน 20.2-20.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 21.0 บาท (Stop loss 19.0 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มเปิดเมือง ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 คาดฟื้นตัวเด่นต่อเนื่อง จากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเต็มรูปแบบแล้ว ขณะที่หนังฟอร์มยักษ์ทยอยเข้าฉาย (Thor Love and Thunder, บุพเพ 2, Avatar, Black Planter, One Piece Film: Red เป็นต้น) 3) ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปีหน้า กลับคืนสู่ระดับ +1 พันล้านบาท/ปี ส่งผลให้ Forward PE ต่ำ เพียง +/- 15 เท่า (ค่าเฉลี่ย +/- 30 เท่า) / PBV ต่ำเพียง +/-2.6 เท่า (ค่าเฉลี่ย +/-3.3 เท่า)

หุ้นมีข่าว

(+) WHA* ปิดดีลยักษ์ EV จีน จ่อเซ็นขายที่ดิน 700 ไร่! จับตาแถลงใหญ่ 8 ก.ย.นี้ สอดรับ BYD ตั้งโรงงาน 2 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) WHA* ปิดจ๊อบผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากจีน จ่อเซ็นขายที่ดินล็อตใหญ่ 700 ไร่เร็วๆ นี้ ดันยอดขายทะลุ 1,000 ไร่ แถมมีเข้าคิวรออีกกว่า 3,000 ไร่ “จรีพร” ส่งซิกแถลงข่าวใหญ่ 8 ก.ย.นี้ มั่นใจไทยเป็นศูนย์ผลิตรถ EV โลก สอดรับ BYD ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน เตรียมเซ็นซื้อที่แปลงใหญ่ ลงเสาเข็มตั้งโรงงานผลิตรถ EV ในไทย มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท

(+ EA, NEX) รัฐสั่งบัสอีวี 7 พันคัน EA ครบครันโครงข่าย (ทันหุ้น) “ศักดิ์สยาม” ประกาศขอ 3 ปีเปลี่ยนรถโดยสารสาธารณะเป็นรถอีวีทั้งหมด 5-7 พันคัน EA พร้อมปักธงผู้นำโครงข่ายรถโดยสารสาธารณะ พลังงานสะอาดครบวงจร ทั้ง รถเมล์ รถบรรทุก เรือ หัวลากรถไฟพลังงานไฟฟ้า ลั่นไตรมาส 3/2565 ส่งรถเมล์อีวี 7-8 ร้อยคัน ทั้งปี 2565 ส่งได้ 1,500 คัน พร้อมลงทุนโรงงานอีวีเพิ่มเป้าเบอร์ 1 อาเซียน

(+) ไฟเขียว! จ่ายยาโควิด IP-HL มีร้านพร้อมรับ (ทันหุ้น) ศบค.เคาะวันที่ 1 กันยายนนี้ ร้านขายยาสามารถจ่ายยาให้ผู้ป่วยโควิด-19 ได้ตามใบสั่งแพทย์ พบ IP โดดรับอานิสงส์ขึ้นแท่นให้บริการสินค้าโควิดครบวงจร มีร้านขายยากว่า 20 สาขา ตั้งเป้าโกยยอดปีนี้ 40 ล้านบาท ส่วน HL มองเชิงบวก เชื่อกันผลงานครึ่งปีหลังติดเครื่องวิ่งต่อ คาดยอดขายโตเกินเป้า 10%

(+) จีนเจรจาไทยขอเพิ่มเที่ยวบินเป็น 15 ไฟลท์ต่อสัปดาห์ ก.ย.นี้ (ข่าวหุ้น) จีนคัมแบ็ค! เจรจาไทยขอเพิ่มเที่ยวบินโดยสารระหว่างไทย-จีนเป็น 15 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากเดิม 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ กพท.เร่ง ประชุมแอร์ไลน์สอบถามความต้องการก่อนจัดทำแผนเสนอจีนโดยเร็ว คาดเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่กันยายนนี้

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดขายทำกำไร PTG* (Trailing stop 15.1 บาท) KBANK (Trailing stop 151 บาท)
  • COM7* (เป้าพื้นฐาน 37 บาท) แนวรับ 33.5 บาท / แนวต้าน 35 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run (Trailing stop 32 บาท)
  • LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) แนวรับ 12.7 บาท / แนวต้าน 13.1 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 12.5 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนวรับ 13.9 บาท / แนวต้าน 14.2-14.5 บาท (Trailing stop 13.6 บาท)
  • SNNP (เป้า Consensus 19.9 บาท) แนวรับ 15.9 บาท / แนวต้าน 16.2-16.5 บาท (Trailing stop 15.9 บาท)
  • TFG (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) แนวรับ 6.1 บาท / แนวต้าน 6.4-6.75 บาท (Stop loss 5.9 บาท)
  • UBE (เป้าพื้นฐาน 2.9 บาท) แนวรับ 1.87 บาท / แนวต้าน 1.95-2.04 บาท (Stop loss 1.86 บาท)
  • ECL (เป้าพื้นฐาน 3.4 บาท) แนวรับ 2.36 บาท / แนวต้าน 2.5-2.6 บาท (Stop loss 2.36 บาท)
  • CRC* (เป้า Consensus 43.2 บาท) แนวรับ 39.25 บาท / แนวต้าน 40-41.5 บาท (Stop loss 38.5 บาท)
  • CHAYO (เป้า Consensus 17.2 บาท) แนวรับ 10.7 บาท / แนวต้าน 11.1-11.3 บาท (Stop loss 10.6 บาท)
  • IP (เป้า Consensus 24.9 บาท) แนวรับ 17.7 บาท / แนวต้าน 18.4-18.7 บาท (Stop loss 17.4 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

BH* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 225 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวแข็งแกร่งต่อเนื่อง ส่วนในกรณีการขายหุ้น Big lot ของผู้ถือหุ้นรายใหญ่คาดไม่กระทบต่อปัจจัยพื้นฐาน

- Advertisement -