บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Krung Thai Bank (KTB TB) คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น

“ซื้อ” เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 19 บาท

เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อคุณภาพสินทรัพย์ และคาดว่าต้นทุนสินเชื่อที่ลดลงจะช่วยหนุนกำไรให้เติบโต 46% ในปีนี้ แนะนำ “ซื้อ” เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 19 บาท (P/BV ปี 65 ที่ 0.7 เท่า ROE 8.3%) จาก 18 บาท หลังปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 65-66 ขึ้น 8-10% จาก NIM ที่สูงขึ้น และต้นทุนเครดิตที่ลดลง ช่องว่างของราคาหุ้นกับธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ น่าจะแคบลง เนื่องจากการเติบโตของกำไรต่อหุ้นที่แข็งแกร่ง เรามองว่าราคาหุ้น KTB น่าสนใจ ซื้อ ขายที่ PBV ปี 65 ที่ 0.6 เท่า และ PER 7 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ PBV ปี 65 ที่ 0.8 เท่า และ PER 9 เท่า เราเลือก KTB เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มแบงก์

ผลประกอบการ 2Q65 และคุณภาพสินทรัพย์ดีกว่าคาด

กำไรสุทธิ 2Q65 เพิ่มขึ้น 39% YoY แตะ 8.3 พันล้านบาท จากการเติบโตของ NII ที่แข็งแกร่ง และต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง สินเชื่อเติบโต 6% YoY ขณะที่ NIM เพิ่มขึ้น 8bp QoQ เป็น 2.50% จากผลตอบแทนเงินกู้ที่สูงขึ้น OPEX เพิ่มขึ้นเพียง 2% YoY เนื่องจากการควบคุมต้นทุนที่ดี (ค่าใช้จ่ายพนักงานลดลง 11% YoY และ 15% QoQ) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ (CIR) ทรงตัว YoY ที่ 42.6% ขณะที่ PPoP เพิ่มขึ้น 2% YoY ใน 2Q65 ทั้งนี้ KTB บันทึกผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 5.7 พันล้านบาท ลดลง 30% YoY หรือ 86bp ในไตรมาส 2/65 อัตราส่วน NPL ลดลง 5bp QoQ มาอยู่ที่ 3.96% ส่วน NPL coverage เพิ่มขึ้น 2ppts เป็น 168% ในไตรมาส 2/65

ต้นทุนสินเชื่อลดแรงจากพอร์ตสินเชื่อความเสี่ยงต่ำ และบัฟเฟอร์ขนาดใหญ่ใน LLR

ในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ผู้บริหารเผยว่าต้นทุนสินเชื่อที่ลดลงอย่างรวดเร็ว เป็นผลมาจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น (โดย 40% ของเงินให้สินเชื่อทั้งหมดเป็นเงินให้กู้ยืมของรัฐบาลที่มีความเสี่ยงต่ำ และเงินให้กู้ยืมแก่พนักงานของรัฐ) ผบห.คาดว่าต้นทุนสินเชื่อจะทรงตัว HoH ใน 2H65 เทียบกับ 1H65 ทั้งนี้ ต้นทุนสินเชื่อลดลงเหลือ 84bps ใน 1H65 จาก 135-203bps ในปี 63-64 ขณะที่ CFO ได้ปรับเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อขึ้น 1ppt เป็น 4-5% ในปีนี้ เนื่องจากความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นจากภาคธุรกิจและรายย่อย ส่วนเป้าหมายทางการเงินอื่นๆ (NIM 2.5% CIR 42-45%) ยังคงไว้ตามเป้าหมายก่อนหน้านี้

เพิ่ม EPS ขึ้น 8-10% จาก NIM สูงขึ้น ต้นทุนสินเชื่อลดลง

เราเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 65-66 ขึ้น 8-10% จาก NIM ที่สูงขึ้นและต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง พร้อมลดคาดการณ์ต้นทุนสินเชื่อลง 5-11bps เป็น 86-90bps ในปี 65-66 เพื่อสะท้อนคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีกว่าที่คาดไว้ในครึ่งปีแรก เราประเมินว่ากำไรจะเติบโต 46% YoY เทียบกับ ค่าเฉลี่ยของกลุ่มแบงก์ที่ 18% ในปีนี้ คาดว่า KTB จะรายงานการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง YoY ในไตรมาสที่เหลือในปีนี้ ขณะที่ NIM จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น

- Advertisement -