บล.พาย:

OR: บมจ. ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก “ค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันสูงขึ้น ราคาหุ้นไม่แพง”

เพิ่มคำแนะนำจากถือเป็น “ซื้อ” เพราะปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานขึ้น 11% จาก 27.0 บาท เป็น 30.0 บาท หลังจากทำการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022-23 ขึ้น 10%-36% เพื่อสะท้อนถึงค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่สูงขึ้น ทั้งนี้ อัตรากำไรน้ำมันต่อหน่วยของบริษัทเพิ่มเป็น 1.38 บาท/ลิตร ในช่วง 1H22 (เพิ่มขึ้น 20% จากสมมติฐานปี 2022 ของเราที่ 1.15 บาท/ลิตร) คาดกำไรจะปรับดีขึ้น YoY ใน 2H22 หลังจากค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันมีภาพรวมแข็งแกร่ง และมียอดขายเชื้อเพลิงอากาศยานและดีเซลที่ดีขึ้น แต่ค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ลดลงจากยอดสูงใน 2Q22 อาจฉุดกำไร 3Q22 ลง QoQ ทั้งนี้ เชื่อว่าประเด็นค้างค่าเกี่ยวกับค่าการตลาดที่อ่อนแอจากเพดานราคาดีเซลช่วง 4Q21-1H22 นั้นคลี่คลายลงแล้ว ขณะที่มูลค่าหุ้นก็ปรับลดลงสู่ระดับที่น่าดึงดูดที่ 23xPE’23E หรือ -1SD ต่อ ค่าเฉลี่ย 2 ปี จึงถือเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน

ค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่สูงขึ้นช่วยหนุนกำไร 2Q22

  • กำไรสุทธิ 2Q22 โตแตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 6.6 พันล้านบาท (+104% YoY, +71% QoQ) นับว่าสูงกว่าคาดและดีกว่าที่ตลาดคาด 20% การเติบโตของกำไรได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งที่ดีขึ้นของธุรกิจเคลื่อนที่ (อัตรากำไรและปริมาณขายดีขึ้น) และธุรกิจไลฟ์สไตล์ (ยอดขายร้าน Amazon ที่สูงขึ้น)
  • EBITDA ในธุรกิจน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 8.3 พันล้านบาท (+98% YoY, +73% QoQ) หนุนจากอัตรากำไร/หน่วยที่พุ่งขึ้นเป็น 1.6 บาท/ลิตร (+ 31%YoY, +41%QoQ) ได้แรงกระตุ้นจากการผ่อนปรนมาตรการ กำหนดเพดานราคาดีเซล และยอดขายเชื้อเพลิงอากาศยานที่สูงขึ้น
  • from easing of diesel price cap and higher jet fuel sales.

คาดค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันแข็งแกร่งต่อเนื่องใน 2H22-2023

  • คาดกำไร 2H22 ปรับดีขึ้น YoY จากค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่แข็งแกร่งและปริมาณขายที่ดีขึ้น โดยคาดว่ายอดขายน้ำมันจะฟื้นตัว จากยอดขายเชื้อเพลิงอากาศยานที่เพิ่มขึ้น เพราะกิจกรรมการเดินทางระหว่างประเทศที่พุ่งสูงขึ้น และอุปสงค์การใช้ดีเซลในโรงไฟฟ้าที่สูงขึ้น เพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติที่มีต้นทุนพุ่งสูงขึ้น
  • คาดค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันจะทรงตัวที่ 1.4 บาท/ลิตร ใน 2H22 (ปรับดีขึ้น YoY จาก 1.0 บาท/ลิตรใน 2H21 แต่ลดลงจากยอดสูงที่ 1.61 บาท/ลิตร ใน 2Q22) จึงคาดว่าค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่อ่อนตัวลง ผนวกกับขาดทุนสต็อกน้ำมันสืบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง 8% QTD จะกลายเป็นปัจจัยฉุดกำไร 3Q22 ลง แต่คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวใน 4Q22 จากการเติบโตของยอดขายตามปัจจัยฤดูกาล

เพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 30.0 บาท

มูลค่าพื้นฐานดังกล่าวคำนวณด้วยวิธีรวมส่วนธุรกิจ (SOTP) อิง 26xPE’23E หรือคิดเป็นส่วนลด 10% ของค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยในไทย ทั้งนี้ มูลค่าพื้นฐานดังกล่าวประกอบด้วยมูลค่าจากธุรกิจน้ำมันที่ 18.0 บาท (12× EV/EBITDA) และธุรกิจนอกเหนือจากน้ำมัน (non-oil) ที่ 12.0 บาท (24x EV/EBITDA).

กำไรสุทธิ 2Q22 โต 104% YoY และ 71% QoQ

  • กำไรสุทธิ 2Q22 โตแตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 6.6 พันล้านบาท (+104% YoY, +71% QoQ) นับว่าสูงกว่าคาดและดีกว่าที่ตลาดคาด 20%
  • การเติบโต YoY และ QoQ ได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งที่ดีขึ้นของธุรกิจเคลื่อนที่ (อัตรากำไรและปริมาณขายดีขึ้น) และธุรกิจไลฟ์สไตล์ (ยอดขายร้าน Amazon ที่สูงขึ้น)
  • EBITDA ในธุรกิจน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 8.3 พันล้านบาท (+98% YoY, +73% QoQ) หนุนจากอัตรากำไร/หน่วยที่พุ่งขึ้นเป็น 1.6 บาท/ลิตร (+ 31%YoY, +41%QoQ) ได้แรงกระตุ้นจากการผ่อนปรนมาตรการกำหนดเพดานราคาดีเซล และยอดขายเชื้อเพลิงอากาศยานที่สูงขึ้น
  • ปริมาณขายน้ำมันใน 2Q22 เพิ่มเป็น 6.9 ล้านลิตร (+24%YoY, +2%QoQ) การเติบโตในเชิง YoY ได้แรงหนุนจากการกลับมาเปิดเศรษฐกิจ หลังเผชิญวิกฤตโควิด-19 ส่วนในเชิง QoQ ได้แรงกระตุ้นจากยอดขายเชื้อเพลิงอากาศยานที่สูงขึ้น
  • ผลประกอบการธุรกิจ non-oil ฟื้นตัวแข็งแกร่ง กลุ่มไลฟ์สไตล์ (กาแฟ ฯลฯ) มี EBITDA ที่เพิ่มเป็น 1.5 พันล้านบาท (+31% YoY, +8% QoQ) หนุนจากยอดขายกาแฟที่ร้าน Amazon ที่สูงขึ้น 30% (YoY)

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022-23 ขึ้น 10%-36%

  • ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022 ขึ้น 36% เป็น 1.61 หมื่นล้านบาท หนุนจาก 1) รายได้จากธุรกิจเคลื่อนที่ที่สูงขึ้น เนื่องจากราคาเบนซิน ดีเซล และเชื้อเพลิงอากาศยานพุ่งสูงขึ้น หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น และสภาวะความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเคน
  • ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไร/ลิตรสำหรับปี 2022 ขึ้น 22% หนุนจากอัตรากำไรดีเซลที่ดีขึ้น สืบเนื่องจากการผ่อนปรนมาตรการกำหนดเพดานราคา และอัตรากำไรเชื้อเพลิงอากาศยานที่ดีขึ้นจากยอดขายที่สูงขึ้น อันเป็นผลมาจากกิจกรรมการเดินทางระหว่างประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น
  • คาดอัตรากำไรต่อหน่วยของการขายน้ำมันจะยังแข็งแกร่งในช่วงปี 2023 ด้วยเหตุนี้จึงปรับสมมติฐานดังกล่าวขึ้นเป็น 1.2 บาท/ลิตร จาก 1.15 บาท/ลิตร และปรับประมาณการกำไรปี 2023 ขึ้น 10%

Revenue breakdown

  • ธุรกิจน้ำมัน (คิดเป็น 93% ของรายได้รวม, 76% ของ EBITDA รวม) บริษัทดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมผ่านสถานีบริการทั้งหมด 2,315 แห่ง โดยบริษัทมีผลิตภัณฑ์ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิงการบิน  น้ำมันเตาสำหรับเรือและผู้ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่น และก๊าซหุงต้ม
  • ธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ (non-oil) (คิดเป็น 3% ของรายได้รวม, 21% ของ EBITDA รวม) โดยธุรกิจนี้ประกอบด้วย คาเฟ่อเมซอนจำนวน 3,628 สาขา ร้าน Texas Chicken 96 สาขา และร้านสะดวกซื้อ 2,075 สาขา ที่จำหน่ายอาหารเครื่องดื่มและสินค้าอุปโภค บริโภคพื้นฐานภายใต้แบรนด์ Jiffy ที่บริษัทเป็นเจ้าของ และภายใต้แบรนด์ 7-Eleven นอกจากนี้บริษัท ยังดำเนินธุรกิจบริหารพื้นที่ให้เช่าและบริการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในสถานีบริการของบริษัทด้วย
  • ธุรกิจต่างประเทศ (คิดเป็น 6% ของรายได้รวม, 4% ของ EBITDA รวม) นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินธุรกิจที่ใช้แพลตฟอร์มการค้าปลีกน้ำมันและธุรกิจ non-oil ในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ กัมพูชา และลาว
- Advertisement -